กระทรวงสาธารณสุข 19 มี.ค.-“พล.อ.ประยุทธ์” ประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข อดีตอธิบดีกรมการแพทย์ ชื่นชมระบบคัดกรองมีประสิทธิภาพ ทำให้รู้จุดเริ่มต้นของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 กำชับห้ามจัดคอนเสิร์ตในช่วงนี้ ให้อำนาจฝ่ายปกครอง ผู้ว่าฯ สามารถกำหนดมาตรการเพิ่มเติมได้ เมื่อประเมินสถานการณ์แล้วยังมีความเสี่ยง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังประชุมร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขว่า ได้มีการหารือร่วมกันทั้งในฝ่ายของรัฐบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข อดีตอธิบดีกรมการแพทย์ต่าง ๆ รวมไปถึงแพทย์ที่ทำงานภาคเอกชน ถือเป็นการทำงานทุกภาคส่วน อย่างไรก็ตาม วันนี้ไม่ได้เป็นการประชุมกับส่วนราชการเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ตนต้องการให้ความเชื่อมั่นและได้รับฟังความเชื่อมั่นจากทั้งสองฝ่าย ถือว่ารับได้ ตนจะนำไปสู่การปฏิบัติที่ต้องทำได้จริงในระยะต่อไป กระบวนการแก้ปัญหาต้องเป็นไปตามขั้นตอน เป็นไปตามกฎหมายและสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น วันนี้แม้จะพบผู้ติดเชื้อมากขึ้น แต่ก็ต้องชื่นชมระบบคัดกรองการติดตามของเราที่สามารถติดตามได้มากขึ้น เรามองตรงนี้ สิ่งสำคัญที่สุดต้องทราบว่าที่หาเจอนั้นมาจากไหน เริ่มการแพร่ระบาดจากตรงไหน เช่น สนามมวย บาร์ ผับต่างๆ เหล่านี้ คือสิ่งที่เรากำลังดำเนินการต่อเนื่อง
“ผมยืนยันว่าทุกพื้นที่ที่มีความเสี่ยงการติดโรค ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตที่แสดงมาแล้วและเป็นข่าว ทุกคนจะต้องได้รับการตรวจสอบคัดกรองทั้งสิ้น ต้องติดตามตัวให้ครบ และอย่างที่ได้บอกแล้วว่ารัฐบาลห้ามจัดคอนเสิร์ตในช่วงนี้ ฉะนั้น ขอความร่วมมือด้วย สิ่งสำคัญที่สุดวันนี้รัฐบาลได้ประกาศมาตรการไปแล้ว 6 มาตรการ ซึ่งเป็นการให้อำนาจกับฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าฯกทม. ซึ่งสามารถกำหนดมาตรการเพิ่มเติมจากกรอบใหญ่ที่ให้ไป เช่น การปิดสถานที่ต่างๆ วันนี้ให้ไปในเฉพาะกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ถ้าจะปิดในต่างจังหวัดก็ได้ ถ้าเป็นสถานที่ที่เข้าข่ายที่มีความเสี่ยง ผับต่าง ๆ ซึ่งตอนนี้ทราบว่าจังหวัดที่มีข่าวเรื่องผับใหญ่ก็ปิดไปแล้ว ก็มีอำนาจในการปิดตรงนี้ การปิด 14 วัน เมื่อจะเปิดใหม่ต้องไปตรวจสอบว่ามีความปลอดภัย ความพร้อม เพียงพอหรือไม่ ถ้ายังไม่พร้อมสามารถขยายอีกได้ นั่นคืออำนาจที่ตนได้ให้กับพื้นที่ไปแล้ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ใน 14 วันนี้ ตนอยากขอร้องไปยังข้าราชการระดับพื้นที่ โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อประจำจังหวัด ประจำพื้นที่ต้องทำงานอย่างเด็ดขาด และต้องรายงานผลการปฎิบัติทุกมาตรการที่รัฐบาลออกไปแล้วให้ตนทราบทุกวัน ผ่านช่องทางของกระทรวงมหาดไทย เข้ามาที่ศูนย์ฯโควิด-19 ซึ่งตนติดตามทุกวัน ตั้งแต่สนามบินต้นทาง สนามบินในประเทศมาสู่ในเรื่องของการคัดกรอง คัดแยก ซึ่งมีการรายงานมายังตนทุกวัน เพื่อให้ทราบและติดตามสถานการณ์ และปรับมาตรการต่าง ๆให้เพิ่มขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรากำลังสกัดกั้นการนำเชื้อเข้ามาในประเทศ ถึงบอกว่าการเข้ามาต้องมีใบรับรองแพทย์ ประกันสุขภาพ โดยทุกคนที่เข้าประเทศไทยต้องมี ซึ่งเดิมเฉพาะ 4 ประเทศบวก 2 เขตปกครองพิเศษ แต่ทุกวันนี้ทุกประเทศที่เข้ามา ทั้งนี้ เพื่อสกัดกั้นการเข้ามาให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อจะควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ และติดตามด้วยแอพพลิเคชัน
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านเริ่มปิดพรมแดนนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนพูดไปแล้วว่าต่างประเทศที่จะเข้ามาต้องมีใบรับรองแพทย์ ส่วนรอบบ้านเราจะปิดช่องทางพรมแดนหรือไม่อยู่ที่อำนาจผู้ว่ารารชการจังหวัด เพราะได้ให้อำนาจไปแล้ว และให้รายงานตนมา ต่อข้อถามว่าหากเป็นคำสั่งหรือมติจากรัฐบาลจะเข้มแข็งและน่าเชื่อถือมากกว่าหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หากผู้ว่าฯทำไม่ได้ก็ย้ายผู้ว่าฯ จะยากตรงไหน .-สำนักข่าวไทย