กทม.20 ก.พ.- อัยการฟ้อง “กอล์ฟ” 9 ข้อหาหนัก ใช้ปืนยิงชิงทองออโรร่า ที่ลพบุรี ตาย 3 คน บาดเจ็บหลายราย พร้อมยื่นฟ้องต่อศาลให้ลงโทษสถานหนัก และพิจารณาโดยรวดเร็ว
นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา และนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกันแถลงความคืบหน้าการพิจารณาสำนวนคดีนายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ ผอ.กอล์ฟ ใช้อาวุธปืนออโตเมติค ติดลำกล้อง ก่อเหตุชิงทรัพย์ห้างทองออโรร่า ในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จังหวัดลพบุรี เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา
ว่าคดีนี้เป็นการก่อเหตุสะเทือนขวัญ ใช้อาวุธร้ายแรงทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย สื่อมวลชนและประชาชน ให้ความสนใจติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องจึงเข้าลักษณะคดีสำคัญจึงมีคำสั่งให้ตั้งคณะทำงานขึ้นพิจารณาสำนวนคดี และเมื่อพิจารณาสำนวนสอบสวนคดีแล้วพบว่ามีความสมบูรณ์ไม่ต้องสอบสวนเพิ่ม จึงมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาในความผิด 9 ข้อกล่าวหา ประกอบด้วย 1.ฆ่าผู้อื่นเพื่อประเตรียมการเพื่อกระทำความผิดอย่างอื่น 2.พยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการกระทำความผิดอย่างอื่น 3.ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้อาวุธปืนและยานพาหนะ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน อีก 6 ข้อหา โดยอัยการจะนำสำนวนพร้อมผู้ต้องหายื่นฟ้องต่อศาลอาญาวันนี้ (20 ก.พ.) ส่วนเนื้อหาในสำนวนคดีของพนักงานสอบสวนส่งให้พนักงานอัยการ มีผู้ต้องหาก่อเหตุเพียงคนเดียวนั้น ได้บรรยายฟ้องขอให้ศาลลงโทษจำเลยสถานหนักและขอให้มีการพิจารณาโดยรวดเร็ว เพราะเป็นเหตุสะเทือนขวัญ ทั้งนี้ ผู้เสียหายสามารถร้องขอเป็นโจทก์ร่วมกับทางอัยการและให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย โดยต้องยื่นคำร้องต่อศาลอาญาก่อนที่อัยการจะเริ่มสืบพยาน ซึ่งอัยการได้ประสานพนักงานสอบสวนให้ติดต่อผู้เสียหายเพื่อดำเนินการร้องขอให้อัยการร้องขอต่อศาลให้สั่งจ่ายค่าเสียหาย เพื่อไม่ต้องหาทนายความมาฟ้องร้องเอง
คดีนี้ แม้ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาจะรับสารภาพก็จะต้องมีการสืบพยานเพราะเป็นคดีมีอัตราโทษสูง คณะทำงานของอัยการจะกำหนดพยานที่มีความสำคัญเพื่อพิสูจน์ให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลย แต่ถ้าจำเลยกลับคำให้การ เป็นปฏิเสธ อัยการจะกำหนดพยานเต็มรูปแบบทั้งพยานบุคคลและพยานวัตถุ และร้องขอให้ศาลสืบพยานและพิจารณาคดีโดยเร็ว ในการสืบพยาน จะทำการสืบพยานที่ศาลอาญา ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนท์ ไปยังพยานในพื้นที่จังหวัดลพบุรี วัตถุพยานที่สำคัญอย่าง อาวุธปืนนั้น ได้ถูกนำมาประกอบสำนวนแล้ว แต่ท่อเก็บเสียงนั้นจำเลยโยนทิ้งน้ำไปไม่สามารถเก็บเข้ามาใช้ประกอบสำนวนได้ จึงใช้เปรียบเทียบท่อเก็บเสียงในแหล่งที่มาเดียวกัน ส่วนพยานบุคคล คดีนี้จำเลยใส่หมวกโม่งคลุมศรีษะไม่มีประจักษ์พยานยืนยันได้ชัดเจนจึงใช้การสืบพยานแวดล้อมอย่างละเอียดรัดกุม ขอยืนยันว่าอัยการจะนำสืบพยานให้ศาลเห็นว่า จำเลยไม่ได้รับสารภาพเพราะสำนึกในการกระทำผิด แต่รับสารภาพเพราะจำนนด้วยหลักฐาน และจำเลยลงมือก่อเหตุด้วยความโหดเหี้ยมทารุณ.-สำนักข่าวไทย