กรุงเทพฯ 19 ก.พ.- นายกรัฐมนตรีตรวจความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน กำชับให้ก่อสร้างเสร็จตลอดเส้นทางภายในสิ้นปี ปลูกต้นไม้ ปรับปรุงภูมิทัศน์ภายใต้แนวคิดสวนสาธารณะลดฝุ่นละออง พีเอ็ม 2.5 ย้ำขอให้เชื่อมั่นนายกฯ และรัฐบาล
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจติดตามความคืบหน้างานติดตั้งระบบเดินรถไฟฟ้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ และการปรับปรุงภูมิทัศน์ภายใต้แนวคิดสวนสาธารณะลดฝุ่นละออง PM 2.5 ที่สวนรักธรรมชาติ วงเวียนหลักสี่ เขตบางเขน สถานีรถไฟฟ้าวัดพระศรีมหาธาตุจะเปิดให้บริการภายในเดือนมิถุนายน 2563 โดยจะเป็นส่วนต่อขยายมาจากสถานีรถไฟฟ้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ส่วนการปรับภูมิทัศน์ภายใต้แนวคิดสวนสาธารณะลดฝุ่นละอองได้เลือกใช้พืชดักจับฝุ่นละอองที่มีประสิทธิภาพคือใบมีผิวหยาบหรือมีขนเป็นต้นไม้ไม่ผลัดใบปลูกในพื้นที่ 3 ไร่ 2 งาน 20 ตารางวา และยังเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนอีกด้วย ซึ่งในวันนี้นายกรัฐมนตรียังได้ร่วมปลูกต้นรวงผึ้งร่วมกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และชาวบ้านในพื้นที่
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการสวนสาธารณะเป็นความต้องการของประชาชนที่ได้ประโยชน์จึงอยากให้กรุงเทพมหานครช่วยดูแลเรื่องของไฟส่องสว่างเพื่อความปลอดภัยของผู้มาใช้สวนสาธารณะด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รถไฟฟ้าสายสีเขียวขอให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จตลอดทั้งเส้นทางภายในสิ้นปีนี้ เพราะจะเป็นแนวทางระยะยาวในการลดปัญหาฝุ่นละอองควบคู่กับการขยายระบบขนส่งมวลชนสร้างถนน ขยายเมืองออกไปรอบนอกเพื่อลดความแออัดในพื้นที่เมือง ส่วนการแก้ไขปัญหาระดับปานกลางมีแนวคิดสำรวจการใช้รถยนต์เก่า แต่ยังไม่สามารถทำได้ทันทีเพราะจะกระทบกับผู้มีรายได้น้อย และในระยะสั้นรัฐบาลได้พยายามหาวิธีการที่เหมาะสมให้กับเกษตรกรในการลดการเผาวัชพืช
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดทำโครงการของรัฐบาล ที่จะต้องมีการเวนคืนที่ดินของประชาชนไม่ได้มีการเอื้อประโยชน์ให้กับใคร ที่ผ่านมารัฐบาลได้พยายามแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในอดีต ทั้งค่าโง่ทางด่วน คลองด่าน และเหมืองแร่อัครา ซึ่งจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลว่าเข้ามาเพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน ไม่ได้ต้องการผลประโยชน์ แม้การเข้ามาบริหารประเทศในฐานะนายกรัฐมนตรี จะมีคดีติดตัว 300 กว่าคดี แต่ไม่คิดหนีคดีไปไหนเพราะสามารถชี้แจงได้ เมื่อตนเป็นคนไทย เกิดในประเทศไทยก็ต้องการจะตายในผืนแผ่นดินไทย ซึ่งทุกเรื่องตนเชื่อในความบริสุทธิ์ใจ รวมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะถึงนี้ ขอให้เชื่อนายกรัฐมนตรีและทีมงานในการทำงาน อย่าเชื่อคนที่พูดโดยไม่มีหลักฐาน เพราะขณะนี้มีเฟคนิวส์จำนวนมาก ในโซเชียลมีเดีย ที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลรวมถึงเรื่องต่าง ๆ ตามอารมณ์ความรู้สึกมากกว่าการคำนึงถึงเหตุและผล ทำให้ตนใช้ความอดทนสูงในการทำงาน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับเรื่องเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวที่มีปัญหาและได้รับผลกระทบจาก การแพร่ระบาดของไวรัสโควิท-19 เป็นเรื่องที่ทุกประเทศทั่วโลกก็จะรับผลกระทบเช่นกัน เพราะประเทศจีนซึ่งถือเป็นนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็ไม่อนุญาตให้คนเดินทางออกนอกประเทศ และหลายประเทศก็ไม่อยากให้มีการเคลื่อนย้ายประชากร แต่เมื่อมีการตำหนิว่า ว่ารัฐบาลไม่แก้ไขปัญหา ตนก็พร้อมรับผิดชอบและรับฟัง การแพร่ระบาดของไวรัส รัฐบาลยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้และขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกจนเกินไป.-สำนักข่าวไทย