โพลพอใจรัฐบาลใส่ใจแก้ “ไวรัสโคโรนา-19”

สำนักข่าวไทย 15 ก.พ.-ผลโพลพบประชาชนพอใจความใส่ใจของรัฐบาลในการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พร้อมเสนอย้ำการสื่อสาร 3 อย่างกับประชาชนต่อเนื่อง “หมั่นล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัยขณะอยู่ในที่คนหนาแน่น -ถ้ารู้สึกไม่สบายรีบหาหมอ -หน่วยงานต่างๆตื่นตัวยกระดับควบคุมโรค”


นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) สถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง การควบคุมโรคโควิด-19 กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,302 ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 9 – 13 ก.พ.63 


เมื่อถามถึงปัญหาสุขภาพของตนเองหรือคนใกล้ชิดที่ติดต่อจากไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19 พบว่า เพียงร้อยละ 1.9 เท่านั้นที่คิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19 รองลงมาหรือร้อยละ 30.7 ระบุไม่เกี่ยวข้องกัน และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 67.4 ระบุยังไม่มีปัญหาสุขภาพอะไรที่น่ากลัว

เมื่อถามถึงความใส่ใจของรัฐบาลในการแก้ปัญหาโรคระบาด พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 71.2 ระบุรัฐบาลใส่ใจมากถึงมากที่สุด รองลงมาคือร้อยละ 25.2 ระบุปานกลาง ในขณะที่ร้อยละ 3.6 ระบุใส่ใจน้อยถึงไม่ใส่ใจเลย

นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 68.9 พอใจมากถึงมากที่สุดต่อหน่วยงานต่าง ๆ ในการควบคุมโรคระบาด ในขณะที่ร้อยละ 21.7 พอใจปานกลาง และร้อยละ 9.4 พอใจน้อยถึงไม่พอใจเลย


ที่น่าเป็นห่วงคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 77.4 กลัวปัญหาปากท้อง กลัวไม่มีจะกิน หากินขัดสน มากกว่า กลัวปัญหาโรคระบาด โคโรนา (โควิด-19) ในขณะที่ร้อยละ 22.6 กลัวโรคระบาด โคโรนา (โควิด-19) มากกว่า

อย่างไรก็ตามการตื่นตัวดูแลสุขภาพ แต่ไม่ตื่นตระหนกเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าตื่นตระหนกเกินเหตุเป็นเรื่องน่ากลัวกว่าโรคระบาด เพราะอาจสร้างความเสียหายใหญ่และอาจซ้ำเติมความเสียหายความเดือดร้อนประชาชนด้านอื่นๆได้

ในเวลานี้ที่ควรเน้นในการรับมือการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19 ต่อสาธารณชนมีเพียง 3 อย่าง ที่ควรสื่อสารกับประชาชนต่อเนื่องคือ 1.หมั่นล้างมือ ไม่เอามือลูบหน้าปะจมูก อาบน้ำเมื่อกลับถึงบ้าน ใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่มีคนหนาแน่น 2. ถ้ารู้สึกตัวไม่สบายควรรีบรักษาหาหมอตามปกติ และ 3.หน่วยงานต่างๆ ตื่นตัวยกระดับควบคุมโรคเหมือนที่กำลังทำอยู่ ได้สร้างความพอใจให้กับประชาชนแล้วจึงจะไม่ส่งผลกระทบซ้ำเติมปัญหาปากท้อง และการทำมาหากินขัดสนของประชาชน.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง