กรุงเทพฯ 21 มี.ค.- ประชาชนยังซื้อสินค้ากักตุน แม้ กทม.มีคำสั่งปิดห้างฯ แต่ซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาดสด ร้านค้าสะดวกซื้อ ยังเปิดให้บริการ ด้านพนักงานภายในห้างฯ ระบุ ยังไม่ทราบเรื่อง รอแจ้งอย่างเป็นทางการ
หลังจากช่วง เที่ยงของวันนี้ ทาง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร ได้ออกประกาศปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 2 ) เพื่อลดความเสี่ยงการติดต่อของโรค COVID-19 ซึ่งมีทั้งหมด 26 สถานที่ เช่น ปิดร้านอาหาร (ให้เปิดเฉพาะสั่งกลับและในโรงแรมให้บริการเฉพาะผู้พักอาศัยในโรงแรม), ปิดห้างสรรพสินค้า ให้เปิดเฉพาะซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยา หรือร้านสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ ร้านอาหาร (สั่งกลับบ้าน) , ปิดตลาดและตลาดนัด (เปิดเฉพาะการจำหน่ายอาหารสด อาหารแห้ง อาหารปรุงสำเร็จรูปเพื่อนำกลับ อาหารสัตว์ ร้านขายยาและสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต) โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค.-12 เม.ย.63
ผู้สื่อข่าวได้สำรวจห้างสรรพสินค้าต่างๆ โดยพนักงานห้างฯ ทั้งในส่วนของผู้เช่า เช่น ธนาคาร ร้านขายของต่างๆ ระบุว่า ยังไม่ทราบประกาศดังกล่าว ต้องรอคำแจ้งจากห้างฯ อย่างเป็นทางการ ซึ่งหากปิดไปแล้ว ก็เป็นห่วงเรื่องการทำงาน ว่าทางร้านจะลดค่าใช้จ่ายและกระทบมายังการว่าจ้าง เพราะบางส่วนก็เป็นพนักงานรายวัน ก็จะได้รับผลกระทบจากการขาดรายได้
ทั้งนี้ จากการสำรวจในซูเปอร์มาเก็ต เช่น ท็อปส์ สาขาเซ็นทรัลพระราม 9 ,บิ๊กซี คลอง 6 ธัญบุรี จ ปทุมธานี แม้ประชาชนราบข่าว ว่า กทม. ไม่ได้สั่งปิดร้านสะดวกซื้อ หรือซูเปอร์มาร์เก็ต แต่ประชาชนยังไม่มั่นใจสถานการณ์ และยังไม่แน่ใจว่าในส่วนต่างจังหวัดจะมีการคำสั่งปิดเช่นเดียวกับ กทม.หรือไม่ ทำให้ประชาชนยังคงเข้ามาซื้อสินค้ากักตุนเป็นจำนวนมาก เช่น น้ำดื่ม ข้าวสาร อาหารสด อาหารแห้ง ปลากระป๋อง น้ำมันพืช แต่ไม่แตกตื่นหรือแย่งชิงหยิบสินค้า แต่อย่างใด
ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมสินค้าที่ประชาชนต้องการซื้อไว้อย่างเพียงพอ ทำให้แต่ละจุดชั้นวางของ ไม่ได้ว่างเปล่าเหมือนกับวันเสาร์-อาทิตย์ที่แล้วที่ประชาชนออกมาซื้อสินค้ากักตุน -สำนักข่าวไทย