มาร์จิ้นโรงกลั่นฯ ขยับขึ้น แม้ราคาน้ำมันดิ่งจากไวรัสโคโรนา

กรุงเทพฯ  11 ก.พ. – ไทยออยล์ตามติดสถานการณ์ไวรัสโคโรนา กดดันราคาน้ำมันร่วงต่อเนื่อง ชี้หากมาร์จิ้นดีจะกระทบน้อยมาก ล่าสุดได้รับการประเมิน Gold Class ด้านความยั่งยืนเป็นปีที่ 6 ในอุตสาหกรรมการกลั่นและการตลาดน้ำมันและก๊าซ บ่งบอกจัดการความเสี่ยงเชิงรุกต่อความเสี่ยงใหม่ได้ดี


บมจ.ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสสัปดาห์นี้  (11-14 ก.พ.) จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 48-53 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 53-58 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล  โดยมีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่  โดยบริษัทน้ำมันแห่งชาติของจีน  Sinopec เตรียมปรับลดกำลังการผลิตประมาณ 600,000 บาร์เรลต่อวัน เดือนกุมภาพันธ์ 2563 และโรงกลั่นน้ำมันหลายรายในเขต Shandong ปรับลดกำลังการผลิตร้อยละ 30-50 อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยสนับสนุน หลังตลาดคาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบเพิ่มเติมประมาณ 500,000-600,000 บาร์เรลต่อวัน จากข้อตกลงเดิม ซึ่งจะมีการประชุมวันที่ 14-15 กุมภาพันธ์ 2563  

ทั้งนี้  มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ระบุว่าสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศจีน โดยเฉพาะภาคการขนส่ง การค้าปลีก และการท่องเที่ยวที่ลดลง คาดการณ์จีดีพีจีนปี 2563 จะเติบโตที่ระดับร้อยละ 5.8  ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปี 2562 ที่เติบโตที่ระดับร้อยละ 6.1  


นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า บริษัทติดตามสถานการณ์ผลกระทบจากไวรัสโคโรนา ซึ่งคาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะธุรกิจขึ้นอยู่กับส่วนต่างของราคาต้นทุนน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป หรือมาร์จิ้น หากราคาน้ำมันต่ำ แต่มาร์จินยังดีอยู่ก็ถือว่าธุรกิจยังไปได้ดี โดยมาร์จินล่าสุดของโรงกลั่นน้ำมันในสิงคโปร์ขยับขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 3.82 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

นายวิรัตน์ กล่าวด้วยว่า ไทยออยล์ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนระดับ Gold Class ด้านความยั่งยืนเป็นปีที่ 6ในอุตสาหกรรมการกลั่นและการตลาดน้ำมันและก๊าซ จาก SAM Sustainability Award 2020 การคัดเลือกครั้งนี้มีบริษัทขนาดใหญ่ของโลก 4,710 แห่ง ได้รับเชิญให้เข้าร่วมในการประเมินความยั่งยืน  แบ่งเป็น 61 อุตสาหกรรม โดย SAM     กลุ่มบริษัทที่ได้รับ Gold Class ถือเป็นระดับสูงสุดแต่ละอุตสาหกรรม นับเป็นองค์กรชั้นนำที่ให้ความสำคัญต่อการจัดการความยั่งยืน อันเป็นวิธีการหนึ่งในการสร้างคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียในระยะยาว โดยการบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งการสร้างโอกาสต่อธุรกิจภายใต้กระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม 

ไทยออยล์ยึดหลักการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล ควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (ESG) มาโดยตลอด ทำให้ไทยออยล์ได้รับการจัดอันดับระดับ Gold Class เป็นปีที่ 6 ด้วยผลประเมินด้าน ESG ระดับสูงสุดของอุตสาหกรรมการกลั่นและการตลาดน้ำมันและก๊าซ อีกทั้งได้รับการประเมินให้เป็น SAM Industry Mover เนื่องจากไทยออยล์มีพัฒนาการในการดำเนินงานด้านความยั่งยืนสูงสุด เมื่อเทียบกับบริษัทฯ อื่น ๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกันในปีที่ผ่านมา และเป็นบริษัทที่มีการดำเนินงานด้านความยั่งยืนชั้นนำของโลกใน The Sustainability Yearbook ติดต่อกันเป็นปีที่ 7 


“จากผลการประเมินสะท้อนให้เห็นว่าไทยออยล์มีผลงานโดดเด่นทั้งด้านมิติเศรษฐกิจ ซึ่งมีการบริหารจัดการความเสี่ยงเชิงรุกต่อความเสี่ยงใหม่ (Emerging risks) ที่จะมีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคต และมีความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจ ในมิติสิ่งแวดล้อม” นายวิรัตน์ กล่าว.-สำนักไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร