เหตุจลาจลภายในเรือนจำบุรีรัมย์คลี่คลาย ญาติทยอยเดินทางมาติดตามข่าวสาร

บุรีรัมย์ 30 มี.ค. – เหตุจลาจลภายในเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์คลี่คลายแล้ว มีผู้ต้องขังหลบหนี 11 คน จับได้แล้ว 10 คน เหลือเพียง 1 คน ด้านญาติผู้ต้องขังทยอยเดินทางมาติดตามข่าวสาร รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ยืนยันทุกคนปลอดภัยดี

ญาติผู้ต้องขังจำนวนมากมาติดตามข่าวสารจากทางเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ตั้งแต่เช้า เพราะเป็นห่วงในความปลอดภัย หลังได้รับข่าวลือว่ามีคนบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก เจ้าหน้าที่เรือนจำต้องมานั่งโต๊ะชี้แจงยืนยันว่าทุกคนปลอดภัยดี ทยอยเคลื่อนย้ายไปยังเรือนจำจังหวัดโดยรอบ 18 แห่ง ต้องรอเรือนจำปลายทางทำบัญชียืนยันรายชื่อกลับมา จึงจะสามารถแจ้งให้ญาติทราบได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำคิวอาร์โค้ดมาให้ญาติผู้ต้องขังเพิ่มเพื่อนทางไลน์ไว้เป็นช่องทางแจ้งข่าวสาร และจะนำรายชื่อมาติดบอร์ดหน้าเรือนจำให้ญาติได้ตรวจสอบด้วย โดยการเคลื่อนย้ายผู้ต้องขังเพิ่งเสร็จสิ้นเมื่อช่วง 05.00 น.ที่ผ่านมา เพราะอาคารต่างๆ เสียหายเกือบทั้งหมด เหลือเพียงสถานพยาบาลเท่านั้น  

ขณะที่พันตำรวจโทประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า มีแกนนำ 1 คน ที่เพิ่งถูกศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในคดียาเสพติดเมื่อ 5 วันก่อน ปล่อยข่าวลือว่ามีคนติดเชื้อโควิด-19 นำมาปลุกปั่นสร้างสถานการณ์ เชื่อว่ามีสาเหตุลึกๆ ที่ต้องรอการสอบสวน ซึ่งมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อเอาผิดผู้เกี่ยวข้องต่อไป ยืนยันว่าทุกเรือนจำมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้น ขอให้ผู้ต้องขังและญาติสบายใจได้   

สำหรับเหตุจลาจลเมื่อวานนี้ มีผู้ต้องขังหลบหนีออกไปทั้งหมด 11 คน จับกุมได้แล้ว 10 คน เหลือเพียง 1 คน คือ นักโทษชายธันยพงศ์ สินพูล คดียาเสพติด ซึ่งผู้กำกับการ สภ.เมืองบุรีรัมย์ เชื่อว่ายังหลบหนีไปไม่ไกล และจะสามารถจับกุมได้ในเร็วๆ นี้.-สำนักข่าวไทย


ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เร่งล่านักโทษแหกคุกบุรีรัมย์ ตื่นข่าวลือติดโควิด-19
กรมราชทัฑณ์ยืนยันคุมเหตุจลาจลเรือนจำบุรีรัมย์ได้หมดแล้ว


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย