ปปง.สั่งยึดทรัพย์ 2 วงแชร์ลูกโซ่มูลค่ารวมกว่า 83 ล้าน

ปปง.12 ก.พ.-ปปง.มีมติอายัดทรัพย์ 2 คดีดัง “แชร์ท่องเที่ยวหลอกขายทัวร์เมืองนอกราคาถูกผ่านเฟซบุ๊ก – ชวนลงทุนแชร์ธนาคารในวานูอาตู” มูลค่ารวม 2 คดี กว่า 83 ล้านบาท


พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (เลขาธิการ ปปง.) กล่าวว่า คณะกรรมการธุรกรรมในการประชุม ครั้งที่ 2/2563 เมื่อวันที่ 11 ก.พ.63 มีมติเห็นชอบให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำ ความผิดในคดีฉ้อโกงประชาชนที่อยู่ในความสนใจของประชาชน จำนวน 2 รายคดี ดังนี้


1.รายคดี บริษัท อี แอล ซี กรุ๊ป จำกัด โดยนายภัทริคณ์ เรตะกุล กับพวก ซึ่งมีพฤติการณ์แห่งคดี มีลักษณะเป็นความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา หรือความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน อันเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (3) และความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ อันเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (18) แห่งพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

พฤติการณ์แห่งคดีโดยย่อ : บริษัท อี แอล ซี กรุ๊ป จำกัด โดยนายภัทริคณ์ เรตะกุล กรรมการผู้จัดการกับพวก ได้จำหน่ายรายการนำเที่ยวผ่านโปรแกรมเฟซบุ๊ก ในลักษณะทัวร์กลุ่มปิด ซึ่งเป็นการจำหน่ายรายการนำเที่ยวให้แก่สมาชิก โดยสมาชิกต้องเคยไปท่องเที่ยวทัวร์ที่บริษัทฯ จัดโปรแกรมเท่านั้นจึงจะซื้อทัวร์ได้ ซึ่งทัวร์ที่บริษัทฯ จัดจำหน่ายนั้นมีลักษณะราคาถูกมากกว่าปกติ เป็นราคาต่ำกว่าทุน มีการชักชวนให้สมัครสมาชิกแล้วให้สมาชิกแนะนำ บอกต่อหรือชักชวนญาติ เพื่อน มาท่องเที่ยวกับบริษัทฯ หากสมาชิกทำได้จะได้รับสิทธิการท่องเที่ยวในราคาถูก เมื่อผู้เสียหายซื้อทัวร์และได้เดินทางไปท่องเที่ยวในราคาถูกได้จริงและได้รับการบริการไม่ต่างจากการไปเที่ยวในราคาปกติ จึงมีการจองรายการนำเที่ยวอื่นเพิ่มเติม แต่ต่อมาผู้เสียหายไม่ได้เดินทางตามวันเวลาที่กำหนด โดยบริษัทฯ ได้แจ้งให้ผู้เสียหายเลื่อนการเดินทางหรือเปลี่ยนทัวร์ไปรวมกับทัวร์อื่น บางรายถูกเรียกเก็บเงินเพิ่มเติม หรือหากรายใดไม่ประสงค์เดินทางให้แจ้งขอคืนเงินและจะได้รับเงินคืนภายใน 180 วัน แต่เมื่อครบกำหนดดังกล่าว ผู้เสียหายกลับไม่ได้รับเงินคืน 

มติคณะกรรมการธุรกรรมโดยย่อ : เห็นชอบให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 58 รายการ พร้อมดอกผล (เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร สลากออมทรัพย์ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ห้องชุดและหุ้น) รวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 44,669,854.75 บาท ไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน 


2.รายคดี นายเควิน ลัย และนายหยาง หยวน เฉา กับพวก ซึ่งมีพฤติการณ์แห่งคดีมีลักษณะเป็นความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา หรือความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน อันเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (3) แห่งพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

พฤติการณ์แห่งคดีโดยย่อ : นายเควิน ลัย และนายหยาง หยวน เฉา ได้ร่วมกันใช้ชื่อในการก่อตั้งธุรกิจในชื่อ United Development Bank of Pacific หรือ ธนาคาร UDBP โดยมิใช่สถาบันการเงิน เพื่อให้คนทั่วไปเข้าใจผิดว่าได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ หรือเป็นธนาคารสาขาของธนาคารที่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งจากสาธารณรัฐวานูอาตู โดยมีรูปแบบการทำธุรกรรมที่คล้ายกับธนาคาร เช่น ออกสมุดบัญชีให้แก่สมาชิกที่ได้ชำระเงินค่าสมัครสมาชิก การตรวจสอบสถานะ ยอดเงินค่าคอมมิชชั่นและทำรายการขอรับค่าคอมมิชชั่นผ่านระบบอินเทอร์เน็ต แต่ปกปิดว่าเป็นสถานฝึกอบรมด้านการตลาด โดยมีการชักชวนให้บุคคลสมัครเข้าเป็นสมาชิกเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจดังกล่าว โดยมีการทำรายการส่งข้อมูลสมาชิกและหลักฐานการโอนเงินค่าสมัครผ่านทางอีเมล์และใช้บัญชีเงินฝากของตนและเครือข่ายรับโอนเงินค่าสมัครสมาชิกในระยะแรกกำหนดค่าสมัครเป็นจำนวนเงิน 200 ดอลลาร์ และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมีเงื่อนไขให้สมาชิกชักชวนบุคคลเข้ามาเป็นสมาชิกเพิ่ม จึงจะได้รับเงินค่าคอมมิชชั่นตอบแทนเป็นร้อยละของค่าสมัครสมาชิก และเมื่อสามารถหาสมาชิกรายใหม่เพิ่มครบจำนวนที่กำหนดจะได้รับค่าคอมมิชชั่นเพิ่มขึ้นตามระดับตำแหน่งนั้นๆ ตั้งแต่ร้อยละ15 จนถึงร้อยละ 45 ของค่าสมัครสมาชิก เป็นเหตุให้สมาชิกเดิมเชื่อว่า หากได้ชักชวนบุคคลอื่นเข้าร่วมด้วยการนำเงินมาฝากตามวิธีการดังกล่าวให้ได้ต่อเนื่องกันตลอดไปแล้ว ในที่สุดจะได้รับผลกำไรตอบแทนเป็นจำนวนเงินมากกว่าที่ได้นำมาฝากเมื่อเข้าเป็นสมาชิก เบื้องต้นจากฐานข้อมูลเว็บไซต์ธุรกิจดังกล่าว พบว่ามีรายชื่อสมาชิก จำนวน 9,010 ราย คิดเป็นเงินค่าสมัครทั้งสิ้นประมาณ 266,532,258 บาท

มติคณะกรรมการธุรกรรมโดยย่อ : เห็นชอบให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 18 รายการ พร้อมดอกผล (ห้องชุด เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล) รวมมูลค่า ทั้งสิ้นประมาณ 38,881,245.38 บาท ไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน

พล.ต.ต.ปรีชา กล่าวว่า เพื่อเป็นการตัดวงจรอาชญากรรรมและตัดเส้นทางทางการเงินของผู้กระทำความผิด สำนักงาน ปปง.จะเน้นการสืบสวนขยายผล เพื่อนำไปสู่การยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในรายคดีต่างๆอย่างต่อเนื่อง ให้เกิดความเข้มข้น มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงาน เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และเพื่อความสงบสุข ความมั่งคงของประเทศชาติต่อไป ภายใต้ปรัชญาการทำงานที่ว่า “ทรัพย์สินใดเป็นของแผ่นดิน ทรัพย์สินนั้นต้องกลับคืนแผ่นดินโดยไม่มีเงื่อนไขด้วยกฎหมายฟอกเงิน”หากพบเห็นบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมูลฐานหรือความผิดฐานฟอกเงิน ขอให้โทรแจ้งหรือสอบถามได้ที่สายด่วน ปปง. 1710 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ “ธัญพร มุ่งเจริญพร” เข้าป้าย

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ ลุ้นกันจนนาทีสุดท้าย “ธัญพร มุ่งเจริญพร” พลิกชนะ “พรชัย มุ่งเจริญพร” แชมป์เก่าแบบขาดลอย คว้าเก้าอี้มาครอง นั่งนายก อบจ.หญิงคนแรกของจังหวัด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าคึกคัก

ภาพรวมการใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าค่อนข้างคึกคัก มีประชาชนทยอยใช้สิทธิต่อเนื่อง ยังไม่มีรายงานการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ปชช.ตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ท่ามกลางสายฝน

ชาวนครศรีธรรมราช ตื่นตัวออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. ท่ามกลางสายฝน กกต.เผยภาพรวมครึ่งวันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่มีรายงานการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง