สบส.รุดตรวจคลินิกย่านเพชรเกษม ฟันโทษหากมีเอี่ยวทำสาวดับ

สธ.19ก.พ.-สบส.ยังไม่ฟันคลินิกย่านเพชรเกษม ฉีดโบท็อกซ์นักร้องสาวเสียชีวิตคาห้องพัก รอนิติเวชชันสูตรเพราะมีโรคหัวใจ เป็นโรคประจำตัว เบื้องต้นอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลแพทย์คนฉีด  เพราะเจ้าของคลินิก อ้างไม่รู้ อาจเข้าข่ายหมอเถื่อน 


นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.)กล่าวถึงความคืบหน้าคดีนักร้องสาวฉีดโบท็อกซ์ ที่คลินิกย่านเพชเกษมและเสียชีวิตที่ห้องพัก ว่า ขณะนี้รอผลการตรวจสอบทางนิติเวชจากศิริราช ส่วนการดำเนินคดีเบื้องต้นทราบ คลินิกดังกล่าวได้รับขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ตั้งอยู่ถนนเพชรเกษม ซอย 81 เขตบางแค ขณะนี้สถานพยาบาลดังกล่าวได้ปิดให้บริการชั่วคราวแล้ว ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น 


ขณะนี้อยู่ระหว่างการข้อมูลเวชระเบียนคนไข้ และขอข้อมูลเกี่ยวกับแพทย์ที่ดำเนินการ ทราบเบื้องต้นเพียงว่าเป็นแพทย์พาร์ทไทม์ไม่ใช่แพทย์ประจำของคลินิก แต่ไม่สามารถระบุตัวแพทย์ผู้ทำหัตถการและข้อมูล เนื่องจากผู้ประกอบการและผู้ขออนุญาตดำเนินกิจการ ไม่ทราบข้อมูลแพทย์คนนี้มาก่อน หากคนทำไม่ใช่แพทย์ก็จะมีความผิด ซึ่งกรณีสถานพยาบาลกล่าวอ้างไม่ทราบข้อมูลไม่ได้ โดยผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการสถานพยาบาลจะมีความผิด ตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล 2541 ฐานไม่จัดให้มีผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลตามวิชาชีพและไม่จัดให้มีรายงานหลักฐานเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลและผู้ป่วย  รวมถึงเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาลมีโทษจำคุกไม่เกิน 1ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พร้อมเตรียมเสนอให้แพทยสภาตรวจสอบมาตรฐานวิชาชีพ และหากพบว่าคนทำหัตถการไม่ใช่แพทย์จะได้รับโทษอีก 2ข้อหาคือประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยได้รับการขึ้นทะเบียนอนุญาตเข้าข่ายหมอเถื่อน จำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกิน 30,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับและกรณีปล่อยให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ดำเนินการ โทษจำคุกไม่เกินสองปีปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

นพ.ธเรศ กล่าวว่า จากข้อมูลประวัติของนักร้องคนนี้พบป่วยโรคหัวใจ แต่การฉีดโบท็อกซ์ เบื้องต้นไม่ได้ก่อให้เกิดอาการข้างเคียง แต่ต้องมีการตรวจสอบให้แน่ชัดว่ามีการใช้ยาอื่นร่วมหรือไม่ เนื่องจากอันตรายของการฉีดโบท็อซ์ ทำให้เกิดปวดศีรษะ คลื่นไส้ กล้ามเนื้อเปลือกตาหย่อน รวมถึงกล้ามเนื้ออ่อนแรง ขณะนี้อยู่ระหส่างส่งข้อมูลให้ อย.ตรวจสอบโบท็อกซ์ดังกล่าวว่ามีการนำเข้าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หากพบนำเข้าผิดกฎหมายจำคุก 5 ปี.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณทุกคะแนนเสียง เลือกนายก อบจ.-ส.อบจ.เพื่อไทย

“อนุสรณ์” ขอบคุณทุกคะแนนเสียง เลือกนายก อบจ.-ส.อบจ.พรรคเพื่อไทย เชื่อมนต์ขลัง “ทักษิณ”-ผลงานรัฐบาลแพทองธาร เป็นปัจจัยความสำเร็จ

กต.พร้อมพา 5 ตัวประกันไทยกลับบ้านเมื่อสุขภาพแข็งแรง

รมว.ต่างประเทศ เยี่ยม 5 ตัวประกันคนไทย พร้อมพาทุกคนกลับบ้านเมื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีแล้ว ขณะที่ทุกคนขอบคุณที่ทำให้ได้ชีวิตใหม่

นายกฯ ฝากรายการใหม่เทปแรก ไล่เรียงนโยบายแบบ Exclusive

“โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” นักจัดรายการมือใหม่​ ฝากเนื้อฝากตัว หวังใจถึงใจกับประชาชน​ ไล่เรียงภารกิจนโยบายหลายเรื่องแบบเบื้องหลัง Exclusive 30 บาทรักษาทุกที่-บ้านเพื่อคนไทย-แก้ฝุ่น-พ.ร.ก.ไซเบอร์ ยันเงินหมื่นเฟส 3 มาแน่ รอคลังเคาะ นายกฯ รับเสียใจถูกบูลลี่เรื่องแต่งตัว​ แต่จะแต่งแบบนี้ไปทำงานให้ประชาชนมีความสุข

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ ค่าฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่ม

กรมอุตุฯ เผยมวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อน ส่งผลให้ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ ขณะที่ค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่ม