กรุงเทพฯ 31 มี.ค. – ก.เกษตรฯ เปิดให้พ่อค้าที่มีรถขนส่งมาลงทะเบียนร่วมโครงการ “รถเร่ผลไม้ไทยน่าช้อป” พร้อมเชิญชวนซื้อผลไม้และดอกไม้ส่งมอบบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อเป็นกำลังใจในการทำหน้าที่ปกป้องดูแลสุขภาพของคนไทยทั้งประเทศ
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมแผนกระจายสินค้าผลไม้จากสวนไปสู่ผู้บริโภคโดยตรง ทั้งนี้ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรจะทำโครงการ “รถเร่ผลไม้ไทยน่าช้อป” ซึ่งจะให้ผู้มีรถเร่รับซื้อผลไม้มาขึ้นทะเบียนแจ้งความจำนงในการรับซื้อผลไม้ไว้กับสำนักงานเกษตรจังหวัด โดยจะแนะนำขั้นตอนในการขนส่ง ซึ่งสำนักงานเกษตรจังหวัดหรือศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจผลไม้ระดับเขตจะทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างรถเร่กับกลุ่มเกษตรกรเจ้าของสวนให้เกิดรับซื้อให้อย่างทั่วถึง ไม่เกิดการตัดราคา และควบคุมคุณภาพสินค้าให้มีมาตรฐานส่งถึงบ้านผู้บริโภค อีกมาตรการคือ ทำข้อตกลงกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ซึ่งจัดทำช่องทางซื้อขายออนไลน์ผ่าน www.Thailandpostmart.com โดยผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อสินค้าเกษตรทางเว็บไซต์ จากนั้นทางไปรษณีย์จะเข้าไปรับผลไม้แล้วส่งตรงถึงถึงบ้าน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรที่ได้รับการพัฒนาถ่ายทอดการขายแบบออนไลน์จะเร่งเข้าไปคัดเลือกสินค้าและแนะนำเกษตรกรให้สมัครเปิดขายสินค้าเกษตรออนไลน์ในทุกช่องทางบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทั้งที่เป็นของหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรฯ หรือของผู้ผลิตเอง พร้อม ประชาสัมพันธ์สินค้าของเกษตรกรที่ขายผ่านระบบออนไลน์ให้ประชาชนได้รับรู้อย่างทั่วถึง
สำหรับผลไม้ที่กรมส่งเสริมการเกษตรจะเร่งกระจายสู่ผู้บริโภคอย่างเร่งด่วน คือ มะม่วง ซึ่งขณะนี้ส่งออกไม่ได้ จึงจัดโครงการประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมสินค้า โดยให้ส่วนราชการและประชาชน ซื้อมะม่วงคุณภาพดีมอบเป็นเพื่อของขวัญของฝากแด่คนที่รักและห่วงใย โดยเฉพาะบุคคลากรทางการแพทย์ที่ประชาชนสมควรให้กำลังใจในการทำหน้าที่เป็นด่านหน้าปกป้องสุขภาพของคนไทยทุกคน อีกทั้งสามารถสั่งซื้อดอกไม้ของเกษตรกรที่ส่งออกไม่ได้ โดยเฉพาะกล้วยไม้ตัดดอกซึ่งส่งออกไม่ได้ทั้งตลาดจีนและอีกหลายประเทศ ขณะนี้ผู้ผลิตหลายรายขายผ่านแอพลิเคชั่นต่าง ๆ เช่น ไลน์ เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรมจึงเชิญชวนให้ประชาชนซื้อเพื่อสนับสนุนผลผลิตเกษตรกร แล้วส่งให้ส่งให้คนที่รักและบุคคลาการทางแพทย์เพื่อให้กำลังใจกันและกันในยามวิกฤติ
นายเฉลิมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ต้องเร่งหาตลาดและช่องทางจำหน่ายกลุ่มสินค้าเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเป็นผลผลิตสดเน่าเสียง่ายและกำลังจะทยอยออกสู่ตลาดในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม 2563 ประกอบด้วย ผลไม้ได้แก่ มะม่วง ทุเรียน และมังคุด ขณะนี้หลายจังหวัดมีมะม่วงให้ผลผลิตจำนวนมาก แต่ผู้รับซื้อมะม่วงเกรดคุณภาพ เพื่อการส่งออกหยุดรับซื้อ เนื่องจากไม่สามารถส่งออกได้ทั้งตลาดเกาหลี ญี่ปุ่น ยุโรป ซึ่งต้องส่งทางเครื่องบิน แต่ขณะนี้ไม่มีเที่ยวบินไปยังประเทศเหล่านี้ รวมทั้งตลาดในประเทศชะลอตัวเนื่องจากผู้บริโภคเดินตลาดน้อยลงและเน้นการซื้อสินค้าที่มีระยะเวลาเก็บได้นานมากกว่าผลไม้ภาคตะวันออกโดยเฉพาะทุเรียนและมังคุดจะเข้าสู่ฤดูกาลที่ผลผลิตออกมากตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายนเป็นต้นไป จากนั้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจะมีผลไม้ภาคใต้ออกสู่ตลาด ล่าสุดตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดจีน ซึ่งขนส่งทางรถเป็นหลักยังสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้การรับซื้อเพื่อการส่งออกยังดำเนินการได้
ส่วนตลาดภายในประเทศ หากในช่วงที่ผลผลิตออกมากและประชาชนยังไม่สามารถออกมาจับจ่ายซื้อหาหรือจัดงานเทศกาลบริโภคผลไม้ได้ เพราะต้องป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะต้องจัดทำระบบจำหน่ายออนไลน์และกระจายสินค้าส่งถึงผู้สั่งซื้อทั่วประเทศเร็วที่สุด โดยจะเป็นโอกาสที่คนไทยจะได้บริโภคผลไม้เกรดพรีเมียมในราคาที่เหมาะสม ส่วนพืชผักเป็นสินค้าที่บริษัทใหญ่ที่รับซื้อระบบห้องเย็นควบคุมอุณหภูมิ สามารถเก็บรักษาคุณภาพได้นาน โดยทำสัญญารับซื้อจากกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตพืชผักแปลงใหญ่ แต่ที่เป็นห่วงคือ เกษตรกรผู้ปลูกพืชผักราย่อยที่ขายส่งตามตลาดซึ่งจะได้รับผลกระทบ เนื่องจากผู้รวบรวมซึ่งไม่มีห้องเย็นเก็บรักษา เกษตรกรที่ส่งพืชผักขายร้านอาหารนั้น ขณะนี้ร้านอาหารหลายแห่งปิดบริการ ส่วนที่เปิด ต้องงดการให้นั่งรับประทานในร้าน โดยสั่งกลับบ้านได้เท่านั้นจึงซื้อในปริมาณน้อยลง
“จะประสานกับหน่วยงานราชการที่มีการประกอบอาหารเลี้ยง เช่น โรงพยาบาล ค่ายทหารเพื่อรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร อีกทั้งเตรียมหาตลาดต่างประเทศใหม่ๆ รองรับ ตลอดจนส่งเสริมการนำเข้าสู่โรงงานแปรรูป รวมทั้งกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร หรือวิสาหกิจชุมชนเพื่อแปรรูปและจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นการถนอมผลผลิตทางการเกษตรที่ไม่ให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรทำให้เกษตรกรและผู้ประกอบการภาคการเกษตรบรรเทาผลกระทบจากการสูญเสียรายได้ ขณะเดียวกันประชาชนมั่นใจได้ว่า มีอาหารบริภาคอย่างเพียงพอทุกพื้นที่” นายเฉลิมชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย