กรุงเทพฯ 26 ก.พ. – สศอ.ชี้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ม.ค.หดตัวระยะสั้น มองโควิด – 19 เป็นโอกาสการส่งออกของไทย
นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) เดือนมกราคม 2563 หดตัว 4.59% อยู่ที่ระดับ 103.32 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ระดับ 108.30 เนื่องจากผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวต่อเนื่อง ทำให้การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมไม่รวมทองคำเดือนมกราคม 2563 หดตัว 0.85%
ส่วนแนวโน้มดัชนีเอ็มพีไอเดือนกุมภาพันธ์ 2563 สศอ.ประเมินว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับใกล้เคียงกับเดือนมกราคม เนื่องจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐดีขึ้นหลังจากบรรลุข้อตกลงเจรจาการค้ารอบแรก ประกอบกับสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของไทยมีมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังค่อนข้างได้ผลดีอยู่ในระดับ 2 ยังไม่เข้าสู่ความรุนแรงระดับ 3 เพราะสามารถควบคุมการแพร่เชื้อไว้ได้ในวงจำกัด
นายอิทธิชัย ยศศรี รองผู้อำนวยการ สศอ. กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในไทยอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวในวงจำกัด เช่น อุตสาหกรรมอาหารสดเริ่มเห็นดัชนีเอ็มพีไอลดลงบ้าง จากผลพวงนักท่องเที่ยวจีนยกเลิกการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย ทำให้การบริโภคในประเทศที่มาจากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 10-20% ของการบริโภคทั้งหมดในประเทศหายไป ขณะที่อุตสาหกรรมอาหารแปรรูปไม่ได้รับผลกระทบ โดย สศอ.ประเมินสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้จีนหยุดการผลิตอุตสาหกรรมที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิตของไทย ส่งผลให้อุตสาหกรรมไทยอาจประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบขั้นกลางที่พึ่งพาการนำเข้าจากจีนในสัดส่วนกว่า 23% อาทิ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์สำหรับคอมพิวเตอร์และยานยนต์ กลุ่มวงจรพิมพ์ แบตเตอรี่/เซลล์ปฐมภูมิสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้า รวมถึงกลุ่มเคมีภัณฑ์อนินทรีย์และเคมีภัณฑ์อินทรีย์ ยางรถยนต์ ส่วนประกอบรถยนต์ ตัวถังรถยนต์ แต่เชื่อว่าจะส่งผลกระทบภาคอุตสาหกรรมเพียงระยะสั้น 1-2 เดือน เพราะไทยสามารถปรับตัวหาตลาดอื่นทดแทนได้
“แง่ดี คือ ความสามารถในการผลิตของจีนจะลดลงอีกไม่น้อยกว่า 6-8 เดือน โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคในกลุ่มเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ เช่น หน้ากากอนามัย เคมีภัณฑ์ และอื่น ๆ ที่จีนจำเป็นต้องนำเข้าจากไทยมากขึ้น ล่าสุดมีบริษัทผู้ผลิตจากจีนต้องการให้ไทยส่งออกเครื่องจักรหรือชิ้นส่วนประกอบสำหรับตั้งโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย N95 ในจีนด้วย” นายทองชัย กล่าว
ปัจจุบันไทยนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมจากเมืองอู่ฮั่นประเทศจีน โดยเฉพาะในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ไฟฟ้า พืชผักมีสัดส่วนเพียงเล็กน้อยประมาณ 0.1% คิดเป็นมูลค่า 245 ล้านเหรียญสหรัฐ และสินค้าที่ไทยส่งออกไปเมืองอู่ฮั่น เช่น กลุ่มเครื่องมือแพทย์ สัตว์น้ำ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์มีสัดส่วนประมาณ 0.2-0.3% คิดเป็นมูลค่า 337 ล้านเหรียญสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม แม้ดัชนีเอ็มพีไอเดือนมกราคม 2563 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนจะหดตัว 4.59% แต่กลับยกตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 4.43% สอดคล้องกับอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนมกราคมอยู่ที่ 66.48% สูงกว่าเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 64.02% ประกอบกับการนำเข้าสินค้าทุนประเภทเครื่องจักรกล ผลิตภัณฑ์โลหะขยายตัว 5.9% สะท้อนการฟื้นตัวค่อนข้างดี .- สำนักข่าวไทย