โซเชียลติดแฮชแท็ก #saveบำราศนราดูร

กรุงเทพฯ 21 มี.ค.- โซเชียลแห่ติดแฮชแท็ก #Saveบำราศนราดูร หลังผู้ป่วยโควิด-19 คนหนึ่งจากกลุ่มปาร์ตี้ย่านทองหล่อ โพสต์เฟซบุ๊กระบุไทม์ไลน์ยืนยันว่า ไม่มีการติดเชื้อจากเพื่อนชาวฮ่องกงตามที่กระทรวงสาธารณสุขแถลง และเชื่อว่าเป็นการติดกันเองในประเทศ


โดยอ้างว่า กลุ่มของตนเองที่สังสรรค์กันเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ไม่รู้จักกับชาวฮ่องกง ตามที่เป็นข่าว แต่พอจะสรุปได้ว่า มีเพื่อนของเพื่อน (สมมติว่าชื่อ A) ไปเจอคนฮ่องกงมาเมื่อประมาณวันที่ 21 กุมภาพันธ์ แล้ว A ก็มากินข้าวที่บ้านเพื่อนผม (สมมติว่าชื่อ B) เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์

ต่อมา B มาเจอกลุ่มผมวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ซึ่งในวันนั้น A ที่เป็นเพื่อนกับคนฮ่องกงก็ไม่ได้มาสังสรรค์ด้วย เพราะกลุ่มที่สังสรรค์เป็นคนละกลุ่มไม่รู้จักกัน ซึ่งทั้งสองกลุ่มไม่รู้จักและไม่เคยเจอกับชาวฮ่องกงตามที่เป็นข่าวเลย นอกจากนั้นวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ที่ผมไปเจอเพื่อนๆ ในกลุ่มนั้นขอยืนยันว่า ในวันนั้นไม่มีใครในกลุ่มป่วยหรือแสดงอาการใดๆ จะเห็นได้ว่าประเทศไทยได้เข้าสู่การแพร่ระบาดระดับ 3 แล้วตั้งแต่ตอนนั้น


ยังพูดถึงกระบวนการตรวจรักษาว่าเพื่อนในกลุ่มทั้งหมดพยายามไปขอตรวจเชื้อ แต่ถูกปฏิเสธ และยืนยันว่าไม่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับคนต่างชาติ สุดท้ายต้องไปตรวจ รพ.เอกชน จนพบว่าติดเชื้อ โดยระหว่างรักษาตัวที่ รพ.บำราศนราดูร ตั้งแต่วันแรกๆ ที่มีเจ้าหน้าที่มาสอบถามประวัติ รายละเอียดวันที่คาดว่าติดเชื้อ หลายครั้งหลายคน ขนาดนอน รพ.แล้ว 9 – 10 วันยังมีเจ้าหน้าที่ โทร.มาถามตอนนี้อยู่ที่ไหน เข้า รพ.หรือยัง เหมือนกับว่าเจ้าหน้าที่ทำงานหน่วยงานใครหน่วยงานมัน ไม่มีการบูรณาการตามมาตรฐานที่ประชาชนคาดหวัง 

นอกจากนี้ ตลอดเวลาที่อยู่ รพ.ไม่ได้รับยาใดๆ ได้เพียงยานอนหลับ และการเจาะเลือด เหมือนแค่รอให้เชื้อหมดไปเองเท่านั้น และตลอด 10 วัน ไม่ได้เจอหมอหรือได้รับคำแนะนำใดๆ จากสถานพยาบาลแห่งนี้

แฟนเพจ Infectious ง่ายนิดเดียว ออกมาโพสต์ถึงกรณีดังกล่าวว่า 1. เคสมีความหลากหลาย ไม่รุนแรงถึงรุนแรงมาก ที่หมอไม่เข้าห้องทุกวัน เพราะเค้าเห็นว่าคุณอาการดี ทุก รพ. ทั่วโลกก็เป็นแบบนี้ แต่มีเจ้าหน้าที่ดูแลผ่านกล้องวงจรปิด สอบถามอาการตลอดผ่านโทรศัพท์ 


เค้าไม้ได้ทิ้งคุณนะ เค้าก็ต้องเซฟตัวเอง เข้าห้องให้น้อยที่สุด หากอยากให้เจ้าหน้าที่ดูแลใกล้ชิด ลองอาการหนักสิ ได้สมใจแน่ ยังไม่ดีใจอีก อาการดี

2. การกักตัว 10 วัน เพราะจะแพร่คนอื่นไง 10 วัน ทำจะเป็นจะตาย เวลาไปเที่ยวทั้งที่ประชาชนคนอื่น เค้ามีจิตสำนึก อยู่บ้าน เค้าก็ต้องกักตัว เก็บตัว ดูคุณสิไปเที่ยวปาร์ตี้ จนได้โรคกลับมา ยอดขึ้นเพียบ เค้าก็ต้องกักคุณจนกว่าจะไม่เจอเชื้อไง ไม่งั้นจะไปแพร่เป็น super spreder ไม่พิมพ์บอกเล่า เค้าเอาพ่อแม่พี่น้องคนสัมผัสใกล้ชิดคุณมาตรวจด้วย ดูแลอย่างดี

3.ไม่ป่วยหนักก็ดีแล้ว อยากปอดบวม แย่ใส่ท่อช่วยหายใจ ต้องกินยาหลายๆ ตัว แหม โชคดีแค่ไหน อยู่ห้องเดี่ยว เงินก็ไม่ต้องเสีย แทนที่จะคิด จดบันทึกอาการ การอยู่ 10 วัน หายดีออกมาเล่าเรื่องดีๆ ขอบพระคุณเจ้าหน้าที่ นี่อะไร ออกมาได้มาด่าหมอ ด่าพยาบาล โทษคนอื่น

4.เจ้าหน้าที่เหนื่อยแค่ไหน คุณน่าจะได้เห็นนะ ถ้าตาไม่บอด และเอาอคติในใจออกเจ้าหน้าที่ ขึ้นเวร 24 ชม. 10 วัน วันละ 3 เวร แสดงว่ามี 30 เวร. 1 เวร มีหมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่ เภสัช ผู้ช่วยพยาบาล แม่บ้าน รปภ. คนงาน รวมๆ น้อยที่สุด 1 เวรมี 10 คน คุณอยู่ 10 วัน มีคนดูแลคุณ 300 คน ควรขอบคุณพวกเค้านะ ไม่ใช่มาด่าเค้า

5. ย้ายเตียงตี 1.00 น. ย่อมมีเหตุผลเช่น มีคนไข้อาการหนักกว่า ต้องใช้เตียง ย้าย ตี 1 คุณแค่เก็บของ ย้ายก้นออกมา แต่เจ้าหน้าที่ต้องทำความสะอาด ปูผ้า ปูเตียง จัดแจงห้องใหม่ งานหนักกว่าคุณหลายเท่า คุณย้ายเสร็จคุณได้นอน แต่เจ้าหน้าที่ต้องรับเคสใหม่ และคงไม่ได้นอน ตาคุณคงบอด จนไม่เห็นเจ้าหน้าที่ภาระงานหนักขนาดไหนตลอด 10 วัน

นอกจากนี้ ยังระบุเพิ่มเติมว่า คุณรู้ไหม บำราศนราดูร นี่เค้าดูแลคนไข้กี่ร้อยคน หนักสุดในประเทศไทย เสี่ยงสุดในประเทศ ดีอันดับต้นๆ ของเอเซีย อุปกรณ์ทันสมัย ห้องราคาหลายล้าน ต่างจังหวัดยังไม่มีเลย เจ้าหน้าที่มีประสบการณ์โรคระบาด

หัดโทษตัวเองบ้างนะ โชคดีแค่ไหน รักษาในไทย ถ้าอยู่ ตปท. คุณคงรักษาได้ที่บ้าน แย่ไปก็อาจไม่ได้นอน แต่อาจไม่ได้ มานั่งพิมพ์ด่าคนอื่นแบบนี้

ดึงสติด้วย ใครดูแลคุณตลอด 10 วัน ใครหาข้าวหาน้ำให้คุณ ไม่คิดจะขอบคุณเจ้าหน้าที่บ้างหรอ เที่ยวก็ไม่ได้ไปเที่ยวแบบคุณ แถมต้องมาเสี่ยงติดโรคกับคุณ ใครที่กักคุณไม่ให้ไปติดคนที่บ้านคุณ โควิดไม่ได้น่ากลัวเท่ากับโคมนุษย์ ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่บำราศนราดูร

เมื่อโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างมีคนมาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก และมีคนแชร์ต่อไปนับหมื่นครั้งแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”