กรุงเทพฯ 5 มี.ค. – รมว.เกษตรฯ สั่งตั้งศูนย์เฝ้าระวังผลกระทบสินค้าเกษตรจากโควิด-19 พร้อมกำหนดมาตรการสินค้าเกษตรปลอดภัย สร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภค
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า สั่งการให้ตั้งศูนย์ประสานงานและเฝ้าระวังผลกระทบสินค้าเกษตรจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคที่ทำให้การส่งออกชะลอตัวลง พร้อมทั้งให้ทุกหน่วยงานกำหนดแผนปฏิบัติการรับมือและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งรายงานต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ หลังจากประชุมคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อม ป้องกัน และแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน กระทรวงเกษตรฯ ได้รายงานถึงผลกระทบจากโควิด-19 ต่อผลผลิตด้านการเกษตรที่ส่งออกไปจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ว่า ยอดสั่งซื้อลดลง อีกทั้งด่านศุลกากรที่เข้าจีนมีมาตรการเข้มงวดตรวจกักกันคนและสินค้าเข้า-ออกมากขึ้น ทำให้กระบวนการนำสินค้าเข้าล่าช้า
นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ประเมินผลกระทบจากโรคดังกล่าวทั้งด่านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การส่งออกสินค้า การนำเข้า ปัจจัยการผลิต การผลิต การบริโภคภายในประเทศ เป็นต้น ตลอดจนวิเคราะห์แนวทางและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร โดยเฉพาะผู้ปลูกไม้ผลซึ่งจะเก็บเกี่ยวผลเดือนเมษายนและพฤษภาคม ได้แก่ ทุเรียน มังคุด ลำไย นอกจากนี้ ยังมีไม้ดอกส่งออกสำคัญ คือ กล้วยไม้ โดยทางกระทรวงเกษตรฯ ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์หาตลาดส่งออกใหม่รณรงค์เพิ่มการบริโภคในประเทศ (Eat Thai First) โดยกำลังประสานภาคเอกชนจัดงานจำหน่ายสินค้าเกษตรคุณภาพในที่ต่าง ๆ ส่งเสริมการจำหน่ายทางออนไลน์ เน้นการแปรรูปผลผลิต เป็นต้นเพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าเกษตรล้นตลาดและราคาตกต่ำ
นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า สั่งการให้ทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะกรมวิชาการเกษตรเข้มงวดเกี่ยวกับความปลอดภัยของสินค้าเกษตรทั้งที่ส่งออกและนำเข้าจะต้องมีการตรวจสอบและรับรองตามมาตรฐานสากลเพื่อไม่ให้ผู้บริโภคชาวไทยกังวล ขณะเดียวกันประเทศอื่นอาจกังวลการแพร่ระบาดและมีมาตรการสกัดการนำเข้าสินค้าจากไทย ซึ่งขณะนี้ สศก.เร่งกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยของสินค้าเกษตร
“ประชาชนไม่ต้องห่วงเรื่องความไม่ปลอดภัยจากการบริโภคสินค้าเกษตร เพราะสั่งการให้ดูแลใกล้ชิด การที่กระทรวงเกษตรฯ ตั้งศูนย์เฝ้าระวังและบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 ไม่ได้เป็นเพราะมีความผิดปกติใด ๆ แต่เป็นการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อสินค้าเกษตร กรณีการระบาดของโรคทุกภูมิภาคทั่วโลกไม่คลี่คลายในเวลาอันรวดเร็ว เกษตรกรและผู้ประกอบการจะได้รับผลกระทบน้อยที่สุด อีกทั้งยังจะเผยแพร่ข่าวสารและชี้แจงข้อกังวลใจของผู้บริโภคได้ทันท่วงที ไม่ให้เกิดความตระหนกตกใจ” นายเฉลิมชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย