ปลัดสธ.ห่วงหน้ากากN95ไม่พอ เป็นที่ต้องการทั่วโลก

สธ.31มี.ค.-สธ.ห่วงหน้ากากอนามัยแบบN95 ไม่พอเพราะทั่วโลกต้องการไม่แตกต่างกัน เตรียมนำระบบอบฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวีมาใช้ พร้อมแจงข้อมูลการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ปรับตามสถานการณ์ปัจจุบัน ห่วงคนป่วยไม่มีอาการและอาการน้อย จนถึงอาการน้อย แต่มีโรคร่วมต้องพบแพทย์โดยเร็ว 




นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์โรคโควิด -19 ว่า พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 127 คน รักษาหายแล้ว 215 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่ม 342 คน เหลือนอนรักษาใน รพ.1,299 คน ขณะนี้พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน ใน จ.มหาสารคาม มีอาชีพเป็นนักร้อง และมีโรคประจำตัว เบาหวาน มะเร็ง ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวม 10 คน ส่วนผู้ป่วยอาการหนักคงที่ 23 คน จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น 62คน ยังคงเป็นผู้ป่วยกลุ่มเดิม ที่มาจากสนามมวย 4 คน และสถานบันเทิง 11 คน สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย 47 คน ส่วนผู้ป่วยรายใหม่ส่วนใหญ่มาจากการเดินทางกลับจากต่างประเทศ 23 คน ทำงานอาชีพเสี่ยง 9 คน บุคลากรทางการแพทย์ 3 คน ไปชุมชน 6 คน ขณะนี้สถานการณ์การระบาดของไทย การเพิ่มจำนวนของผู้ป่วย อยู่ที่ประมาณร้อยละ 8  หากคนไทยร่วมมือกันมีระยะห่าง จะช่วยให้สามารถควบคุมโรคได้ 


นพ.สุขุม กล่าวว่า การพบผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุประมาณ 20-50 ปี และสังเกตได้จากพฤติกรรมการติดของโรค มาจากกิจกรรม ทั้งสนามมวยและสถานบันเทิง ส่วนคนเสียชีวิตพบในอายุ 50-60 ปี มีโรคประจำตัวร่วม ทั้งเบาหวาน อ้วน และไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยง พร้อมห่วงเรื่องสถานการณ์การขาดแคลนหน้ากากแบบ N 95 ที่เป็นกันทั่วโลก เพราะหลายประเทศกำลังเผชิญปัญหาสถานการณ์การระบาดเช่นกัน แม้จะมีการสั่งซื้อแล้วแต่ก็ยังไม่เพียงพอ เพราะความต้องการใช้ประมาณ 5 แสนชิ้นต่อเดือน จึงเตรียมนำระบบ อบร้อนด้วยรังสียูวีสูง มาใช้ฆ่าเชื้อหน้ากากอนามัยแบบN95 ให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ 

นพ.สกานต์ บุนนาค ผอ.สถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราช ญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ กล่าวว่า แนวทางการรักษาผู้ป่วยมีการปรับตามสถานการณ์และปัจจัยในปัจจุบัน โดยมีสมาคมราชวิทยาลัยและโรงเรียนแพทย์ร่วมกันกำหนด แบ่งผู้ป่วยออกเป็น 5 กลุ่มได้แก่ 1.ติดเชื้อไม่มีอาการ  2.ติดเชื้อมีอาการเล็กน้อย คล้ายไข้หวัด แต่ไม่มีโรคประจำตัว 3.ติดเชื้อมีอาการเล็กน้อย แต่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน อ้วน 4.ปอดบวม แต่อาการไม่รุนแรง และ 5.ปอดบวมอาการรุนแรง  ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งในกลุ่ม 3-4 ไม่น่าห่วง เพราะเมื่อปอดอักเสบ ต้องนอน รพ.แต่ในกลุ่ม 1-3 เหล่านี้ ไม่มีอาการ แต่ควรมารีบพบแพทย์ โดยต้องรับการรักษาอยู่ใน รพ. 2-7 วัน แม้ไม่มีอาการ ต้องเฝ้าดูอาการ หากพบเริ่มป่วยรุนแรงขึ้น แพทย์จะจัดสูตรยาที่เหมาะสม ปรับไปเรื่อยๆ  

นพ.สกานต์ กล่าวว่า กรณีไม่พบอาการป่วย ก็จะถูกส่งไปดูอาการต่อที่โฮสปิเทล หรือหอพักผู้ป่วยที่ดัดแปลงมาจากโรงแรมดูอาการ 14 วัน เมื่อครบแล้ว จึงจะอนุญาตให้กลับบ้าน และเมื่อกลับบ้านถึงบ้าน สามารถทำงานได้เป็นปกติ แต่ต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้อื่น สวมหน้ากากอนามัย ไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่นอีก 1เดือน จึงจะถือว่าปลอดภัย

นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกระแสแขวนกะเพราหน้าบ้านป้องกันโควิด-19 ว่า แขวนอะไรก็ไม่ช่วย สิ่งเดียวที่ช่วยได้คือวิธีปฏิบัติตัว หลีกเลี่ยงการเข้าไปสถานที่แออัด เครื่องรางของขลังอย่าไปหวัง ควรหวังให้ตนเองปลอดภัยจากวิธีปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง พร้อมย้ำตัวเลขคาดการสถานการณ์การป่วย จัดทำเพื่อการวางแผน เตรียมอุปกรณ์ เตียง หอผู้ป่วย และเวชภัณฑ์ คำนวณโดยนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค  เพราะถ้าไม่ทำอะไรเลย ภายในสิ้นเดือน เม.ย.เราจะมีผู้ป่วย 20,000-25,000 คน ซึ่งถ้าทุกคนมีการเว้นระยะห่างทางสังคมร้อยละ50 จะมีผู้ป่วยเพียง 15,000-17, 000 คน และถ้าทุกคนทำได้ร้อยละ 80 จะมีผู้ป่วยเพียง 7,000 คน หากทุกคนร่วมกันออกจากบ้านให้น้อยลง จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อก็จะลดลง 

ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่าเชื้อโควิด-19  แพร่ระบาดจากการสวมรองเท้า   เข้าบ้านนั้น นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า การรับเชื้อโควิด-19 เข้าสู่ร่างกายผ่านทางการหายใจ จากการรับเชื้อโดยตรงจากผู้ไอจาม หรือใช้มือเปื้อนเชื้อไปสัมผัสตา จมูกและปาก แม้การใส่รองเท้าเข้าบ้าน อาจเป็นตัวกลางนำเชื้อเข้าบ้าน แต่ถ้าหมั่นล้างมือบ่อยๆ จะหยุดการแพร่ระบาดและการรับเชื้อได้  พร้อมยืนยันกระบวนการสอบสวนโรค กรณีพบเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค ติดเชื้อโควิด -19 จะทำอย่างรัดกุม ตรงไปตรงมา ทราบว่าขณะนี้ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงส่วนหนึ่ง ได้กักตัวเองดูอาการที่บ้านเป็นเวลา 14 วันแล้ว .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

จับหนุ่มอินเดียขนเงินกว่า 15 ล้านบาท เข้าไทย

หนุ่มอินเดียหอบเงินสด 15.7 ล้านบาท เดินเท้าจากปอยเปตเข้าไทย อ้างเล่นพนันได้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล หวั่นพัวพันคอลเซ็นเตอร์

โฆษกรัฐบาล นำบุกร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า แต่ไหวตัวทันไม่เจออะไร

โฆษกรัฐบาล นำ สคบ.-สธ. บุกร้านลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าย่านสายไหม หลังได้รายงานลับ แต่ร้านไหวตัวทัน ปิดหนีหมดไม่เจออะไร เตรียมเสนอนายกฯ ตั้ง กก.ปราบจริงจัง เผยตัวเลขขายปีละ 5 พันล้าน อ้างเป็นสินค้าผ่านแดน แต่ปล่อยหลุดเข้าไทย

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน