ทำเนียบฯ 10 มี.ค.-รมว.พาณิชย์ เผยหนุ่มโพสต์โชว์หน้ากากอนามัยเต็มโกดัง มีความผิด 3 ข้อหา ลั่นปมตุนหน้ากากอนามัย หากสาวถึงใคร ต้องดำเนินการเอาผิดทั้งหมด
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการจับกุม นายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี หรือ บอย อายุ 47 ปี หนุ่มโพสต์โชว์หน้ากากอนามัยเต็มโกดัง ว่า มี 3 ข้อหาที่กระทรวงพาณิชย์ต้องเข้าไปร่วมดำเนินการสอบสวน คือ 1.หากมีการครอบครองหน้ากากอนามัยจำนวน 200 ล้านชิ้นจริง หรือจำนวนเท่าไรก็ตามที่อยู่ในครอบครองตามที่กฎหมายกำหนดห้าม จะต้องแจ้งการครอบครอง ซึ่งหากไม่แจ้งจะต้องผิดกฎหมาย 2.การจำหน่ายเกินราคา และ 3.ค้ากำไรเกินควร
“ผมได้กำชับว่าจะต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัด ไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย เพราะเกี่ยวพันไปถึงเรื่องการส่งออก เพราะต้องขออนุญาต และขณะนี้ยังไม่มีนโยบายให้ส่งออกได้ ดังนั้นถือเป็นการลักลอบส่งออก จึงถือเป็นเรื่องของเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องต้องไปดำเนินการในอีกข้อหาหนึ่ง ขนาดนี้ต้องเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ดำเนินการสอบสวนว่าเป็นของกลางถึง 200 ล้านชิ้น จริงหรือไม่ และของดังกล่าวขณะนี้อยู่ที่ไหน ซึ่งผมได้สั่งการผ่านปลัดกระทรวงพาณิชย์ไปแล้วว่าให้ไปร่วมในทุกขั้นตอน โดยการดำเนินคดีจะต้องให้ถึงที่สุด ไม่ย่อหย่อน และสาวไปถึงใคร ก็ต้องดำเนินการ ผมกำชับไปชัดเจนแล้ว” นายจุรินทร์ กล่าว
เมื่อถามว่า ล่าสุดผู้กระทำผิดแอบอ้างความใกล้ชิดกับคณะทำงานของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนยังไม่มีข้อมูล แต่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม หากกระทำผิดกฏหมาย ต้องดำเนินการ
เมื่อถามถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือผ่านผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการปรับนายจุรินทร์ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากบริหารงานบกพร่อง นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เพราะเราเป็นนักการเมือง ในระบอบประชาธิปไตย การตรวจสอบสามารถทำได้ หากกลไกไหนต้องการให้ชี้แจง ตนก็ยินดี
“ในช่วงที่ผ่านมา ผมตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะเรื่องการแก้ปัญหาหน้ากากอนามัย ร่วมมือทำงานกับกระทรวงสาธารณสุขมาโดยตลอด เพื่อจัดสรรให้เกิดความเพียงพอ และทางกระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่จัดสรรให้กับโรงพยาบาล สถานพยาบาลทุกแห่ง ในส่วนกระทรวงพาณิชย์จะจัดสรรไปยังร้านขายยาและร้านสะดวกซื้อ รวมถึงกลุ่มเสี่ยงอื่นที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ ซึ่งถ้าในส่วนของสถานพยาบาลไม่เพียงพอ ก็ต้องปรับสัดส่วน โดยได้มีการประชุมร่วมกันทุกวันอยู่แล้ว อีกทั้งนโยบายของผมมีความชัดเจนว่าให้สถานพยาบาล แพทย์ และผู้ป่วยก่อน ในขณะที่ประชาชน รัฐบาลได้ส่งเสริมให้ใช้หน้ากากผ้า หรือ หน้ากากทางเลือก เพื่อให้เกิดความสะดวก เพราะสามารถซักใช้ใหม่ได้ เพื่อจะได้ไม่ต้องมาเบียดเบียนหน้ากากอนามัยสีเขียว ซึ่งใช้ในทางการแพทย์” นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (10 มี.ค.) ตนจะเสนอของบฯ กลาง เพื่อจะมาชดเชยการจัดสรรหน้ากากอนามัยให้สถานพยาบาล เนื่องจากราคาจากโรงงานผลิตขายเกินราคา 2 บาท จึงจะต้องนำมาชดเชยค่าส่วนต่างให้กับโรงงาน.-สำนักข่าวไทย