“ณัฐพงษ์” จี้ “ภูมิธรรม” แจงให้ชัดยังดำเนินการยุบสภาอยู่หรือไม่

รัฐสภา 4 ก.ย.-“ณัฐพงษ์” จี้ “ภูมิธรรม” แจงให้ชัดยังดำเนินการยุบสภาอยู่หรือไม่ ไม่ปลื้ม “ศุภชัย-สุรทิน” ฟ้อง “ภูมิธรรม” ปมยุบสภา จี้ให้ถอน ย้ำยังหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ และเดินหน้าเลือกตามวาระสภาฯ ขอใช้ 140 กว่าเสียงในสภา กำกับทิศทางประเทศ

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรบรรจุระเบียบวาระเลือกนายกรัฐมนตรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่กลับมีกระแสข่าวที่เกิดขึ้นว่า รัฐบาลเตรียมเสนอความเห็นเพิ่มเติมต่อสำนักองคมนตรี เพื่อยืนยันว่าการปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีมีอำนาจที่จะทูลเกล้าฯ ยุบสภา ซึ่งพรรคประชาชนยืนยันว่าปฏิบัติหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีมีอำนาจยุบสภา แต่พวกเราไม่มีอำนาจตีความเรื่องนี้ว่าตกลงดำเนินการได้หรือไม่อย่างไร อำนาจการตีความอยู่ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ดังนั้นตอนนี้อยู่ในสภาพที่ไม่ชัดเจน


นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ชัดเจนคือระเบียบวาระเลือกนายกรัฐมนตรีกำลังเดินหน้า แต่ที่ไม่ชัดเจนคือพรรคเพื่อไทย หรือนายภูมิธรรมที่จะเดินหน้ากระบวนการยุบสภาหรือไม่อย่างไร ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดข้อกังวลหรือความขัดแย้งทางด้านข้อกฎหมายหรือการดำเนินการต่อจากนี้ สิ่งหนึ่งที่อยากเรียกร้อง จากนายภูมิธรรมและรัฐบาลให้เกิดความชัดเจน ให้เราเดินหน้าต่อได้อย่างถูกต้องที่สุด คืออยากได้ความชัดเจนว่าตกลงแล้วรัฐบาลยังคงเดินหน้ากระบวนการยุบสภาอยู่หรือไม่ ซึ่งถ้ากระบวนการโหวตนายกรัฐมนตรีหรือยุบสภายังไม่เกิดความชัดเจนอยู่แบบนี้ ตนเห็นว่าควรดำเนินการตามระเบียบวาระที่ได้บรรจุวาระการประชุม

นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า เมื่อวานนี้ (2ก.ย.) มีการดำเนินคดีมาตรา 112 โดยนายสุรทิน พิจารณ์ สส.พรรคประชาธิปไตยใหม่ และดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 โดยนายศุภชัย ใจสมุทร ซึ่งตนและพรรคประชาชนไม่เห็นด้วยที่ใช้เครื่องมือทางกฎหมายในการดำเนินคดีดังกล่าวดังนั้นสิ่งที่ตนอยากเรียกร้อง คืออยากให้ทั้งสองคน ถอนคำกล่าวโทษในการดำเนินคดีดังกล่าว เพื่อที่จะสร้างบรรยากาศที่พวกเราสามารถหาทางออกให้กับประเทศได้ พวกเราไม่เห็นด้วยในการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งหรือนิติสงครามไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด


“การดำเนินการของเพื่อไทยอาจย้อนแย้งด้วยตัวเอง ทั้งที่พรรคเตรียมเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแต่กลับมีข่าวว่าดำเนินการยุบสภาจึงออกมาเรียกร้องขอความชัดเจนจากนายภูมิธรรม ว่าตกลงแล้วยุติกระบวนการยุบสภาแล้วหรือไม่อย่างไร” นายณัฐพงษ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคเพื่อไทยเสนอนายชัยเกษม นิติสิริ แข่งกับนายกรัฐมนตรีแข่งกับนายอนุทินแล้ว ประเด็นเรื่องยุบสภาน่าจะจบแล้วหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การกระทำของพรรคเพื่อไทยย้อนแย้ง เพราะเตรียมที่จะเสนอแคนดิเดตนายกฯ แต่กลับมีกระแสข่าวว่ายื่นยุบสภา ตนขอเรียกร้อง หาความชัดเจนจากนายภูมิธรรมว่าตกลงแล้วได้ยุติกระบวนการยุบสภาแล้วหรือไม่

เมื่อถามว่าได้สัญญาณอะไรมา นายณัฐพงษ์ กล่าวว่าตนได้ยินว่าเตรียมนำความเห็นเพิ่มเติม เสนอไปยังสำนักองคมนตรี จึงอยากได้ความชัดเจนว่าตอนนี้ยุติแล้วใช่หรือไม่ และพร้อมที่จะเดินหน้าโหวตนายกรัฐมนตรี


เมื่อถามว่ากระบวนการยุบสภายังไม่จบ มติของพรรคประชาชนที่จะสนับสนุนนายอนุทินจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ นายณัฐพงษ์ ยืนยันว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงมติของพรรคที่ผ่านการรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้าน เราไตร่ตรองและทบทวนมาอย่างดีแล้ว แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้อยู่ในสภาพที่เรามองว่ารักษาการนายกรัฐมนตรีสามารถยุบสภาได้ แต่ทางรัฐบาลกลับมีความย้อนแย้งและเกิดความไม่ชัดเจนตรงนี้ เราจึงอยากทำให้เกิดความชัดเจนก่อน แต่ถ้าหากรัฐบาลยังคงคาราคาซังอยู่แบบนี้ เราก็เห็นควรที่จะดำเนินการตามที่ประธานสภาได้ใช้ดุลพินิจบรรจุระเบียบวาระโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้

ส่วนการฟ้อง ม.157 ได้มีการคุยกับนายอนุทินแล้วหรือยัง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่ได้คุย แต่สมาชิกอาจจะมีการหารือกันบ้าง แต่ตนไม่ทราบว่าใครคุยกับใครบ้าง ตนในฐานะหัวหน้าพรรค การที่แสดงจุดยืนเรื่องนี้ต่อหน้าสาธารณชนทั้งประเทศเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด และพวกเราเองก็ไม่เห็นด้วย ขอเรียกร้องให้ผู้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษให้ถอนคำร้องทุกข์ออก

เมื่อถามว่ามีการวิจารณ์ว่าเป็นการฟ้องปิดปาก และคนที่ไม่เห็นด้วยก็คือที่ปรึกษาด้านต่างประเทศของพรรคประชาชนเอง ที่มองว่าพรรคภูมิใจไทยลุแก่อำนาจ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ขอยืนยันในหลักการเราพูดมาโดยตลอดว่าเราไม่เห็นด้วยกับกระบวนการนิติสงคราม และสิ่งที่ประชาชนไม่อยากเห็นตอนนี้คือใครที่กำลังจะขึ้นมามีอำนาจแล้วใช้กระบวนการทุกอย่าง ใช้อำนาจที่ตัวเองจะได้รับทำลายฝั่งตรงข้าม หรือเล่นงานฝ่ายตรงข้าม

“ถ้าเกิดกรณีแบบนี้ขึ้นไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทยหรือใครก็ตาม เราเองไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว ดังนั้น นี่คือการส่งสัญญาณเพื่อจะบอกว่าเราไม่เห็นด้วยกับการไปฟ้องนายภูมิธรรมเช่นนั้น” นายณัฐพงษ์ กล่าว

เมื่อถามว่าแบบนี้ถือว่าพรรคภูมิใจไทยผิดข้อตกลงหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงที่เป็นลายลักษณ์อักษร แต่การดำเนินการหลังจากนี้เราจะใช้เสียงในสภาที่เรามีกำกับทิศทางของประเทศให้เดินไปตามทิศทางที่เราเห็นว่าถูกและควรโดยใช้รัฐบาลเสียงข้างน้อยและเราเป็นฝ่ายค้านเสียงข้างมากในการกำกับทิศทาง

ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าเราเป็นนั่งร้านหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เราจะไปนั่งร้านหรือไม่ อยู่ที่การแสดงออก การใช้เสียงในสภาที่เรามี กำกับรัฐบาลเสียงข้างน้อย

ผู้สื่อข่าวจึงย้อนถามว่า จะคุมแค่เสียงในสภาหรือเพราะมิติทางการเมืองมีทั้งในสภาและนอกสภา นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ภายนอกสภา เราห้ามคนที่ไปยื่นคดีฟ้องร้องไม่ได้ ตนไม่ได้มีอำนาจไปกำกับ สส.แต่ละคนที่เขาอยู่พรรคอื่น แต่ถ้ามีการดำเนินการอะไรไปแล้วตนเชื่อมั่นว่า 140 กว่าเสียงที่เรามี จะเป็นอำนาจในสภาที่จะกำกับทิศทางการดำเนินการต่างๆของพรรคการเมืองได้

เมื่อถามว่าเมื่อวานนี้พรรคประชาชนระบุว่าจะคุมพรรคภูมิใจได้ด้วยบันทึกข้อตกลง (MOA) แต่เรื่องนี้ส่งสัญญาณชัดแล้วใช่หรือไม่ว่าไม่สามารถคุมได้แล้ว นายณัฐพงษ์ ย้ำว่าการ MOA ครั้งนี้ไม่ใช่การร่วมรัฐบาล เราไม่มีอำนาจใดที่จะไปสั่งห้ามไม่ให้เขาทำอะไร เป็นการล่วงหน้าและการจัดตั้งรัฐบาลหรือการดำเนินการใดๆ ก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่เขาทำ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเห็นว่ารัฐบาลทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และขัดต่อหลักการเรา เราพร้อมที่จะใช้เสียงในสภาที่เรามีในการกำกับทิศทางให้รัฐบาลเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง

ส่วนจะต้องมีการพูดคุยเป็นทางการกับนายอนุทินหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การแถลงข่าวในครั้งนี้จะเป็นการพูดคุยอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยทุกฝ่ายที่รวมเสียงกับพรรคภูมิใจไทยในตอนนี้ได้เห็นสัญญาณที่ตนได้ส่งไปแล้ว

เมื่อถามว่าประเมินคะแนนนิยมของพรรคประชาชนอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องยอมรับตามข้อเท็จจริง ช่วงสั้นๆ อาจมีโหวตเตอร์หรือผู้สนับสนุนของพรรคบางส่วนที่ยังไม่สบายใจ เราเข้าใจดีและเชื่อว่าผู้บริหารพรรครับฟังเสียงอย่างรอบด้านแล้ว ก่อนที่จะออกมาเป็นมติ ยืนยันว่าการตัดสินใจครั้งนี้ทุกองคาพยพของพรรคประชาชนเห็นไปในทิศทางเดียวกันกับสิ่งที่ได้มีมติออกมา ดังนั้น การดำเนินงานต่อจากนี้ที่จะทำให้คะแนนความนิยมของพรรคเพิ่มมากขึ้นหรือผู้สนับสนุนพรรคเข้าใจสิ่งที่ทำ เป็นหน้าที่ของเราที่เราจะต้องทำต่อเชื่อว่า 4 เดือนหลังจากนี้ ถ้าพรรคประชาชนสามารถกำกับทิศทางให้เป็นไปตามข้อตกลงได้ เชื่อว่าทุกคนจะเข้าใจ

เมื่อถามว่าได้ประเมินหรือไม่ว่าฉากทัศน์แบบนี้จะทำให้อำนาจนอกระบบเข้ามาแทรกแซงได้ง่ายขึ้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ แต่เราประเมินอย่างรอบด้านแล้ว ไม่ได้กลัวอะไร และเราก็พร้อมที่จะใช้เสียงที่มีป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น

ส่วนที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ระบุว่าเป็นการโดนหลอกที่สมบูรณ์ที่สุดตั้งแต่มีการเมืองมา นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ประเมินได้ว่าจะถูกหลอกหรือไม่ถูกหลอก แต่ยืนยันว่าเราได้ประเมินฉากทัศน์มาอย่างรอบด้านแล้ว และเป็นข้อเสนอที่เราเสนอตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้ว ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมาเราประเมินสถานการณ์ตลอด การตัดสินใจนี้ ถือเป็นทางออกที่ดีที่สุด เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของประเทศไม่ใช่ของพรรคประชาชน

เมื่อถามว่าการเลือกตั้งสมัยหน้า หากมองระยะยาว พรรคภูมิใจไทยจะจับกับพรรคประชาชนหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ยังไม่คิดถึงตรงนั้นว่าจะจับกับใคร สิ่งที่สำคัญตอนนี้คือการเดินหน้ายุบสภาพร้อมกับการเปิดประตูแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หลังจากนั้นจะเป็นการรณรงค์หาเสียงเพื่อจะให้ได้มาซึ่งเก้าอี้ในสภามากที่สุด

ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าก็มีโอกาสเป็นไปได้ที่จะไม่ได้เสียงข้างมากแล้วถึงเวลานั้นจะจับกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตอนนี้ที่บอกได้คือพร้อมที่จะลงสนามเลือกตั้ง แล้วเป้าหมายคือได้เสียงข้างมากในสภา

“เป็นสิ่งที่เราต้องฟังเสียงสะท้อน และทำความเข้าใจอย่างรอบด้าน แต่ตนก็ยืนยันอีกหนึ่งครั้งว่า สิ่งที่พรรคประชาชนต้องพยายามทำคือการใช้อำนาจที่พวกเรามีได้รับจากประชาชน ใช้อำนาจในสภาฯ ในการกำกับทิศทางของประเทศ นำไปสู่ทางออก ซึ่งเราทำกันอยู่แล้ว” นายณัฐพงษ์ กล่าว

นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า ตอนนี้สิ่งที่เราเห็นผลจากโพลต่าง ๆ จะพบว่าประชาชนอาจเริ่มผิดหวัง หรือเริ่มขาดความศรัทธาจากนักการเมืองจากการเลือกตั้ง ตนไม่อาจทิ้งความหวังตรงนี้ เรายืนยันว่าต้องใช้อำนาจในระบบหาทางออกให้กับประเทศ

เมื่อถามว่าหากพรรคภูมิใจไทยทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดละเมิดข้อตกลงร่วมพรรคประชาชนจะเลิกสนับสนุนหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ทันที รวมถึงอาจดำเนินการอื่นใด ถึงแม้ไม่ได้เขียนไว้ในลายลักษณ์อักษร แต่วิญญูชนเห็นได้ว่ากระทำไม่ถูกต้อง เราพร้อมดำเนินการทันที ตนคงไม่สามารถให้รายละเอียดได้ เช่น แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เพื่อล้างคดีให้กับกลุ่มผลประโยชน์พวกพ้องตัวเอง พวกเรายอมรับไม่ได้เช่นเดียวกัน

“มีกลไกมาตรา 151 อยู่ ถึงแม้โหวตนายกฯไปแล้ว โดยภูมิใจไทยต้องคงสภาพรัฐบาลเสียงข้างน้อย เรายังมีกลไกซักฟอกกำกับทิศทางรัฐบาลได้อยู่” นายณัฐพงษ์ กล่าว

เมื่อถามว่าวางแนวทางทำงานฝ่ายค้านกับเพื่อไทยอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่ใช่แค่พรรคเพื่อไทย แต่อยากให้ทุกพรรคทำงานอย่างเต็มที่.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ศุภมาศ” ดีใจได้ดูแลกำกับสื่อฯ บอก “กลองดีไม่ตีก็ไม่ดัง”

ทำเนียบ 26 ก.ย.- “รมต.ศุภมาศ” ดีใจได้ดูแลกำกับสื่อฯ บอก “กลองดีไม่ตีก็ไม่ดัง” เผยหลังแถลงนโยบาย เตรียมคุยผู้บริหาร “อสมท-กรมประชาสัมพันธ์-องค์กรสื่อ” ผลักดันงานรัฐบาลให้เข้าถึงประชาชนตั้งแต่ครัวเรือนถึงรากหญ้า ในช่วงเวลา 4 เดือน ยังไม่ชัดมีรายการนายกฯ พบประชาชนหรือไม่ นางศุภมาศ อิสรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถือฤกษ์ 09:09 น. เข้าห้องทำงานบนตึกบัญชาการ 1 ก่อนจะถือฤกษ์ 09:45 น. ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล จากนั้นนางศุภมาศ ได้ให้สัมภาษณ์หลังจากเข้ารับตำแหน่งแล้วจะมีนโยบายผลักดันในเรื่องใดบ้างในฐานะที่เข้ามากำกับดูแลด้านสื่อสารมวลชน ว่า เพิ่งจะได้รับทราบการแบ่งงาน ดีใจที่มีโอกาสได้เข้ามาดูแลงานประชาสัมพันธ์ให้กับรัฐบาล “ถือว่ากลองดี แต่ไม่ตีก็ไม่ดัง” เพราะรัฐบาลก็ทำดีอยู่แล้ว เพียงแต่ขาดการประชาสัมพันธ์ที่ทั่วถึงที่ข่าวสารที่จะไปถึงพี่น้องประชาชน โดยเราต้องทำให้นโยบายต่างๆ ทั้ง 4 ด้านที่ได้ประกาศออกไปถึงประชาชน และให้ได้รับประโยชน์จากนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลตั้งใจทำให้ นางศุภมาศ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ยังต้องรอการแต่งตั้งโฆษกรัฐบาล หากมีบุคคลเข้ามารับตำแหน่งแล้วก็จะมีการพูดคุยกับโฆษกรัฐบาลอีกครั้ง และมีโอกาสจะได้พบปะกับพี่น้องสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล และสื่อมวลชนทั้งหมด เพื่อที่เราจะช่วยกันวางแผน รวมถึงยังต้องขอความรู้ ความร่วมมือ และความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนที่จะทำอย่างไรให้นโยบายต่างๆ ที่เตรียมไว้ประชาสัมพันธ์ให้ถึงกลุ่มรากหญ้า และทุกครัวเรือน […]

กกต. จัดโรดโชว์ “ไม่ซื้อสิทธิ ไม่ขายเสียง” เลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 26 ก.ย.- กกต. จัดกิจกรรมโรดโชว์ “ไม่ซื้อสิทธิ ไม่ขายเสียง” เลือกตั้ง สส. เขต 5 ศรีสะเกษ “สันทัด” หวังคนออกมาใช้สิทธิด้วยความ สุจริต ลดบัตรเสีย นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ กรรมการการเลือกตั้ง เป็นประธานพิธีเปิด กิจกรรมโรดโชว์ (Road Show) “ไม่ซื้อสิทธิ ไม่ขายเสียง การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดศรีสะเกษ เขต 5 ที่สนามกีฬาวงกลม อำเภอขุนหาญ กิจกรรมโรดโชว์ในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อเพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการเลือกตั้ง สส. แทนตำแหน่งที่ว่าง และเชิญชวนให้ประชาชนอำเภอขุนหาญและภูสิงห์ ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายนนี้ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. โดยกิจกรรมดังกล่าว มีพิธีปล่อยขบวนรณรงค์ประชาสัมพันธ์ เพื่อเชิญชวนประชาชนออกไปแสดงพลังและใช้สิทธิเลือกตั้ง ภายใต้เจตนารมณ์ “ไม่ซื้อสิทธิ ไม่ขายเสียง การเลือกตั้ง สส. แทนตำแหน่งที่ว่าง” เพื่อร่วมกันรณรงค์ขับเคลื่อนประชาธิปไตย นายสันทัด […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ-อีสาน-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 26 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก โดยเฉพาะ จ.พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ จันทบุรี ตราด ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล มีฝนตกหนักบางพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดพิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ จันทบุรี และตราด ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย […]

ผู้ว่าฯ กทม. เผยเร่งเทปูน 500 ลบ.ม. อุดอุโมงค์ หวังฝนไม่ซ้ำเติม

กทม. 25 ก.ย.-ผู้ว่าฯ กทม. ชี้ “เขตภัยพิบัติ” เป็นประกาศตามเหตุการณ์ ไม่ได้ระบุระยะทาง เร่งเทปูน 500 ลูกบาศก์เมตร อุดอุโมงค์ หวังฝนไม่ซ้ำเติมจุดทรุด เตรียมกระสอบทราย-เครื่องสูบน้ำรับมือทันที นายชัชชาติ สิทธพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าเหตุถนนสามเสนทรุดตัวของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ผ่านมาว่า นายกฯ ได้ติดตามสั่งการทุกหน่วยงานมาโดยตลอด ทำให้ทุกคนรู้หน้าที่ตัวเอง และได้รับความร่วมมือร่วมใจที่ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การประปานครหลวง และการไฟฟ้านครหลวง รวมถึงภาคส่วนเอกชนต่างๆ อีกด้วย ทำให้เหตุการณ์รอบนอกเข้าสู่ภาวะปกติได้เร็ว เหลือเพียงข้างในที่เป็นเรื่องเชิงเทคนิค นายชัชชาติ ยังบอกอีกว่า การลงพื้นที่ของนายกฯ หลังเกิดเหตุ 2 ครั้งที่ผ่านมาไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้ามาก่อน และไม่ได้สั่งให้เตรียมการต้อนรับแต่อย่างใด ท่านมาแบบตามสบาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากที่ท่านนายกฯ ได้แวะมาเยี่ยมเยียนพูดคุยให้กำลังใจกัน มีปัญหาอะไรก็คุยกัน นายชัชชาติ เปิดเผยอีกว่า วันนี้จะมีการเทปูนลง 500 ลูกบาศก์เมตรไปในถนนทรุด แต่สิ่งที่ต้องมีการประเมินต่อคือ ปูนไหลลงไปในอุโมงค์เท่าไร เนื่องจากยังอุดกระสอบทรายได้ไม่เต็มที่ จึงมีปูนบางส่วนที่ไหลไปในอุโมงค์หรือสถานี อุปสรรคคือการเทปูนไปแล้วไม่ลงตรงจุด เนื่องจากปูนจะไหลไปในจุดที่ต่ำสุดเช่นเดียวกับการไหลของดิน […]