บุกจับคาคอนโด ชายเวียดนามอ้างตัวเป็นแพทย์เสริมความงาม

กรุงเทพฯ 20 ธ.ค. – ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ.เข้าจับหมอเถื่อนชาวเวียดนาม อ้างตัวเป็นแพทย์เสริมความงามคาคอนโด


ตำรวจ ปคบ. ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชน ให้ทำการตรวจสอบเฟซบุ๊กภาษาเวียดนามชื่อหนึ่ง ขอให้ทำการตรวจสอบบุคคลซึ่งปรากฏภาพ และคลิปการรักษาเสริมความงามให้ประชาชน ว่าเป็นแพทย์ที่ได้รับอนุญาตหรือไม่ จากการตรวจสอบเฟซบุ๊กดังกล่าวพบว่า มีการโฆษณาและรีวิวการรักษาเสริมความงามให้ประชาชนทั่วไปอ้างมีผู้ที่ทำการรักษาเป็นแพทย์เฉพาะทางชาวเวียดนาม เปิดให้บริการทั้งในประเทศเวียดนามและในประเทศไทย โดยมีรูปแบบการทำหัตถการเสริมความงาม เช่น ทำตาสองชั้น, เสริมจมูก, ตัดปีกจมูก, เย็บปากรูปกระจับ, ฉีดโบท็อก, ฉีดเมโส ฯลฯ

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. จึงร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข (สบส.) ทำการสืบสวนจนทราบสถานที่ที่ใช้ทำการรักษา ได้ร่วมกันนำหมายค้นของศาลอาญาพระโขนง เข้าทำการตรวจค้น ห้องพักแห่งหนึ่ง ย่านซอยพัฒนาการ 25 เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร ขณะเข้าตรวจสอบพบว่าเปิดให้บริการแก่ประชาชนทั่วไป และมีประชาชนรอรับบริการอยู่หลายราย และพบ Mr. DANG THIEN สัญชาติเวียดนาม แสดงตัวเป็นแพทย์ทำการตรวจรักษา และกำลังทายาชาเพื่อเตรียมฉีดฟิลเลอร์ให้ประชาชน โดยมีการแอบอ้างว่า เป็นแพทย์ชาวเวียดนาม ไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมในประเทศไทย สถานที่ให้บริการไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลและดำเนินการสถานพยาบาลแต่อย่างใด


เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกันจับกุม Mr. DANG THIEN พร้อมตรวจยึดของกลาง ทั้งหมด 50 รายการ โดยตรวจเป็นยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา จำนวน 19 รายการ, เครื่องมือแพทย์ จำนวน 11 รายการ รวมทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษาและพยานหลักฐานอื่นๆ จำนวน 20 รายการ ส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา Mr. DANG THIEN ในความผิดฐาน “ประกอบวิชาชีพ เวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ดำเนินกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา, เป็นบุคคลต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน โดย Mr.DANG THIEN ให้การว่าจะเดินทางเข้ามาประเทศไทยเพื่อทำการรักษา เดือนละ 1 ครั้ง การนัดลูกค้าโดยการนัดผ่านเฟซบุ๊กและเปิดห้องพักย่านพัฒนาการเป็นสถานที่ทำการรักษา ทำมาแล้วประมาณ 1 ปี

ด้าน พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. ฝากถึงประชาชนว่า ควรศึกษาข้อมูลคลินิก แพทย์และขั้นตอนการรักษาให้ดีก่อนที่จะเข้ารับบริการเสริมความงาม โดยเฉพาะในครั้งนี้ แม้ผู้ที่ทำการรักษาจะอ้างว่าตนเป็นแพทย์ แต่การจะทำการรักษาให้ประชาชนได้นั้น จะต้องมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมในประเทศไทยด้วย เนื่องจากการเสริมความงามเป็นขั้นตอนและวิธีการที่จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานทางการแพทย์ ต้องใช้ผู้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และเกิดผลกระทบกับร่างกายโดยตรง และแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ลักลอบกระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่สวมรอยเป็นหมอ, หมอเถื่อน หรือคลินิกเถื่อน ให้หยุดพฤติการณ์ดังกล่าวทันที เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการจับกุมอย่างต่อเนื่อง หากตรวจพบจะดำเนินคดีโดยเด็ดขาด พี่น้องประชาชนสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วน บก.ปคบ.1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค

นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรม สบส. กล่าวเพิ่มเติมว่า กรม สบส. ขอเน้นย้ำให้ประชาชนทุกคนพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนรับบริการทางการแพทย์ทุกชนิดจากสถานพยาบาล อย่าด่วนตัดสินใจรับบริการเพียงเพราะคำบอกเล่าปากต่อปากว่าดี ภาพโฆษณาที่สวยงาม หรือราคาที่ถูกกว่าแห่งอื่น หากเป็นการรับบริการครั้งแรกขอให้ลงไปตรวจสอบสถานที่จริงด้วยตนเอง พร้อมกับตรวจสอบชื่อคลินิกจากเว็บไซต์กองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรม สบส.(htps: //mrd.hss.moph.go.th) และตรวจสอบชื่อแพทย์จากเว็บไซต์แพทยสภา (htps://www.tmc.or.tb) เพื่อความปลอดภัย หากไม่พบรายชื่อห้ามรับบริการโดยเด็ดขาด พร้อมแจ้งเบาะแสมาที่กรม สบส.ทางหมายเลขโทรศัพท์ 02 193 7000 หรือหากอยู่ในส่วนภูมิภาคก็ขอให้แจ้งที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ ในวันและเวลาราชการ. -416-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”