นครพนม 17 ก.พ.-กลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายครูสอนคอมพิวเตอร์ เจ็บสาหัสถึงขั้นผ่าตัดสมอง ผ่านไปเกือบ 1 สัปดาห์ ตำรวจยังไม่จับคนร้ายทั้งที่พยานจำหน้าผู้ก่อเหตุได้ โดยร้อยเวรระบุต้องรอหลักฐานจากโรงพยาบาล ก่อนจะขออนุมัติหมายจับ
กรณีมีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 4-5 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ รุมทำร้ายนายวีระพงศ์ มะสุใส หรืออาท อายุ 27 ปี จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ถึงขั้นต้องผ่าตัดสมอง ขณะนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนครพนม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมี แจ้งความไว้ที่ สภ.โพนสวรรค์ แต่ถึงขณะนี้คดียังไม่คืบหน้า
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังหอผู้ป่วยศัลยกรรมชาย พบนายสวาสดี มะสุใส อายุ 58 ปี พ่อ นางอ๊อด มะสุใส อายุ 68 ปี แม่ และ น.ส.แบม เพื่อนสาว อยู่เฝ้าอาการของนายวีระพงศ์ ซึ่งหลังจากผ่าตัดสมองก็มีอาการดีขึ้น สามารถลืมตาได้ แต่ยังกลืนอาหารเหลวไม่ได้ จึงต้องเฝ้าดูแลอาการอย่างใกล้ชิด
น.ส.แบม เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า วันที่ 11 กุมภาพันธ์ มีงานนมัสการพระธาตุจำปา ประจำปี 2563 บ้านเสาเล้า ต.โพนสวรรค์ ตนจึงไปเที่ยวและพบกับนายวีระพงศ์ คนเจ็บ ภายในงาน ซึ่งเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมาก่อน จึงชักชวนกันกินดื่มที่ร้านอาหาร กระทั่งถึงเวลาประมาณ 22.00 น. นายวีระพงศ์ จะต้องกลับเข้าไปในตัวเมืองนครพนม เพราะทำงานเป็นครูอัตราจ้างสอนวิชาคอมพิวเตอร์อยู่วิทยาลัยแห่งหนึ่ง ตนจึงขออาศัยไปลงที่ปั๊มน้ำมันในเขตเทศบาลตำบลโพนสวรรค์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของครอบครัว
ระหว่างทางรู้สึกเหมือนมีคนขับรถจักรยานยนต์ตามไล่หลังมา จำนวน 3 คัน ตนจึงบอกนายวีระพงศ์ ว่ามีคนขับรถตาม จากที่ขับเพียง 30 กม./ชั่วโมง ก็เร่งเครื่องหนีจนผ่านหน้าปั๊มน้ำมันของตน กลุ่มคนร้ายก็ขับขึ้นมาประกบ แล้วสั่งให้จอด ถ้าไม่เช่นนั้นจะถีบรถให้ล้ม นายวีระพงศ์ จึงยอมจอดรถอยู่ริมถนนหน้าโรงพยาบาลโพนสวรรค์ จากนั้นกลุ่มคนร้ายที่มี 4-5 คน ก็กรูเข้ารุมทำร้ายนายวีระพงศ์ โดยดึงหมวกกันน็อกที่นายวีระพงศ์ สวมอยู่ ฟาดไปที่ศีรษะหลายครั้ง ตนจึงเข้าสวมกอด ขอร้องกลุ่มคนร้ายอย่าทำร้ายนายวีระพงศ์ จนโดนลูกหลงถูกฟาดตามหน้า แขน ขา ได้รับบาดเจ็บไปด้วย
หลังคนร้ายตีจนนายวีระพงศ์ สลบคาที่ ก็รีบขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี ตนจึงแจ้งเจ้าหน้าที่นำร่างเพื่อนชายส่งโรงพยาบาลโพนสวรรค์ แต่อาการสาหัส จึงส่งต่อมายังโรงพยาบาลนครพนม แพทย์ต้องผ่าตัดสมองช่วยชีวิต
น.ส.แบม เปิดเผยว่า จำหน้าคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุได้ 2 คน ทั้งคู่เป็นมีบ้านอยู่ในเขตเทศบาลตำบลโพนสวรรค์ ซึ่งเป็นเพื่อนของอดีตแฟนเก่าของตน และได้ให้ปากคำพนักงานสอบสวน สภ.โพนสวรรค์ ไปหมดแล้ว แต่ยังไม่มีการจับกุมคนร้าย โดยร้อยเวรบอกว่ารอหลักฐานจากโรงพยาบาลนครพนม ก็จะขออนุมัติหมายจับในวันนี้
ด้านนายสวาสดี และนางอ๊อด บิดา มารดาของคนเจ็บ เปิดเผยว่า ลูกชายเรียนจบราชภัฏสกลนครก็มาเป็นครูอัตราจ้างที่วิทยาลัยเทคโนฯ ทราบข่าวหลังเที่ยงคืนของวันที่เกิดเหตุ รู้สึกตกใจทำอะไรไม่ถูก เพราะลูกไม่เคยมีเรื่องบาดหมางทะเลาะเบาะแว้งกับใคร และเป็นลูกชายคนเดียวที่พ่อแม่หวังพึ่งพาอาศัย เมื่อต้องมาเจอเหตุการณ์เช่นนี้ รับไม่ได้กับการกระทำของกลุ่มคนร้าย
ขณะที่นายสวาสดี ผู้เป็นบิดา เผยต่อว่าตำรวจทำอะไรอยู่ เหตุการณ์เกิดมาร่วมอาทิตย์ยังไม่ยอมจับคนร้าย น่าจะมีอะไรที่คืบหน้ามากกว่านี้.-สำนักข่าวไทย