สคบ.ถกสายการบินดูแลผู้เลื่อนตั๋วเดินทาง

ศูนย์ราชการน 2  มี.ค. – สคบ.หารือ 13 สายการบิน จองตั๋วก่อน 21 ก.พ. สายการบินพร้อมคืนเงินให้ทั้งหมด หากเลื่อนเดินทางกลุ่มประเทศเสี่ยง  ไม่เกิน 15 ธ.ค.63  ไม่มีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่ม  


พล ต.ต.ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า  ผู้บริหาร สคบ.และกรมการท่องเที่ยว กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา หารือกับตัวแทน 13 สายการบิน เพื่อสร้างความเป็นธรรมทั้งสายการบินและผู้เดินทางจองตั๋วเครื่องบิน  เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน  หลังจากทุกฝ่ายประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19  นับว่าได้รับความร่วมมือจากทุกสายการบินช่วยกันผ่อนปรนให้กับผู้โดยสารไม่ประสงค์เดินทางไปประเทศมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด  

สำหรับผู้โดยสารจองตั๋วและเดินทางก่อนวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 สายการบินพร้อมคืนเงินให้ทั้งหมด  หากเดินทางหลังวันที่ 21 กุมภาพันธ์  2563 พร้อมขยายเวลาการเลื่อนเดินทางได้ไม่เกิน วันที่ 15  ธันวาคม  2563 จากเดิมสิ้นเดือนกันยายน 2563  โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่หากต้องการเปลี่ยนเส้นทางการบิน  หรือมีประเทศกลุ่มเสี่ยงเพิ่มขึ้น พร้อมดำเนินการลักษณะเดียวกัน 


ส่วนกรณีสายการบินโลว์คอสแอร์ไลน์จองและเดินทางภายในวันที่ 31  มีนาคม 2563 ไปกลุ่มประเทศเสี่ยง พร้อมคืนเงินให้เต็มจำนวน  แต่หากเดินทางหลังจากวันที่  31  มีนาคม สามารถเปลี่ยนแปลงวันและเวลาเดินทางได้ไม่เกิน 15  ธันวาคม 2563 จากกำหนดการเดิมไม่เกินเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2563  โดยสายการบินโลว์คอสขอนำไปหารือเพิ่มเติมอีกครั้ง  เพื่อความเป็นธรรมกับธุรกิจสายการบินและผู้บริโภค  ไม่ให้ได้รับกระทบทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อให้สายการบินยังบริการได้  แต่ไม่ได้กระทำผิดตามกฎหมายในการละเมิดสิทธิ์ของผู้บริโภค 

สำหรับบริษัททัวร์  ต้องจ่ายเงินคืนตามประกาศคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กรณีขอยกเลิกการเดินทาง 30 วันขึ้นไป ก่อนวันเดินทางนักท่องเที่ยวสามารถขอรับเงินค่าบริการนำเที่ยวคืนได้เต็มจำนวน  ส่วนกรณีขอยกเลิกการเดินทาง 15 – 29 วัน ก่อนวันเดินทางขอรับเงินคืนได้ร้อยละ 50  ของค่าบริการนำเที่ยวที่จ่ายไป และกรณีขอยกเลิกการเดินทางน้อยกว่า 15 วัน นักท่องเที่ยวไม่สามารถขอรับเงินค่าบริการนำเที่ยวคืนได้  เบื้องต้นมีผู้ร้องเรียนมายัง สคบ.ประมาณ 50 ราย โดยต้องการจะให้สายการบินและบริษัททัวร์คืนเงินทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ