เชียงใหม่ 18 ก.พ. – หลังเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการจัดระเบียบบนดอยม่อนแจ่ม แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ในเขตป่าและพื้นที่ทำกินเพื่อการเกษตร โดยเริ่มบังคับใช้กฎหมายมาหลายเดือน ทั้งดำเนินคดีรุกป่า ให้รื้อเสาสัญญาณโทรศัพท์ มาถึงวันนี้ รีสอร์ต โฮมสเตย์นับร้อยแห่ง และลานกางเต็นท์นับพันหลัง เริ่มทยอยปิดให้บริการ ขณะที่ชาวบ้านวิงวอนชะลอมาตรการตัดน้ำตัดไฟไม่ให้กระทบความเป็นอยู่
สภาพบริเวณดอยม่อนแจ่ม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ 2 เดือนก่อน ยังเต็มไปด้วยบ้านพัก ทั้งรีสอร์ต โฮมเสตย์ ร้านกาแฟ และเต็นท์นับพันหลัง ที่กางไว้รับนักท่องเที่ยวจนแทบล้นดอย มาถึงวันนี้ลดจำนวนลงอย่างเห็นได้ชัด หลังเจ้าหน้าที่เข้าจัดระเบียบและบังคับใช้กฎหมายต่อเนื่อง จนบางรายยอมรื้อทิ้ง อย่างร้านกาแฟและลานกางเต็นท์ม่อนผาโค้ง ริมถนนทางขึ้นม่อนแจ่ม ซึ่งเปิดมา 5ปี เจ้าของยอมรื้อแม้จะเสียดาย
เช่นเดียวกับผู้บริหารม่อนวิวงาม ซึ่งมีบ้านพักหลายสิบหลัง และเต็นท์อีกเกือบร้อยหลัง เขียนป้ายปิดให้บริการ และทยอยเก็บเต็นท์เกือบทั้งหมด เช่นเดียวกับผู้ประกอบการกว่า 100 แห่ง ที่ปิดให้บริการแล้วร้อยละ 90 หลังจากที่เคยสร้างรายได้ปีละนับร้อยล้านบาท มากกว่าทำการเกษตรที่พืชผลราคาตกต่ำ
ตามเส้นทางบนม่อนแจ่ม พื้นที่กว่า 300 ไร่ ซึ่งอยู่ในเขตป่าและพื้นที่ใช้ประโยชน์เพื่อทำการเกษตรของโครงการหลวง มีป้ายคำสั่งให้ยุติการก่อสร้างติดไว้เป็นระยะ และสั่งรื้อเสาสัญญาณโทรศัพท์ ส่วนการไฟฟ้าออกหนังสือให้ผู้ขออนุญาตใช้ไฟบนม่อนแจ่มที่มีอยู่ 2 ราย งดเว้นการต่อพ่วงไปใช้ยังสถานที่อื่นภายใน 7 วัน และให้งดใช้น้ำที่ขุดเจาะไว้เพื่อการเกษตร ทำให้รีสอร์ตบางส่วนต้องซื้อน้ำขนขึ้นดอยมาหลายวันแล้ว นั่นทำให้ชาวบ้านกว่า 400 คนรวมตัวขอให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม และให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา
โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบผู้ประกอบการรีสอร์ตและที่พักบนดอยม่อนแจ่มทั้ง 115 ราย พบบางรายรุกป่าและให้นายทุนต่างชาติสวมสิทธิ ซึ่งดำเนินคดีไปแล้ว 27 ราย ทางออกเรื่องนี้จึงต้องหาจุดสมดุลในการคืนสภาพผืนป่า และให้ชาวบ้านอยู่ได้โดยการใช้พื้นที่อย่างเหมาะสม.-สำนักข่าวไทย