พุทธมณฑล 20 มี.ค.-มหาเถรสมาคมมีมติให้วัดในราชอาณาจักรไทยและวัดไทยในต่างประเทศ จัดกิจกรรมเจริญพระพุทธมนต์ “บทรัตนสูตร” เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้ประชาชน และเพื่อความเป็นสิริมงคลของแผ่นดิน เริ่มวันที่ 25 มี.ค.นี้ และสวดทุกวันจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ย้ำเป็น การจัดแยกวัดไหนวัดนั้น ไม่ได้นิมนต์พระสงฆ์มารวมกัน และไม่ได้เชิญประชาชนมาร่วมกิจกรรม ยึดความปลอดภัยตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) วันนี้มีการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) โดยสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงลาประขุม เลขาธิการมหาเถรสมาคม จึงขออาราธนาสมเด็จพระราชาคณะมี่ทีอาวุโสสูงสุด ปฎิบัติหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม ซึ่งวันนี้เป็นสมเด็จพระวันรัต กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร
โดยที่ประชุมมีวาระพิจารณาสำคัญ คือการสวดมนต์ บทรัตนสูตร เพื่อเรียกขวัญและกำลังใจให้กับประชาชนในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19
ภายหลังการประชุม นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้ตรวจราชการ และโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยว่าที่ประชุมมหาเถรสมาคมมีมติ เห็นชอบการจัดกิจกรรมเจริญพระพุทธมนต์บทรัตนสูตร เพื่อเรียกขวัญและกำลังใจให้กับประชาชนชาวไทย เนื่องจากข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกได้ รายงานการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และพบผู้ป่วยกระจายไปในหลายประเทศทั่วโลกรวมทั้งไทย ประกอบกับองค์การอนามัยโลกได้ประกาศ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนี้เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศเพื่อให้รัฐบาลแต่ละประเทศเพิ่มมาตการในการป้องกัน การแพร่ระบาด ซึ่งกรณีนี้ถ้าย้อนไปในสมัยพุทธกาล การระบาดของโรคก็เคยปรากฏอยู่ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เคยทรงสวดบทรัตนสูตร เพื่อขจัดปัดเป่าโรคร้ายและอุปัทวันอันตรายทั้งมวล ให้กับประชาชน ปลอดภัยจากโรคระบาด
สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันซึ่งมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ได้ขยายไปในวงกว้างสร้างความตื่นตระหนก ต่อประชาชน ดังนั้น เพื่อความเป็นสิริมงคล ต่อประเทศชาติและประชาชน ให้มีขวัญกำลังใจมีสติในการใช้ชีวิต ประจำวัน จึงเห็นควรให้วัดทั่วราชอาณาจักรรวมทั้งวัดไทยในต่างประเทศอัญเชิญบทรัตนสูตรมาเจริญพระพุทธมนต์กำหนดดำเนินการพร้อมกันในวันที่ 25 มีนาคมนี้เริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป
โดยมหาเถรสมาคมได้กำหนดวัดนำร่อง เพื่อให้เกิดความพร้อมเพรียงในการดำเนินการเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคลกับประชาชนและเป็นสิริมงคลกับแผ่นดิน ซึ่งในเขตกรุงเทพมหานครมีวัดนำร่อง จำนวน 6 วัด คือ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร วัดเทพศิรินทราวาส วัดไตรมิตรวิทยาราม วัดยานนาวา และวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร
ในส่วนภูมิภาค จำนวน 3 วัด ได้แก่ วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ วัดพระนารายณ์มหาราช จังหวัดนครราชสีมา และวัดพระมหาธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช
โดยวิธีการดำเนินการตามมติของมหาเถรสมาคมได้กำหนดให้ทั้งวัดทั่วราชอาณาจักร รวมถึงวัดไทยในต่างประเทศ สวดบทรัตนสูตรหลังทำวัตรเย็นทุกวัน ณ วัดนั้นๆจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ โดยกำหนดให้มีการจัดที่นั่งสำหรับพระภิกษุสามเณรที่เข้าร่วมเจริญพระพุทธมนต์ ติดตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดโดยต้องจัดที่นั่งห่างกันเป็นระยะ 1 เมตร
พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจัดพิมพ์หนังสือบทสวดมนต์รัตนสูตร จำนวน 10,000 เล่ม เพื่อมอบให้วัดทุกวัด ในหนังสือเล่มนี้ยังมีบทสวดอื่นที่เป็นบทสวดอื่นรวมอยู่ด้วย เช่นบทชุมนุมเทวดาเพื่อประกอบให้บทสวดรัตนสูตรมีความศักดิ์สิทธิ์มากขึ้น
“ย้ำว่าในกิจกรรมนี้ได้ไม่ได้เชิญชวนประชาชนมาร่วมกิจกรรม และไม่ได้นิมนต์พระจากวัดต่างๆ มารวมกัน เพื่อจัดกิจกรรม แต่เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นตามกิจวัตรปฏิบัติประจำของพระสงฆ์ คือวัดไหนก็จัดวัดนั้น แต่หากประชาชนจะมาร่วมในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ก็สามารถมาร่วมได้ ไม่ได้ห้ามแต่ต้องปฏิบัติตามกติกาที่วัดนั้นๆ กำหนดเพื่อความปลอดภัยทั้งสองฝ่าย คือฝ่ายพระสงฆ์และประชาชน หรือจะร่วมสวดมนต์อยู่ที่บ้านก็ได้เพราะทราบว่ารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมีนโยบายที่จะถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์อยู่แล้ว”โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกล่าว
ทั้งนี้ ในการประชุมมหาเถรสมาคมวันนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ตรวจคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิ มีบริการเจลล้างมือ ก่อนเข้าอาคาร ส่วนพระสงฆ์และผู้เข้าร่วมประชุมก็สวมหน้ากากอนามัยป้องกันตัวเองตามมาตรการป้องกันโควิด-19 .-สำนักข่าวไทย