1 มี.ค. – แม้จะเพิ่มการผลิตหน้ากากอนามัย แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของประชาชน ขณะที่วันพรุ่งนี้ กระทรวงสาธารณสุขเตรียมแจกหน้ากากอนามัยคนละ 3 ชิ้น
ทีมข่าวสำนักข่าวไทยลงพื้นที่สำรวจการจำหน่ายหน้ากากอนามัยในร้านธงฟ้า เขตจตุจักร ที่เพิ่งได้รับมาจากกรมการค้าภายใน พบว่ายังมีไม่เพียงพอ เช่น ร้านพลวัตร ในซอยพหลโยธิน 47 ได้รับหน้ากากอนามัยลอตแรกมาเมื่อวานนี้ (29 ก.พ.) จำนวน 1,000 ชิ้น ขายหมดภายในวันเดียว เจ้าของร้านบอกว่า ลูกค้าส่วนใหญ่มาขอซื้อยกกล่อง 50 ชิ้น เพราะต้องใช้ทุกวัน และใช้ทั้งครอบครัว อีกทั้งหน้ากากอนามัยประเภทนี้ก็ใช้ได้แค่วันเดียวต้องทิ้งเลย ไม่สามารถใช้ซ้ำได้ อยากขอให้ภาครัฐผลิตเพิ่ม และเร่งกระจายให้ร้านธงฟ้าจำหน่ายรวมถึงชุมชนต่างๆ เนื่องจากยังมีประชาชนต้องการอีกมาก
ส่วนที่ร้านกิ๊ฟชอป ย่านบางบัวทอง หน้ากากอนามัยที่รับมาจากกรมการค้าภายใน 1,000 ชิ้น จำหน่ายหมดแล้วเช่นกัน ถึงแม้จะแยกขายเป็นแพ็กละ 10 ชิ้น ก็ขายหมดภายในวันเเดียว ขณะเดียวกันมีลูกค้าจำนวนมากเข้ามาสอบถามทุกวัน ตอนนี้จึงทำเรื่องขอหน้ากากอนามัยเพิ่มลอต 2 จากกรมการค้าภายใน คาดว่ายังต้องรออีกพักใหญ่ อยากให้รัฐบาลเร่งผลิตและเร่งกระจายสินค้าสู่ชุมชนโดยเร็ว เนื่องจากยังมีความต้องการอย่างมาก เพราะทุกคนกลัวและไม่อยากติดเชื้อโควิด-19
สธ.แจกหน้ากากอนามัยฟรีคนละ 3 ชิ้น เริ่มพรุ่งนี้
ขณะที่วันพรุ่งนี้ (2 มี.ค.) กระทรวงสาธารณสุขจะเริ่มแจกหน้ากากอนามัยให้ประชาชนฟรีคนละ 3 ชิ้น เพื่อใช้ประโยชน์ในการป้องกันโรค ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย
เฟชบุ๊กนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ได้โพสต์ข้อความว่า “เริ่มวันจันทร์นี้ กระทรวงสาธารณสุข แจกหน้ากากอนามัยวันละ 100,000 ชิ้น รับฟรีคนละ 3 ชิ้น ที่กระทรวงสาธารณสุข”
กำหนดร้านสะดวกซื้อ-ร้านธงฟ้า จำหน่ายหน้ากากอนามัยตามเงื่อนไข
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จะหารือผู้บริหารร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ให้ดูแลการจำหน่ายหน้ากากอนามัยที่กระจายผ่านสาขาของเซเว่น 11,800 สาขา ให้เป็นไปตามเงื่อนไขกำหนด โดยจำกัดการซื้อคนละ 1 แพ็ก (4 ชิ้น ราคา 10 บาท) ต่อวัน ป้องกันการเหมาซื้อและเวียนซื้อ หลังได้รับการร้องเรียนว่าสินค้าไม่มีจำหน่าย ทำให้ประชาชนไม่สามารถหาซื้อได้ และจะขอความร่วมมือร้านธงฟ้า 1,198 แห่ง ให้จำหน่ายตามเงื่อนไขเช่นกัน หากพบไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขจะมีมาตรการลงโทษขั้นเด็ดขาด พร้อมวอนประชาชนอย่าซื้อเยอะไปกักตุน ที่น่ารังเกียจคือซื้อแล้วเอาไปขายต่อ หากพบจะดำเนินการเด็ดขาดเช่นเดียวกัน และอยู่ระหว่างเร่งกระจายหน้ากากอนามัยไปยังร้านสะดวกซื้อ ทั้ง 7-Eleven มินิบิ๊กซี โลตัส เอ็กซ์เพรส และร้านธงฟ้า มีสาขารวมกันประมาณ 14,000 สาขา
ฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรคไม่ใช่สารเคมี ร.ร.สวนกุหลาบวิทยาลัย
ขณะที่วันนี้ภาคเอกชนพร้อมผู้เชียวชาญจากยุโรป นำอุปกรณ์ฆ่าเชื้อโรคโดยไม่ใช้สารเคมีใดๆ เทียบเท่าเครื่องพ่นไอน้ำขนาดใหญ่ที่ใช้เพื่อฆ่าเชื้อไวรัส และเเบคทีเรีย เข้าทำความสะอาดภายในโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย หลังเหตุนักเรียนและครูกลับจากดูงานที่ญี่ปุ่น เพื่อความสบายใจของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง โดยก่อนหน้านี้ได้ไปทำความสะอาดที่โรงพยาบาลมีชื่อย่านบางนา และโรงเรียนพระหฤทัยดอนเมืองมาแล้ว. – สำนักข่าวไทย