สมอ.แก้ไขมาตรฐานเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ

กรุงเทพฯ 2 เม.ย. – สมอ.แก้ไขมาตรฐานเจลแอลกอฮอล์ล้างมือต้องฆ่าเชื้อโควิด 19 ได้ พร้อมเร่งผู้ผลิตชุมชนทำสินค้าให้ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยของประชาชน


นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า สมอ.ได้แก้ไขมาตรฐานผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือ รวมถึงเจลแอลกอฮอล์ล้างมือที่กำหนดเป็นมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน มผช.เลขที่ 907/2554 อย่างเร่งด่วน เพื่อให้สอดคล้องตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข โดยแก้ไขเกณฑ์กำหนดส่วนผสมของแอลกอฮอล์ต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 โดยปริมาตร เนื่องจากมาตรฐานเดิมกำหนดหว่างร้อยละ 25.0 ถึง 69.0 โดยน้ำหนัก และได้แก้ไขหมายเลขมาตรฐาน จากเดิมเลขที่ มผช.907/2554 เป็น มผช.907/2563 ด้วย ทั้งนี้ มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือ มผช.907/2563 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2563

สำหรับการแก้ไขมาตรฐานเจลแอลกอฮอล์ล้างมือครั้งนี้สอดคล้องกับกระทรวงสาธารณสุขออกประกาศห้ามผลิต นำเข้า หรือขายเครื่องสำอาง ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพื่อสุขอนามัยสำหรับมือ เพียงสารเดียวหรือผสมรวมกันต่ำกว่าร้อยละ 70 โดยปริมาตร โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2563 เพราะมีผู้ค้าบางรายฉวยโอกาสบนความเดือดร้อนของประชาชนนำเจลแอลกอฮอล์ล้างมือปลอมออกมาขาย ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 ซึ่งซ้ำเติมประชาชนที่กำลังเดือดร้อนและสร้างความเสียหายต่อผู้ประกอบการที่ผลิตเจลแอลกอฮอล์ล้างมือเป็นอย่างมาก 


เลขาธิการ สมอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ผลิตชุมชนและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถนำมาตรฐาน มผช.907/2563 ไปเป็นแนวทางในการผลิตเจลแอลกอฮอล์ล้างมือที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และสามารถฆ่าเชื้อไวรัสโควิด 19 ได้ โดยขอให้ยื่นจดแจ้งกับกระทรวงสาธารณสุขตามกฎหมายก่อน หลังจากนั้นยื่นขอการรับรองที่ สมอ. หรือสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น  

ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tisi.go.th หรือสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2202-3352, 0-2202-3397 กองบริหารมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน สมอ. สำหรับผู้ผลิตชุมชนจำนวน 2 ราย ที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานเดิม จะต้องยื่นขอการรับรองตามมาตรฐานใหม่ เพื่อให้สามารถผลิต และขายได้อย่างต่อเนื่องต่อไป จึงขอฝากถึงประชาชนให้เลือกซื้อเจลแอลกอฮอล์ล้างมือด้วยความรอบคอบ เลือกที่ได้มาตรฐาน โดยได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เพื่อความปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนอากาศร้อน เตือนระวังพายุฤดูร้อน

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนอากาศร้อน เตือนระวังพายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ค้นหาผู้สูญหายตึกถล่ม

เร่งปรับแผนค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม

เกือบ 200 ชั่วโมง ปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายติดใต้ซากตึกถล่ม K9 เห่าส่งสัญญาณพบกลิ่นมนุษย์เพิ่มในโซน B แต่ยังอยู่ในจุดที่เข้าถึงยาก เจ้าหน้าที่เร่งปรับแผนให้เข้าถึงได้เร็วขึ้น

ค้นหาผู้สูญหายตึกถล่ม

ทีมกู้ภัย USAR จากแคนาดา ถึงจุดตึกถล่ม ช่วยค้นหาผู้สูญหาย

ทีมกู้ภัย USAR จากแคนาดา ถึงอาคารกำลังสร้างของ สตง.ที่ถล่มแล้ว พร้อมช่วยเหลือกู้ภัยไทยในการค้นหาผู้สูญหาย

ค้นหาตึกถล่ม

ฉีดน้ำเครื่องจักรลดความร้อน-ไม่หมดหวังค้นหาผู้รอดชีวิต

ทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต หรือ MCATT ลงพื้นที่ดูแลญาติผู้สูญหายจากตึก สตง.ถล่ม ขณะที่เจ้าหน้าที่ทีมค้นหายังคงเดินหน้าทำงานอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัด