ปลัดสธ.ห่วงหน้ากากN95ไม่พอ เป็นที่ต้องการทั่วโลก

สธ.31มี.ค.-สธ.ห่วงหน้ากากอนามัยแบบN95 ไม่พอเพราะทั่วโลกต้องการไม่แตกต่างกัน เตรียมนำระบบอบฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวีมาใช้ พร้อมแจงข้อมูลการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ปรับตามสถานการณ์ปัจจุบัน ห่วงคนป่วยไม่มีอาการและอาการน้อย จนถึงอาการน้อย แต่มีโรคร่วมต้องพบแพทย์โดยเร็ว 




นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์โรคโควิด -19 ว่า พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 127 คน รักษาหายแล้ว 215 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่ม 342 คน เหลือนอนรักษาใน รพ.1,299 คน ขณะนี้พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน ใน จ.มหาสารคาม มีอาชีพเป็นนักร้อง และมีโรคประจำตัว เบาหวาน มะเร็ง ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวม 10 คน ส่วนผู้ป่วยอาการหนักคงที่ 23 คน จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น 62คน ยังคงเป็นผู้ป่วยกลุ่มเดิม ที่มาจากสนามมวย 4 คน และสถานบันเทิง 11 คน สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย 47 คน ส่วนผู้ป่วยรายใหม่ส่วนใหญ่มาจากการเดินทางกลับจากต่างประเทศ 23 คน ทำงานอาชีพเสี่ยง 9 คน บุคลากรทางการแพทย์ 3 คน ไปชุมชน 6 คน ขณะนี้สถานการณ์การระบาดของไทย การเพิ่มจำนวนของผู้ป่วย อยู่ที่ประมาณร้อยละ 8  หากคนไทยร่วมมือกันมีระยะห่าง จะช่วยให้สามารถควบคุมโรคได้ 


นพ.สุขุม กล่าวว่า การพบผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุประมาณ 20-50 ปี และสังเกตได้จากพฤติกรรมการติดของโรค มาจากกิจกรรม ทั้งสนามมวยและสถานบันเทิง ส่วนคนเสียชีวิตพบในอายุ 50-60 ปี มีโรคประจำตัวร่วม ทั้งเบาหวาน อ้วน และไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยง พร้อมห่วงเรื่องสถานการณ์การขาดแคลนหน้ากากแบบ N 95 ที่เป็นกันทั่วโลก เพราะหลายประเทศกำลังเผชิญปัญหาสถานการณ์การระบาดเช่นกัน แม้จะมีการสั่งซื้อแล้วแต่ก็ยังไม่เพียงพอ เพราะความต้องการใช้ประมาณ 5 แสนชิ้นต่อเดือน จึงเตรียมนำระบบ อบร้อนด้วยรังสียูวีสูง มาใช้ฆ่าเชื้อหน้ากากอนามัยแบบN95 ให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ 

นพ.สกานต์ บุนนาค ผอ.สถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราช ญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ กล่าวว่า แนวทางการรักษาผู้ป่วยมีการปรับตามสถานการณ์และปัจจัยในปัจจุบัน โดยมีสมาคมราชวิทยาลัยและโรงเรียนแพทย์ร่วมกันกำหนด แบ่งผู้ป่วยออกเป็น 5 กลุ่มได้แก่ 1.ติดเชื้อไม่มีอาการ  2.ติดเชื้อมีอาการเล็กน้อย คล้ายไข้หวัด แต่ไม่มีโรคประจำตัว 3.ติดเชื้อมีอาการเล็กน้อย แต่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน อ้วน 4.ปอดบวม แต่อาการไม่รุนแรง และ 5.ปอดบวมอาการรุนแรง  ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งในกลุ่ม 3-4 ไม่น่าห่วง เพราะเมื่อปอดอักเสบ ต้องนอน รพ.แต่ในกลุ่ม 1-3 เหล่านี้ ไม่มีอาการ แต่ควรมารีบพบแพทย์ โดยต้องรับการรักษาอยู่ใน รพ. 2-7 วัน แม้ไม่มีอาการ ต้องเฝ้าดูอาการ หากพบเริ่มป่วยรุนแรงขึ้น แพทย์จะจัดสูตรยาที่เหมาะสม ปรับไปเรื่อยๆ  

นพ.สกานต์ กล่าวว่า กรณีไม่พบอาการป่วย ก็จะถูกส่งไปดูอาการต่อที่โฮสปิเทล หรือหอพักผู้ป่วยที่ดัดแปลงมาจากโรงแรมดูอาการ 14 วัน เมื่อครบแล้ว จึงจะอนุญาตให้กลับบ้าน และเมื่อกลับบ้านถึงบ้าน สามารถทำงานได้เป็นปกติ แต่ต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้อื่น สวมหน้ากากอนามัย ไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่นอีก 1เดือน จึงจะถือว่าปลอดภัย

นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกระแสแขวนกะเพราหน้าบ้านป้องกันโควิด-19 ว่า แขวนอะไรก็ไม่ช่วย สิ่งเดียวที่ช่วยได้คือวิธีปฏิบัติตัว หลีกเลี่ยงการเข้าไปสถานที่แออัด เครื่องรางของขลังอย่าไปหวัง ควรหวังให้ตนเองปลอดภัยจากวิธีปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง พร้อมย้ำตัวเลขคาดการสถานการณ์การป่วย จัดทำเพื่อการวางแผน เตรียมอุปกรณ์ เตียง หอผู้ป่วย และเวชภัณฑ์ คำนวณโดยนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค  เพราะถ้าไม่ทำอะไรเลย ภายในสิ้นเดือน เม.ย.เราจะมีผู้ป่วย 20,000-25,000 คน ซึ่งถ้าทุกคนมีการเว้นระยะห่างทางสังคมร้อยละ50 จะมีผู้ป่วยเพียง 15,000-17, 000 คน และถ้าทุกคนทำได้ร้อยละ 80 จะมีผู้ป่วยเพียง 7,000 คน หากทุกคนร่วมกันออกจากบ้านให้น้อยลง จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อก็จะลดลง 

ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่าเชื้อโควิด-19  แพร่ระบาดจากการสวมรองเท้า   เข้าบ้านนั้น นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า การรับเชื้อโควิด-19 เข้าสู่ร่างกายผ่านทางการหายใจ จากการรับเชื้อโดยตรงจากผู้ไอจาม หรือใช้มือเปื้อนเชื้อไปสัมผัสตา จมูกและปาก แม้การใส่รองเท้าเข้าบ้าน อาจเป็นตัวกลางนำเชื้อเข้าบ้าน แต่ถ้าหมั่นล้างมือบ่อยๆ จะหยุดการแพร่ระบาดและการรับเชื้อได้  พร้อมยืนยันกระบวนการสอบสวนโรค กรณีพบเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค ติดเชื้อโควิด -19 จะทำอย่างรัดกุม ตรงไปตรงมา ทราบว่าขณะนี้ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงส่วนหนึ่ง ได้กักตัวเองดูอาการที่บ้านเป็นเวลา 14 วันแล้ว .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

Trump says he is seeking a ceasefire between Thailand, Cambodia

“ทรัมป์” โยงเรื่องการค้ากับหยุดยิงไทย-กัมพูชา

เอดินบะระ 27 ก.ค.-  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พูดคุยกับผู้นำของทางการไทยและกัมพูชา โดยโยงเรื่องการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐกับเรื่องหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ในระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยและกัมพูชา 3 โพสต์ติดต่อกัน โพสต์แรกระบุว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาเนตกัมพูชาและนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษานายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการหยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐซึ่งกำลังหารือทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดประเทศหนึ่งหากยังมีการสู้รบกันอยู่ กัมพูชาจะแสดงท่าทีเรื่องหยุดยิงหลังจากที่เขาได้คำตอบจากไทยในเรื่องนี้ นายทรัมป์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทำให้เขานึกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดียที่ได้รับการยับยั้งเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า ได้สนทนากับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ฝ่ายไทยต้องการหยุดยิงและสันติภาพเช่นเดียวกับกัมพูชา และหลังจากนั้นไม่นานผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความที่ 3 ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและแจ้งเรื่องที่ได้หารือกับทางการไทย ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการหยุดยิงและสันติภาพ และต้องการกลับมาเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ โดยตกลงจะพบหารือและหาทางหยุดยิงโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อที่เมืองปุตราจายาเมื่อวานนี้ว่า จะเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ เขาได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชา และหากเป็นไปได้ เขาจะเข้าไปประสานงานด้วยตัวเองเพื่อหยุดยั้งการสู้รบ รอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาสนับสนุนข้อเสนอของนายอันวาร์ ส่วนไทยระบุว่า เห็นชอบในหลักการ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ “กัมพูชา” เปิดฉากยิงทหารไทยแต่เช้าตรู่

กทม. 27 ก.ค.-โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีทหารไทยแต่เช้าตรู่ หลัง “ทรัมป์” ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวดBM-21 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯ กัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่เป็นบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อ เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ […]

“ภูมิธรรม” เผยเห็นชอบข้อเสนอ “ทรัมป์” แต่กัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยคุย “ทรัมป์” เห็นชอบข้อเสนอหยุดยิง แต่ต้องการเห็นความตั้งใจจริงของกัมพูชาและเร่งหารือทวิภาคี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านfacebook Phumtham Wechayachai เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดน ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีจากสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า “ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง” อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องการเห็น “ความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว” ไทยจึงได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดจุดยืนนี้ไปยังกัมพูชา โดยเสนอให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด และให้กัมพูชาแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิง ซึ่งจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนในระยะยาว การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับข้อความที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่า “เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า […]

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-อีสาน

กทม. 27 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน และอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]