การบินไทยเพิ่มมาตรการคัดกรองผู้โดยสารจากกัมพูชา

กรุงเทพฯ 18 ก.พ. – การบินไทยเพิ่มมาตรการคัดกรองผู้โดยสารจากกัมพูชา หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 บนเรือ Westerdam ที่จอดเทียบท่าเรือสีหนุวิลล์


นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากรายงานการตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 บนเรือ Westerdam นั้น กระทรวงสาธารณสุขของไทยได้ห้ามผู้โดยสารชาวต่างชาติบนเรือสำราญลำดังกล่าวเดินทางเข้าประเทศไทยโดยเด็ดขาด จนกว่าจะพ้นระยะฟักตัวของโรค 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นมา ทั้งนี้  นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีความห่วงใยในสถานการณ์ดังกล่าว จึงได้สั่งการให้หน่วยงานด้านการขนส่งทางอากาศภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคมจัดเตรียมมาตรการรับมือการเดินทางของผู้โดยสารชาวไทยที่เดินทางมากับเรือสำราญ Westerdam และต้องการเดินทางกลับเข้าประเทศไทย 

สำหรับการบินไทยมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มข้น ซึ่งเป็นมาตรการที่มีมาตรฐานระดับสากล สอดคล้องกับมาตรการขององค์การอนามัยโลก (WHO) สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) รวมทั้งกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) โดยกรณีผู้โดยสารจากเรือ Westerdam  การบินไทยได้เพิ่มมาตรการคัดกรองบนเที่ยวบินในเส้นทางพนมเปญ-กรุงเทพฯ ตั้งแต่บัดนี้-29 กุมภาพันธ์ 2563 โดยจัดทีมพิเศษเดินทางไป-กลับ ในเที่ยวบินเส้นทางพนมเปญ-กรุงเทพฯ เพื่อสังเกตประเมินอาการและคัดกรองผู้โดยสารบนเที่ยวบิน ปฏิเสธการเดินทาง หากพบว่าผู้โดยสารท่านใดมีความเสี่ยงที่จะเป็นพาหะนำโรค จัดที่นั่งเฉพาะบนเครื่องบินให้ผู้โดยสารชาวไทยที่เดินทางมาจากเรือ Westerdam (ถ้ามี) โดยให้นั่งแยกจากผู้โดยสารอื่น และหลังจากเดินทางกลับมาถึงสถานีปลายทาง จะทำการพ่นยาฆ่าเชื้อโรคในอากาศยาน ทั้งในบริเวณห้องโดยสาร ห้องนักบิน และทำความสะอาดแบบ Deep Cleaning 36 จุดสัมผัสร่วม


ทั้งนี้ ขอให้ผู้โดยสารมั่นใจในมาตรการของการบินไทย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งการบินไทยยังคงติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะต้องขอขอบคุณหน่วยเกี่ยวข้องที่ได้มีการประสานงานข้อมูลต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมกันป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อาทิ กระทรวงสาธารณสุข กพท. บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง