ทบ.เดินหน้า ปฏิบัติการล้างสิ่งปนเปื้อน ขจัดการแพร่โควิด-19

19 มี.ค.- ทบ.เดินหน้าปฏิบัติการล้างสิ่งปนเปื้อน ขจัดการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ใน กทม. ล่าสุดคืนนี้ลงอีก 16 พื้นที่ ทั้ง ตลาดสด, ย่านการค้ามหาวิทยาลัย, ท่ารถ, ขอประชาชนไม่จอดรถ-วางสิ่งของตามเส้นทาง


ตามที่ กองทัพบกได้เริ่มปฏิบัติการล้างสิ่งปนเปื้อนขจัดการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ใน กทม. สนับสนุนมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 ของรัฐบาล ช่วง 01.05 น. เมื่อคืนที่ผ่านมาใน 11 พื้นที่ ได้แก่ ถ.หน้าพระลานพระบรมมหาราชวัง, ถ.เยาวราช, แยกราชประสงค์, ถ.สีลม, เดอะมอลล์ท่าพระ, เดอะมอลล์บางกะปิ, เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ, 5 แยกลาดพร้าว, BTS หมอชิต และ ถ.อิสระภาพ โดยใช้กำลังพล 487 นาย โดยใช้รถยนต์บรรทุกสารฆ่าเชื้อ และรถน้ำ จำนวน 53 คัน ร่วมปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ กทม. ด้วยการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อบนถนน ทางเท้า เสริมด้วยการการเช็ดน้ำยาตามพื้นที่ใกล้เคียง ผลการปฏิบัติ ในคืนที่ผ่านมาสามารถล้างสิ่งปนเปื้อนบนถนนและพื้นที่ข้างเคียงได้ระยะทางรวม 32 กิโลเมตร โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ เป็นย่านการค้าและสถานที่ท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทั้งนี้ปฏิบัติการพ่นล้างฆ่าเชื้อเพื่อความสะอาดของ กทม. ยังดำเนินการต่อเนื่องระหว่าง 19-31 มีนาคม 2563


สำหรับในวันนี้ (20 มีนาคม 2563) กองทัพบก จะยังคงส่งทีมปฏิบัติการล้างสิ่งปนเปื้อน ออกปฏิบัติงานร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ใน 16 พื้นที่ โดยกองทัพภาคที่ 1, หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก และกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก โดยจะดำเนินการต่อจากเมื่อวานในจุดที่ได้ล้างสิ่งปนเปื้อนไปแล้วครอบคลุมพื้นที่สำคัญ เช่น ตลาดสด, ย่านการค้า, สถานีรถไฟฟ้า, มหาวิทยาลัย เป็นต้น ซึ่งยังคงใช้สารฆ่าเชื้อสารเบนซาโคเนียมคลอไรด์ (BKC) และแนวทางปฏิบัติตามมาตรฐานที่กรมวิทยาศาสตร์ทหารบกได้กำหนดดังเดิม ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชนเคลื่อนย้ายสิ่งของ และรถยนต์ หรือไม่นำรถยนต์มาจอดกีดขวาง บนถนนในห้วงเวลา 01-05 น.ตามเส้นทางที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน


อย่างไรก็ตาม การล้างสิ่งปนเปื้อนที่กำลังดำเนินการในขณะนี้ ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนในโซเชียลมิเดีย ที่แสดงความคิดเห็นว่าการทำพื้นที่ให้สะอาดสามารถช่วยลดความวิตกกังวลของประชาชนในสถานการณ์ไวรัส โควิด-19 ได้ และยังสร้างแรงจูงใจในการพัฒนาพื้นที่ของตนเอง เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค ซึ่งสอดคล้องกับมาตรการทางสาธารณสุข และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

voting ballot of Manchester, New Hampsher

เผยผลเอ็กซิตโพลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2024                                               

รอยเตอร์เผยเอ็กซิตโพลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐว่า 2 ผู้สมัครที่เป็นคู่แข่งขันกันได้คะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลุ่มใดในสัดส่วนเท่าใด

รองเจ้าอาวาสวัดดัง เปย์สีกาไม่อั้น ลาสิกขาแล้ว

“รองเจ้าอาวาสวัดดัง” ลาสิกขาแล้วกลางดึก หลังปมฉาวเปย์สีกาไม่อั้น บอกไม่อยากให้เกิดความเสื่อมเสียต่อวัดและคณะสงฆ์

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

ข่าวแนะนำ

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

หาทางออก แม่ทำกรงขังลูกติดยาหวังรักษา

กรณีแม่วัย 64 ปี ที่บุรีรัมย์ สร้างห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมรับลูกชายวัย 42 ปี กำลังจะกลับจากการบำบัด แต่ถูกตีความว่าเป็นการละเมิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือ พร้อมหาทางออกในการบำบัดรักษาที่ถูกต้อง

จับ 2 หนุ่มญี่ปุ่นอุ้มรีดเงิน ทำร้ายร่างกาย บังคับกินอุจจาระ

สืบนครบาล จับชายชาวญี่ปุ่น 2 คน อุ้มเพื่อนร่วมชาติ ทำร้ายร่างกาย บังคับกินอุจจาระ เรียกเงิน 3 แสนบาท พบหนีคดีจากญี่ปุ่นมาขายกัญชาในประเทศไทย