“ณัฐพงษ์” จี้ “ภูมิธรรม” แจงให้ชัดยังดำเนินการยุบสภาอยู่หรือไม่

รัฐสภา 4 ก.ย.-“ณัฐพงษ์” จี้ “ภูมิธรรม” แจงให้ชัดยังดำเนินการยุบสภาอยู่หรือไม่ ไม่ปลื้ม “ศุภชัย-สุรทิน” ฟ้อง “ภูมิธรรม” ปมยุบสภา จี้ให้ถอน ย้ำยังหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ และเดินหน้าเลือกตามวาระสภาฯ ขอใช้ 140 กว่าเสียงในสภา กำกับทิศทางประเทศ

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรบรรจุระเบียบวาระเลือกนายกรัฐมนตรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่กลับมีกระแสข่าวที่เกิดขึ้นว่า รัฐบาลเตรียมเสนอความเห็นเพิ่มเติม ต่อสำนักองคมนตรี เพื่อยืนยันว่าการปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีมีอำนาจที่จะทูลเกล้าฯยุบสภา ซึ่งพรรคประชาชน ยืนยันว่าปฏิบัติหน้าที่รักษาการ นายกรัฐมนตรีมีอำนาจยุบสภาแต่พวกเราไม่มีอำนาจตีความเรื่องนี้ว่าตกลงดำเนินการได้หรือไม่อย่างไร อำนาจการตีความอยู่ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ดังนั้นตอนนี้อยู่ในสภาพที่ไม่ชัดเจน


นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ชัดเจนคือระเบียบวาระเลือกนายกรัฐมนตรีกำลังเดินหน้า แต่ที่ไม่ชัดเจนคือพรรคเพื่อไทย หรือนายภูมิธรรมที่จะเดินหน้ากระบวนการยุบสภาหรือไม่อย่างไร ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดข้อกังวลหรือความขัดแย้งทางด้านข้อกฎหมายหรือการดำเนินการต่อจากนี้ สิ่งหนึ่งที่อยากเรียกร้อง จากนายภูมิธรรมและรัฐบาลให้เกิดความชัดเจน ให้เราเดินหน้าต่อได้อย่างถูกต้องที่สุด คืออยากได้ความชัดเจนว่าตกลงแล้วรัฐบาลยังคงเดินหน้ากระบวนการยุบสภาอยู่หรือไม่ ซึ่งถ้ากระบวนการโหวตนายกรัฐมนตรีหรือยุบสภายังไม่เกิดความชัดเจนอยู่แบบนี้ ตนเห็นว่าควรดำเนินการตามระเบียบวาระที่ได้บรรจุวาระการประชุม

นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า เมื่อวานนี้ (2ก.ย.) มีการดำเนินคดีมาตรา 112 โดยนายสุรทิน พิจารณ์ สส. พรรคประชาธิปไตยใหม่ และดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 โดยนายศุภชัย ใจสมุทร ซึ่งตนและพรรคประชาชนไม่เห็นด้วยที่ใช้เครื่องมือทางกฎหมายในการดำเนินคดีดังกล่าวดังนั้นสิ่งที่ตนอยากเรียกร้อง คืออยากให้ทั้งสองคน ถอนคำกล่าวโทษในการดำเนินคดีดังกล่าว เพื่อที่จะสร้างบรรยากาศที่พวกเราสามารถหาทางออกให้กับประเทศได้ พวกเราไม่เห็นด้วยในการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งหรือนิติสงครามไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด


“การดำเนินการของเพื่อไทยอาจย้อนแย้งด้วยตัวเอง ทั้งที่พรรคเตรียมเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแต่กลับมีข่าวว่าดำเนินการยุบสภาจึงออกมาเรียกร้องขอความชัดเจนจากนายภูมิธรรม ว่าตกลงแล้วยุติกระบวนการยุบสภาแล้วหรือไม่อย่างไร” นายณัฐพงษ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคเพื่อไทยเสนอนายชัยเกษม นิติสิริ แข่งกับนายกรัฐมนตรีแข่งกับนายอนุทินแล้ว ประเด็นเรื่องยุบสภาน่าจะจบแล้วหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การกระทำของพรรคเพื่อไทยย้อนแย้ง เพราะเตรียมที่จะเสนอแคนดิเดตนายกฯ แต่กลับมีกระแสข่าวว่ายื่นยุบสภา ตนขอเรียกร้อง หาความชัดเจนจากนายภูมิธรรมว่าตกลงแล้วได้ยุติกระบวนการยุบสภาแล้วหรือไม่

เมื่อถามว่าได้สัญญาณอะไรมา นายณัฐพงษ์ กล่าวว่าตนได้ยินว่าเตรียมนำความเห็นเพิ่มเติม เสนอไปยังสำนักองคมนตรี จึงอยากได้ความชัดเจนว่าตอนนี้ยุติแล้วใช่หรือไม่ และพร้อมที่จะเดินหน้าโหวตนายกรัฐมนตรี


เมื่อถามว่ากระบวนการยุบสภายังไม่จบ มติของพรรคประชาชนที่จะสนับสนุนนายอนุทินจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ นายณัฐพงษ์ ยืนยันว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงมติของพรรคที่ผ่านการรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้าน เราไตร่ตรองและทบทวนมาอย่างดีแล้ว แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้อยู่ในสภาพที่เรามองว่ารักษาการนายกรัฐมนตรีสามารถยุบสภาได้ แต่ทางรัฐบาลกลับมีความย้อนแย้งและเกิดความไม่ชัดเจนตรงนี้ เราจึงอยากทำให้เกิดความชัดเจนก่อน แต่ถ้าหากรัฐบาลยังคงคาราคาซังอยู่แบบนี้ เราก็เห็นควรที่จะดำเนินการตามที่ประธานสภาได้ใช้ดุลยพินิจบรรจุระเบียบวาระโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้

ส่วนการฟ้อง ม.157 ได้มีการคุยกับนายอนุทินแล้วหรือยัง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่ได้คุย แต่สมาชิกอาจจะมีการหารือกันบ้าง แต่ตนไม่ทราบว่าใครคุยกับใครบ้าง ตนในฐานะหัวหน้าพรรค การที่แสดงจุดยืนเรื่องนี้ต่อหน้าสาธารณชนทั้งประเทศเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด และพวกเราเองก็ไม่เห็นด้วย ขอเรียกร้องให้ผู้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษให้ถอนคำร้องทุกข์ออก

เมื่อถามว่ามีการวิจารณ์ว่าเป็นการฟ้องปิดปาก และคนที่ไม่เห็นด้วยก็คือที่ปรึกษาด้านต่างประเทศของพรรคประชาชนเอง ที่มองว่าพรรคภูมิใจไทยลุแก่อำนาจ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ขอยืนยันในหลักการเราพูดมาโดยตลอดว่าเราไม่เห็นด้วยกับกระบวนการนิติสงคราม และสิ่งที่ประชาชนไม่อยากเห็นตอนนี้คือใครที่กำลังจะขึ้นมามีอำนาจแล้วใช้กระบวนการทุกอย่าง ใช้อำนาจที่ตัวเองจะได้รับทำลายฝั่งตรงข้าม หรือเล่นงานฝ่ายตรงข้าม

“ถ้าเกิดกรณีแบบนี้ขึ้นไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทยหรือใครก็ตาม เราเองไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว ดังนั้น นี่คือการส่งสัญญาณเพื่อจะบอกว่าเราไม่เห็นด้วยกับการไปฟ้องนายภูมิธรรมเช่นนั้น” นายณัฐพงษ์ กล่าว

เมื่อถามว่าแบบนี้ถือว่าพรรคภูมิใจไทยผิดข้อตกลงหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงที่เป็นลายลักษณ์อักษร แต่การดำเนินการหลังจากนี้เราจะใช้เสียงในสภาที่เรามีกำกับทิศทางของประเทศให้เดินไปตามทิศทางที่เราเห็นว่าถูกและควรโดยใช้รัฐบาลเสียงข้างน้อยและเราเป็นฝ่ายค้านเสียงข้างมากในการกำกับทิศทาง

ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าเราเป็นนั่งร้านหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เราจะไปนั่งร้านหรือไม่ อยู่ที่การแสดงออก การใช้เสียงในสภาที่เรามี กำกับรัฐบาลเสียงข้างน้อย

ผู้สื่อข่าวจึงย้อนถามว่า จะคุมแค่เสียงในสภาหรือเพราะมิติทางการเมืองมีทั้งในสภาและนอกสภา นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ภายนอกสภา เราห้ามคนที่ไปยื่นคดีฟ้องร้องไม่ได้ ตนไม่ได้มีอำนาจไปกำกับสส.แต่ละคนที่เขาอยู่พรรคอื่น แต่ถ้ามีการดำเนินการอะไรไปแล้วตนเชื่อมั่นว่า 140 กว่าเสียงที่เรามี จะเป็นอำนาจในสภาที่จะกำกับทิศทางการดำเนินการต่างๆของพรรคการเมืองได้

เมื่อถามว่าเมื่อวานนี้พรรคประชาชนระบุว่าจะคุมพรรคภูมิใจได้ด้วยบันทึกข้อตกลง (MOA) แต่เรื่องนี้ส่งสัญญาณชัดแล้วใช่หรือไม่ว่าไม่สามารถคุมได้แล้ว นายณัฐพงษ์ ย้ำว่าการ MOA ครั้งนี้ไม่ใช่การร่วมรัฐบาล เราไม่มีอำนาจใดที่จะไปสั่งห้ามไม่ให้เขาทำอะไร เป็นการล่วงหน้าและการจัดตั้งรัฐบาลหรือการดำเนินการใดใดก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่เขาทำ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเห็นว่ารัฐบาลทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และขัดต่อหลักการเรา เราพร้อมที่จะใช้เสียงในสภาที่เรามีในการกำกับทิศทางให้รัฐบาลเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง

ส่วนจะต้องมีการพูดคุยเป็นทางการกับนายอนุทินหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การแถลงข่าวในครั้งนี้จะเป็นการพูดคุยอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยทุกฝ่ายที่รวมเสียงกับพรรคภูมิใจไทยในตอนนี้ได้เห็นสัญญาณที่ตนได้ส่งไปแล้ว

เมื่อถามว่าประเมินคะแนนนิยมของพรรคประชาชนอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องยอมรับตามข้อเท็จจริง ช่วงสั้นๆ อาจมีโหวตเตอร์หรือผู้สนับสนุนของพรรคบางส่วนที่ยังไม่สบายใจ เราเข้าใจดีและเชื่อว่าผู้บริหารพรรครับฟังเสียงอย่างรอบด้านแล้ว ก่อนที่จะออกมาเป็นมติ ยืนยันว่าการตัดสินใจครั้งนี้ทุกองคาพยพของพรรคประชาชนเห็นไปในทิศทางเดียวกันกับสิ่งที่ได้มีมติออกมา ดังนั้น การดำเนินงานต่อจากนี้ที่จะทำให้คะแนนความนิยมของพรรคเพิ่มมากขึ้นหรือผู้สนับสนุนพรรคเข้าใจสิ่งที่ทำ เป็นหน้าที่ของเราที่เราจะต้องทำต่อเชื่อว่า 4 เดือนหลังจากนี้ ถ้าพรรคประชาชนสามารถกำกับทิศทางให้เป็นไปตามข้อตกลงได้ เชื่อว่าทุกคนจะเข้าใจ

เมื่อถามว่าได้ประเมินหรือไม่ว่าฉากทัศน์แบบนี้จะทำให้อำนาจนอกระบบเข้ามาแทรกแซงได้ง่ายขึ้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ แต่เราประเมินอย่างรอบด้านแล้ว ไม่ได้กลัวอะไร และเราก็พร้อมที่จะใช้เสียงที่มีป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น

ส่วนที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ระบุว่าเป็นการโดนหลอกที่สมบูรณ์ที่สุดตั้งแต่มีการเมืองมา นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ประเมินได้ว่าจะถูกหลอกหรือไม่ถูกหลอก แต่ยืนยันว่าเราได้ประเมินฉากทัศน์มาอย่างรอบด้านแล้ว และเป็นข้อเสนอที่เราเสนอตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้ว ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมาเราประเมินสถานการณ์ตลอด การตัดสินใจนี้ ถือเป็นทางออกที่ดีที่สุด เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของประเทศไม่ใช่ของพรรคประชาชน

เมื่อถามว่าการเลือกตั้งสมัยหน้า หากมองระยะยาว พรรคภูมิใจไทยจะจับกับพรรคประชาชนหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ยังไม่คิดถึงตรงนั้นว่าจะจับกับใคร สิ่งที่สำคัญตอนนี้คือการเดินหน้ายุบสภาพร้อมกับการเปิดประตูแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หลังจากนั้นจะเป็นการรณรงค์หาเสียงเพื่อจะให้ได้มาซึ่งเก้าอี้ในสภามากที่สุด

ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าก็มีโอกาสเป็นไปได้ที่จะไม่ได้เสียงข้างมากแล้วถึงเวลานั้นจะจับกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตอนนี้ที่บอกได้คือพร้อมที่จะลงสนามเลือกตั้ง แล้วเป้าหมายคือได้เสียข้างมากในสภา

“เป็นสิ่งที่เราต้องฟังเสียงสะท้อน และทำความเข้าใจอย่างรอบด้าน แต่ตนก็ยืนยันอีกหนึ่งครั้งว่า สิ่งที่พรรคประชาชนต้องพยายามทำคือ การใช้อำนาจที่พวกเรามี ได้รับจากประชาชน ใช้อำนาจในสภาฯ ในการกำกับทิศทางของประเทศ นำไปสู่ทางออก ซึ่งเราทำกันอยู่แล้ว” นายณัฐพงษ์ กล่าว

นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า ตอนนี้สิ่งที่เราเห็นผลจากโพลต่าง ๆ จะพบว่าประชาชนอาจเริ่มผิดหวัง หรือเริ่มขาดความศรัทธาจากนักการเมืองจากการเลือกตั้ง ตนไม่อาจทิ้งความหวังตรงนี้ เรายืนยันว่าต้องใช้อำนาจในระบบหาทางออกให้กับประเทศ

เมื่อถามว่าหากพรรคภูมิใจไทยทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดละเมิดข้อตกลงร่วมพรรคประชาชนจะเลิกสนับสนุนหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ทันที รวมถึงอาจดำเนินการอื่นใด ถึงแม้ไม่ได้เขียนไว้ในลายลักษณ์อักษร แต่วิญญูชนเห็นได้ว่ากระทำไม่ถูกต้อง เราพร้อมดำเนินการทันที ตนคงไม่สามารถให้รายละเอียดได้ เช่น แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เพื่อล้างคดีให้กับกลุ่มผลประโยชน์พวกพ้องตัวเอง พวกเรายอมรับไม่ได้เช่นเดียวกัน

“มีกลไก มาตรา 151 อยู่ ถึงแม้โหวตนายกฯไปแล้ว โดยภูมิใจไทยต้องคงสภาพรัฐบาลเสียงข้างน้อย เรายังมีกลไกซักฟอกกำกับทิศทางรัฐบาลได้อยู่” นายณัฐพงษ์ กล่าว

เมื่อถามว่าวางแนวทางทำงานฝ่ายค้านกับเพื่อไทยอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่ใช่แค่พรรคเพื่อไทย แต่อยากให้ทุกพรรคทำงานอย่างเต็มที่.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

ห้องประชุมสภา คึกคัก “อนุทิน” เดินทักทายรอบห้อง

รัฐสภา 4 ก.ย.-ห้องประชุมสภาฯ คึกคัก “อนุทิน” เดินทักทายรอบห้อง ไม่เว้นโซน “เพื่อไทย” ขณะที่ สส.พรรคประชาชน บอกลำบากใจโหวต ให้ “เสี่ยหนู” แต่จำเป็นเพื่อผ่าทางตัน พร้อมฝากถึง “แพทองธาร” สารตั้งต้นปัญหา ควรรับผิดชอบมากกว่านี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยเปิดให้สมาชิกหารือปัญหาเดือดร้อน โดยบรรยากาศ เป็นไปด้วยความคึกคัก เมื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ได้รับการสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมีการเลือกกันในวันที่ 5 ก.ย.นี้ เดินเข้าห้องประชุมเมื่อเวลา 09.20 น.ได้เดินทักทาย สส.พรรคภูมิใจไทย และมีการถ่ายภาพหมู่ในห้องประชุม จากนั้นได้เดินทักทายพูดคุยกับ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ และ สส.พรรคประชาชน ในที่นั่งของพรรครวมไทยสร้างชาติ และที่นั่งพรรคประชาชน ขณะที่มี สส.ส่วนหนึ่งก็เดินเข้ามาทักทาย จับมือ แสดงความยินดีล่วงหน้าที่นายอนุทิน จะได้รับการโหวตเป็นนายกฯ นอกจากนั้นนายอนุทิน ยังเดินไปทักทายพูดคุยกับ สส.พรรคเพื่อไทย เช่น […]

รฟท.ประสาน DSI เลื่อนแจ้งความเอาผิด “เขากระโดง”

ดีเอสไอ 3 ก.ย.-รฟท.ประสาน DSI เลื่อนแจ้งความเอาผิดเรื่องเขากระโดงไม่มีกำหนด ความคืบหน้าการสืบสวนเรื่องร้องเรียนการครอบครองและการออกเอกสารสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดงจังหวัดบุรีรัมย์ อันอาจเป็นที่ดินของรัฐ ซึ่งอธิบดีดีเอสไอมีคำสั่งสืบสวน และดีเอสไอได้ดำเนินการสอบสวนปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานพบกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่รฟท.เกี่ยวข้อง ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ติดต่อจะมอบให้ฝ่ายกฎหมายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้ดำเนินการสอบสวนตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมมอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องวันนี้ เวลา 14.00น. ล่าสุดพ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย รฟท.ได้ประสานกลับมายังตน ขอเลื่อนการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ออกไปก่อน อย่างไม่มีกำหนด กรณีนี้ พนักงานสอบสวนดีเอสไอตรวจสอบพบ กลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟเข้าไปเกี่ยวข้อง และการรถไฟฯ เป็นผู้เสียหายจึงประสาน รฟท.ไปให้มาแจ้งความดำเนินคดีอาญากับกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่รัฐอื่นในการเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณพื้นที่เขากระโดง ต.เสม็ด และ ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ หากรฟท.ไม่มาแจ้งร้องทุกข์ ก็เข้าข่ายละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ดีเอสไอจะทำหนังสือแจ้งรฟท.อีกครั้งให้มาแจ้งความร้องทุกข์ หากยังไม่มาอีก ก็จะประชุมพนักงานสอบสวน ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้บริหารการรถไฟฯ เรียกสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องฐานเป็นผู้สนับสนุนเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ติดป้ายให้ ‘ชาวกัมพูชา’ รื้อถอน-ย้ายออก พื้นที่บ้านหนองจาน

สระแก้ว 4 ก.ย.-ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งติดป้ายให้ชาวกัมพูชา รื้อถอน-ย้ายออก พื้นที่บ้านหนองจาน ในส่วนของไทย หากฝ่าฝืนเอาผิด พ.ร.บ.คนเข้าเมือง-ป่าไม้ โทษปรับ-จำคุก เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน จ.สระแก้ว ติดตั้งประกาศบังคับใช้กฎหมายชาวกัมพูชาที่บุกรุกพื้นที่ในราชอาณาจักรไทย บริเวณบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยป้ายมี 3 ภาษา ไทย-กัมพูชา-อังกฤษ พร้อมแผนที่ ระบุว่า “ประกาศให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกถือครองที่ดินและอยู่อาศัยทำกินในราชอาณาจักรไทย เป็นการกระทำความผิดในราชอาณาจักรไทย ตามแผนที่แนบท้ายกรอบสีฟ้า หากเพิกเฉยไม่ดำเนินการจะดำเนินคดีและต้องรับโทษในราชอาณาจักรไทย หากเพิกเฉยไม่ดำเนินการจะดำเนินคดีและต้องรับโทษในราชอาณาจักรไทยตามกฎหมายดังนี้ 1.พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 11 มาตรา 62 และมาตรา 81 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท 2.พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 […]

เร่งล่าคนร้ายฆ่าหญิงสาวยัดกระเป๋าเดินทางถ่วงน้ำ

ชลบุรี 3 ก.ย. – คดีสังหารโหดหญิงปริศนายัดกระเป๋าเดินทาง โยนทิ้งอ่างเก็บน้ำ จ.ชลบุรี ตำรวจเร่งหาเบาะแสล่าตัวคนร้าย พบลายนิ้วมือแฝงบนดัมเบลที่ใช้ถ่วงน้ำหนักกระเป๋า ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน นำกระเป๋าเดินทางสีดำขนาดใหญ่ ซึ่งมีโซ่เหล็ก และกุญแจล็อกแน่นหนา ขึ้นมาตรวจสอบ หลังจากพบลอยอยู่ในอ่างเก็บน้ำคลองบางไผ่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ จากการตรวจสอบภายในกระเป๋า พบศพหญิงสาว อายุประมาณ 30 ปี ไม่ทราบสัญชาติ เปลือยท่อนบน นุ่งกางเกงขา 3 ส่วน สีครีม นอนขดตัวอยู่ในกระเป๋า พบร่องรอยเขียวช้ำบริเวณลำคอ กลางหน้าอก และดั้งจมูก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน โดยเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมถึงตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลว่า ผู้ตายเป็นใคร มาจากไหน ส่วนบริเวณช่องใส่ของด้านหน้ากระเป๋า พบแผ่นดัมเบล 9 แผ่น (ขนาดน้ำหนัก 5 กก. จำนวน 1 แผ่น / 2.5 […]