กรุงเทพฯ 4 มี.ค. – “ศักดิ์สยาม” ถก 17 สายการบินออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการฝ่าวิกฤตโควิด เตรียมชงครม. 6 มี.ค. นี้ ยกเว้นค่าขึ้นลงอากาศยาน – สะพานเทียบเครื่องบินปีแรก100% ด้านสายการบินพอใจหลังหารือกระทรวงคมนาคม
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการหารือกับตัวแทนสายการบินเอกชน 17 สายการบิน ว่า ภาคเอกชนได้เสนอให้ทางรัฐบาล และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กรมท่าอากาศยาน(ทย.) บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย(บวท.) เข้ามาช่วยเหลือ ยกเว้นและลดหย่อนค่าธรรมเนียมการดำเนินการของสายการบิน เพื่อให้สายการบินสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้หลังจากที่ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมาจนกระทบต่อต้นทุนการบริหารงาน
อย่างไรก็ตามแม้ว่าผู้ประกอบการจะปรับลดค่าใช้จ่ายภายในองค์กรลง 30 – 50% และจัดโปรโมชั่นกระตุ้นตลาดประมาณ 2,000 ล้านบาท ในช่วงเดือน มี.ค.-ธ.ค.นี้ และจำหน่ายตั๋วโดยสารราคาพิเศษ แต่จำนวนผู้โดยสารยังปรับตัวลงต่อเนื่อง ทั้งนี้เห็นได้จากจำนวนผู้โดยสารต่างประเทศลดลง 35.2% และในประเทศลดลง 18.4% โดยจำนวนผู้โดยสารทั้งหมดลดลง 2.54 ล้านคน
ขณะที่อัตราขนส่งผู้โดยสารต่างประเทศอยู่ที่ 40-60% ในประเทศอยู่ที่ 70-80% เครื่องบินที่จอดไม่ได้ใช้งาน 10-15% ด้านจำนวนเครื่องบินที่ถูกยกเลิกในต่างประเทศมีจำนวน 6,960 เที่ยวบิน และในประเทศ 919 เที่ยวบิน นอกจากนี้ผู้ประกอบการมีต้นทุนที่นั่งของเครื่องบินเพิ่มขึ้น 30-40% เกิดจากค่าการขึ้นลงของอากาศ ค่าทีเก็บอากาศยาน และการใช้สะพานเทียบ รวมถึงการอำนวยความสะดวการจราจรทางอากาศจึงได้ขอให้กระทรวงฯเข้ามาช่วยเหลือโดยด่วน
“มอบหมายให้ปลัดกระทรวงคมนาคมรวบรวมรายละเอียด และหาข้อสรุปแนวทางการช่วยเหลือผู้ประกอบการสายการบิน เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมครม.เศรษฐกิจในวันที่ 6 มี.ค.นี้” นายศักดิ์สยาม กล่าว
สำหรับข้อเสนอของสายการบินนั้นได้ขอให้บริษัทท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท. ปรับลดการขึ้นลงอากาศยาน Landing fee จากที่จัดเก็บในอัตราต่างประเทศ 10,425 บาท และในประเทศ 5,213 บาท ต่อการลงจอด ที่เก็บอากาศยาน parking fee ต่างประเทศ 1,230 บาท ในประเทศ 615 บาท ต่อ 6 ชั่วโมง การใช้สะพานเทียบเครื่องบิน ทั้งในประเทศและต่างประเทศจัดเก็บ 1,070 บาทต่อ 40 นาที โดยขอลดปีแรก 100% ในปีแรก และปีที่ 2 สัดส่วน 50%และค่าเช่าพื้นที่สำนักงาน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ 100-350 บาท ต่อตรม./เดือน ขอลด 50% เป็นระยะเวลา 2 ปี การใช้สนามบินต่างประเทศ 700 บาท ในประเทศ 100 บาทต่อผู้โดยสาร โดยขอลด 50% เป็นเวลา 2 ปี อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 หน่วยงานที่เป็นรัฐวิสาหกิจทั้งทอท.และบวท. ต้องเสนอเรื่องให้บอร์ดพิจารณาเพื่อขอรับเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ (พีเอสโอ)
อย่างไรก็ตามขณะที่ ทย. ขอลดการขึ้นลงค่าอากาศยานต่างประเทศ และในประเทศ 6,625 บาทต่อการลงจอด ที่เก็บอากาศยานต่างประเทศ 900 บาท และในประเทศ 450 บาทต่อ 6 ชม. การใช้สะพานเทียบทั้งในประเทศและต่างประเทศ 1,070 ต่อ 40 นาที โดยขอลด 100% ในปีแรก และสัดส่วน 50% ซึ่งทย.จะต้องเสนอเรื่องให้ครม.พิจารณาอนุมัติเนื่องจากมีงบประมาณจำกัด ส่วนบวท. ขอยกเว้นการอำนวยความสะดวกการจราจรต่างประเทศและในประเทศอัตรา 50% เป็นเวลา 2 ปี
ด้านนายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ประธานบริหารเจ้าหน้าที่สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ในส่วนของสายการบินฯผูโดยสารลดลง 15-20% และจากการหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมถือว่ามีแนวโน้มที่ค่อนข้างดี ซึ่ง รมว.คมนาคมได้สั่งการให้หน่วยงานของกระทรวงคมนาคม ไปทำการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดก่อนที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจในวันศุกร์ที่ 5 มีนาคม 2563
อย่างไรก็ตามขณะที่สถานการณ์ของสายการบินในขณะนี้ สายการบินเอกชนรวมทั้งหมดมีเที่ยวบินลดลงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ประมาณ 7,000 เที่ยวบิน โดยมีผู้โดยสารลดลงประมาณ 60% และมีแนวโน้มที่จะลดลงอีก พร้อมยืนยันว่าทางสายการบินไม่ได้มีนโยบาย ปรับลดพนักงาน โดยขณะนี้พนักงานของสายการบินไทยแอร์เอเชียและสายการบิน Thai AirAsia x มีพนักงานรวมกันประมาณ 8,000 คน ส่วนของนักบินให้ทำการหยุดบินและมีการสลับบิลรวมถึงมีการลดค่าใช้จ่าย แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการปรับลดพนักงาน . – สำนักข่าวไทย