พบอีก 1 ป่วยโควิด-19 พนักงานสัมผัสใกล้ชิดนักท่องเที่ยว

สธ.29 ก.พ.-“อนุทิน”เผยพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 1 คน เป็นพนักงานขายสัมผัสใกล้ชิดนักท่องเที่ยว พร้อมติดตามคนใกล้ชิดไกด์ทัวร์เกาหลี 10 คนครบแล้วตรวจเชื้อผลเป็นลบ ห่วงแฟลชม็อบในเยาวชนทำให้โรคแพร่ กระจาย วอนขอให้ตระหนักถึงสถานการณ์โรค พร้อมเตรียมแจกหน้ากากอนามัยฟรีแก่ประชาชน คนละ 3 ชิ้น วันจันทร์นี้ที่ สธ. 


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โรคโควิด -19  ว่า ขณะนี้พบผู้ป่วยเพิ่มอีก 1 คน เป็นพนักงานขายของมีความสัมผัสใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวผู้เดินทาง มีไข้ ไอ  รักษาตัว ที่ รพ.นพรัตนราชธานี  และ  มีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 1 คน  ภาพรวมรักษาหายแล้ว 28 คน เหลือรักษาในโรงพยาบาล 14 คน ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมมี 42 คน พร้อมย้ำการประกาศให้โรคโควิด-19 ให้เป็นโรคติดต่ออันตรายอันดับที่ 14 มีผลแล้ว ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตัว ตระหนักการรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อการควบคุม 


นายอนุทิน กล่าวต่อไปว่า สำหรับการชุมนุมทางการเมืองของเด็กๆ เยาวชน อยากขอร้องให้เหล่าปัญญาชนเหล่านี้ได้ฉุกคิด ตระหนัก สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19เพราะหากมีการเจ็บป่วยขึ้นมาจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมของการควบคุมโรคในประเทศ 1คน อาจมีผู้สัมผัสโรคมากกว่า 30-40 คน และหากมีการเจ็บป่วยจำนวนมากขึ้นมาจริง เกรงว่ากำลังบุคลากรทางแพทย์อาจดูแลไม่ทั่วถึงหรือเพียงพอ ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของตนเอง และสังคมส่วนรวม อย่างไรก็ตามหากต้องการชุมนุมทางการเมือง ลำพังแค่การจัดแจกหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือ อาจ ไม่เพียงพอ ต่อการควบคุมโรค ขอให้คิดถึงการแนวทางชุมนุมแบบอื่นที่สร้างสรรค์และปลอดภัย 


นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ในวันจันทร์ที่ 2 มีนาคมนี้ ภายใน 9 กรม ของกระทรวงสาธารณสุข จะได้มีการจัดแจก หน้ากากอนามัยให้กับประชาชน เพื่อลดปัญหาการขาดแคลนหรือหน้ากากอนามัยไม่เพียงพอ โดยจะมีการแจกฟรีคนละ 3 ชิ้น แต่ขอร้องอย่ามีการเวียนเทียนรับหน้ากาก ขอให้คิดถึงสถานการณ์การระบาดภายในประเทศ  และคนที่ไม่มีกำลังป้องกัน ส่วนคนที่มีร่างกายแข็งแรงดี สามารถใช้หน้ากากอนามัยแบบผ้าได้ เพื่อป้องกัน 

นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรงสาธารณสุข กล่าวว่า การประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย มีผลให้ประชาชนยิ่งต้องตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในการควบคุมโรค หากกลับมาจากพื้นที่เสี่ยง ต้องกักตัวเอง 14 วันดูอาการ ไม่ออกไปแหล่งชุมชน กินข้าวแยกสำรับ และมีช้อนกลาง เพื่อป้องกันการติดต่อและเจ็บป่วย เข้าห้องน้ำต้องหมั่นล้างมือ เพราะ สัมผัสกับลูกบิดประตู ชักโครก พร้อมจับตาประเทศฝรั่งเศสที่ขณะนี้มีแนวโน้มพบผู้ป่วยติดเชื้อมากขึ้น แต่ยังเน้นการเฝ้าระวังใน 6 ประเทศ 3 เขตปกครองพิเศษ เช่นเดิม

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป สำหรับกรณีที่องค์การอนามัยโลกมีการยกระดับเตือนโรคโควิด-19 สูงสุด เพื่อต้องการแจงข้อมูลให้ทุกประเทศตระหนักถึงสถานการณ์ทั่วโลก ที่พบว่าการตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อตอนแรกพบในประเทศพัฒนาหรือกำลังพัฒนา แต่ขณะนี้โรคได้แพร่ไปในหลายประเทศ แม้แต่ประเทศที่มีระบบสาธารณสุขไม่เข้มแข็งก็สามารถพบได้แล้ว ส่วนการติดตามตัวผู้ป่วยสัมผัสติดกับไกด์ทัวร์เกาหลีใต้ครบแล้วทั้ง 10 คน ผลการตรวจเบื้องต้นเป็นลบ ส่วนข่าวลือการพบเจอเชื้อโรคโควิด-19 ในธนบัตร เรื่องนี้ ขอย้ำว่าธนบัตรก็เหมือนกับสิ่งของทั่วไปก็ขอให้หมั่นล้างมือ อย่าจับธนบัตรและไปลูบหน้าลูบตา .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน

พระยันตระ

ปิดตำนาน “อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตในวัย 73 ปี ที่สหรัฐ

“อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 73 ปี ที่วัดในสหรัฐอเมริกา ปิดตำนานอดีตพระภิกษุที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดรูปหนึ่งของวงการสงฆ์ไทย

อดีตผู้บังคับบัญชา “ผู้กำกับโจ้” เผยสมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร

อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดประวัติอดีตผู้กำกับโจ้ สมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร เชื่อได้รับผลกรรมที่ทำแล้ว

ข่าวแนะนำ

Exclusive! เปิดห้องขังแดน 5 “อดีต ผกก.โจ้”

กรมราชทัณฑ์ เปิดห้องขัง แดน 5 ของ “อดีต ผกก.โจ้” ให้สังคมได้เห็นสภาพความเป็นจริงอีกด้าน พบด้านในยังรักษาพื้นที่ และข้าวของเครื่องใช้ของอดีต ผกก.โจ้ เอาไว้ เผื่อเจ้าหน้าที่จะเข้ามาเก็บหลักฐานเพิ่มเติม

รัฐบาลเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน

รัฐบาลเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน ปี ฮ.ศ. 1446 ขณะที่นายกรัฐมนตรี ร่วมส่งใจให้พี่น้องชาวมุสลิมตั้งจิตมุ่งมั่นปฏิบัติศาสนกิจถือศีลอด ในช่วงเวลาแห่งเดือนอันศักดิ์สิทธิ์

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท