ท่องเที่ยวเรียกร้องรัฐ เร่งออกมาตรการช่วยเหลือ

สำนักข่าวไทย 3 มี.ค.-สมาคมท่องเที่ยว วอนรัฐเร่งออกมาตรการช่วยผู้ประกอบการ หวั่นปิดกิจการ-เลิกจ้าง ทุกสมาคมท่องเที่ยวพร้อมร่วมจับมือสร้างความเชื่อมั่นไทยเที่ยวไทย


นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยกับสำนักข่าวไทย ว่า หลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด 19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยวอย่างหนัก ในช่วงตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ตัวเลขอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยวและความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวลดวูบลงอย่างน่าตกใจ คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท ยอมรับผู้ประกอบการท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็น SME ที่กำลังเติบโตเริ่มจะอยู่ไม่ไหว รายได้จากการท่องเที่ยวที่เคยทำได้ในปีก่อน ตอนนี้ลดลงเกินกว่าร้อยละ 90 เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มหลัก อาทิ จีน อาเซียน อินเดีย หายไป 


ในมุมมองของตนมองว่าปัญหาสำคัญที่ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งดำเนินการ คือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีเงินหมุนเวียนในภาคธุรกิจการท่องเที่ยว มิเช่นนั้นอาจจะต้องมีบริษัทและผู้ประกอบต้องปิดกิจการ-เลิกจ้างแรงงานจะยิ่งสร้างความเสียหายต่อภาคอุตสาหกรรม 

นายชัยรัตน์ กล่าวต่อไปว่า อันดับแรกที่ภาครัฐต้องช่วยผู้ประกอบการท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่เป็น SME รัฐต้องช่วยด้านกระแสเงินสด ขอให้ธนาคารหยุดการจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยแก่ผู้ประกอบการชั่วคราวในระยะ 3-6เดือนที่การท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัว รวมทั้งมีแหล่งเงินทุนก้อนหนึ่งให้ผู้ประกอบการใช้หมุนเวียนหล่อเลี้ยงสภาพคล่อง ส่วนเรื่องภาษีต่างๆที่เว้นแก่ผู้ประกอบการก็ให้เดินควบคู่กันไป

ส่วนการสร้างความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยว เสนอให้กระตุ้นการเดินทางแบบไทยเที่ยวไทย อาทิ ให้ทุกจังหวัด เทศบาล อบจ. อบต. ออกมารณรงค์เที่ยวอย่างปลอดภัย ซึ่งรัฐบาลต้องเร่งออกมาตรการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นอย่างเร่งด่วนที่สุด พร้อมประชาสัมพันธ์ว่าการท่องเที่ยวภายในประเทศยังสามารถทำได้โดยให้ควบคู่กับการดูแลตัวเอง สวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข เชื่อหากรัฐบาลดำเนินการรวดเร็วจะช่วยเหลืออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไม่ให้ทรุดหนักไปกว่าที่เป็นอยู่ได้ และภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยวพร้อมเดินหน้าตอบรับมาตรการเช่นกัน


ด้านนายยุทธชัย สุนทรรัตนเวช ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายใน ประเทศ(สทน.) กล่าวว่า สถานการณ์ของสมาคมซึ่งสมาชิกเป็นผู้ประกอบ การท่องเที่ยวในประเทศ ขณะนี้คือการอยู่นิ่งๆ เพราะนอกจากสถานการณ์โควิด-19 ก็ไม่มีกรุ๊ปเหมาจากภาครัฐ เนื่องจาก พ.ร.บ.งบประมาณเพิ่งประกาศใช้ ดังนั้นในช่วงเวลานี้ ก็ใช้เวลาพัฒนาสิ่งต่างๆไว้รองรับอนาคต เมื่อสถานการณ์กลับมาปกติ และรอความชัดเจนจากคณะรัฐมนตรีที่จะมีมาตรการต่างๆ ในการกระตุ้นภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 

นอกจากนี้ยังกล่าวด้วยว่าเวลานี้ภาคเอกชนท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นสมาคมฯ ที่ทำธุรกิจนำคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ(เอาท์บาวต์)นำคนต่างประเทศมาท่องเที่ยวประเทศไทย(อินบาวด์) และธุรกิจท่องเที่ยวนำคนไทยเที่ยวในประเทศ(โดเมสติก) พร้อมร่วมมือจับมือประสาน  โดยไม่คำนึงว่า สมาคมใดเคยเจาะตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายใด พร้อมร่วมมือทำรายการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศร่วมกัน หากภาครัฐมีความชัดเจนในนโยบายออกมา  .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ