ยะลา 31 มี.ค. – ผู้เสียชีวิตรายที่ 11 ของประเทศไทย ได้รับการยืนยันจาก จ.ยะลา เป็นชายอายุ 79 ปี มีประวัติเดินทางกลับมาจากมาเลเซีย ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม และมีอาการป่วยหลังจากเดินทางกลับมา 14 วัน
นพ.สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา รายงานในที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อของจังหวัด ยืนยันพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มเติมอีก 1 ราย ถือเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 2 ของจังหวัดยะลา และเป็นรายที่ 11 ของประเทศไทย จากจำนวนผู้ป่วยสะสมในจังหวัด 38 คน และรักษาหายแล้ว 3 คน ผู้เสียชีวิตเป็นเพศชาย อายุ 79 ปี เป็นชาว ต.บาโงยซิแน อ.ยะหา จ.ยะลา
ข้อมูลญาติผู้เสียชีวิตลำดับเหตุการณ์ไว้ดังนี้
วันที่ 7 มีนาคม ผู้เสียชีวิตได้เดินทางไปที่รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เพื่อร่วมงานแต่งงาน โดยสารด้วยรถตู้ และไม่ได้ค้างคืน
จากนั้นวันที่ 21 มีนาคม มีอาการอ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว
กระทั่ง 23 มีนาคม เข้ารับการรักษาครั้งแรกที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา ที่แผนกผู้ป่วยนอกด้วยอาการไข้ ผู้เสียชีวิตไม่ได้ให้ประวัติว่าเดินทางกลับมาจากประเทศเสี่ยง แพทย์จึงให้ยาก่อนกลับบ้าน
อาการไม่ดีขึ้น วันที่ 27 มีนาคม ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหาอีกครั้ง และมีไข้สูงถึง 39.1 องศาฯ มีอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ และถูกเอกซ์เรย์ปอด
จากนั้นในวันที่ 28 มีนาคม ถูกส่งต่อไปโรงพยาบาลยะลา และตรวจพบว่ามีประวัติรักษาโรคประจำตัว ทั้งไตวายเรื้อรัง และเบาหวาน กระทั่งผลตรวจทางห้องปฏิบัติการพบว่าติดเชื้โควิด-19 กระทั่งวันนี้ (31 มี.ค.) เสียชีวิตในเวลา 08.15 น.
ภายหลังจากเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ได้ร่วมประกอบพิธีฝังศพที่กุโบร์บ้านบูเกะ หมู่ที่ 2 ต.บาโงยซิแน อ.ยะหา ซึ่งจัดการศพตามหลักการแพทย์ทุกประการ และหลังจากนี้แพทย์ได้เฝ้าระวังผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิตภายในบ้าน 2 คน คือภรรยาและหลาน ผลตรวจเบื้องต้นยังไม่มีอาการใดๆ จึงให้กักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ส่วนผู้สัมผัสในชุมชนที่เดินทางไปเยี่ยมผู้ป่วยก่อนติดเชื้อมี 5 คน จึงสั่งให้สังเกตอาการที่บ้าน 14 วันเช่นเดียวกัน. – สำนักข่าวไทย