หารือ 19 บริษัทไทยลงทุนกัมพูชา

กัมพูชา 7 ก.พ. – รัฐมนตรีพาณิชย์หารือ 19 บริษัทไทยลงทุนกัมพูชา หวังเพิ่มรายได้เข้าประเทศ ตามแนวขยายมูลค่าการค้าร่วมกันรอบ CLMV 


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังหารือกับภาคเอกชนที่มาลงทุนและทำการค้าอยู่ในกัมพูชาทั้งหมด 19 บริษัท ซึ่งมีทั้งบริษัทขนาดใหญ่และบริษัทขนาดกลางที่มาทำธุรกิจที่นี่ โดยใช้เวลาแลกเปลี่ยนความเห็นกันเพื่อรับทราบปัญหาและสถานการณ์การค้าการลงทุนกัมพูชา โดยระหว่างไทยกับกัมพูชามีตัวเลขที่มีการเจริญเติบโตและขยายตัวมากขึ้นเป็นลำดับและตั้งเป้าหมายในระดับผู้นำไว้ว่าในปีนี้จะมียอดการค้าทั้ง 2 ฝ่ายจะเพิ่มขึ้นเป็น 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในปีที่ผ่านมามีอัตราเติบโตกว่าร้อยละ 12 และปีนี้ก็คาดว่าจะยังเติบโตได้ดีและต่อเนื่องได้

ทั้งนี้ ประเทศไทยได้ดุลการค้ากับกัมพูชาอยู่ในระดับที่สูงพอสมควร ส่วนประเด็นปัญหาที่ฟังจากภาคเอกชน ประการหนึ่งก็คือ เรื่องของการค้าพบว่าสินค้าของไทยที่มาส่งขายที่นี่จะมีสินค้าที่ปลอมแปลงเกิดขึ้นทั้งในส่วนของการปลอมแปลงตัวสินค้าและเครื่องหมายการค้าหรือทรัพย์สินทางปัญญา ถือเป็นปัญหาใหญ่ปัญหาหนึ่งที่หยิบยกขึ้นมา ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์ได้แนะนำว่าผู้ที่เสียหายโดยเฉพาะผู้ที่มาลงทุนที่นี่ไม่ควรปล่อยให้สถานการณ์นี้ผ่านเลยไปควรดำเนินการแจ้งให้กับกรมทรัพย์สินทางปัญญาของกัมพูชาได้รับทราบและสำเนาเรื่องให้กับกรมทรัพย์สินทางปัญญาของกระทรวงพาณิชย์รับทราบ และช่วยประสานงานและร่วมกันในการคลี่คลายปัญหานี้ต่อไป


นอกจากนี้ ตลาดกัมพูชาถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีความสำคัญกับประเทศไทยมากโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับประเทศต่างๆในกลุ่มอาเซียนเพราะว่ามูลค่าการค้าระหว่างไทยกัมพูชาอยู่ลำดับที 5-6 เมื่อเทียบกับประเทศต่างๆในกลุ่มอาเซียน และนโยบายที่ตนคิดว่าเป็นนโยบายที่เราจะเดินหน้าต่อไปให้มีความชัดเจนเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้นสำหรับ SME ของประเทศไทยเราจะพามาบุกตลาด CLMV (ประเทศเพื่อนบ้าน)ให้มากขึ้นและถือว่าเป็นตลาดเป้าหมายหลักนั่นคือ กัมพูชา เวียดนาม ลาว และเมียนมา โดยกัมพูชาเป็นเป้าหมายหลักอันหนึ่ง โดยได้มีการหาหรือร่วมกันว่าสำหรับสินค้า SME ของไทยที่ภาคเอกชนที่มีความแข็งแรงอยู่แล้ว ถ้ามีโอกาสช่วยเปิดทางให้กับSME รุ่นใหม่ได้เข้ามาก็จะมีส่วนช่วยมาก 

“ถือเป็นข่าวดีได้รับทราบว่ากลุ่ม ปตท. มีนโยบายที่จะเปิดมุมไทยขึ้นในร้านจิ๊ฟฟี่ของปตท.ซึ่งมีสาขาอยู่ทั่วประเทศกัมพูชา 50 สาขา โดยมุมไทยที่ว่านี้จะเป็นมุมหนึ่งที่จะขายปลีกสินค้า SME ของไทยโดยเฉพาะในร้านจิ๊ฟฟี่ของ ปตท. ที่กัมพูชาและช่วยประชาสัมพันธ์สินค้าไทยให้ด้วยไปในตัว รวมทั้งในส่วนของห้างแม็คโคร ช่วงระยะเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ผลไม้ไทยเริ่มออกและอยากเห็น ปตท.กับแม็คโครและส่วนอื่นๆได้เป็นช่องทางระบายผลไม้ไทยเพิ่มขึ้นด้วยซึ่งทางทูตพาณิชย์ไทยที่นี่เป็นผู้ประสานงานต่อไป ในการที่จะส่งผลไม้ไทยเข้ามาที่นี่หรืออาจจะต้องมาจัดเทศกาลผลไม้เพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่งซึ่งจะเสนอเพิ่มเติมต่อไป” นายจุรินทร์ กล่าว 

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการมาโดยลำดับ เช่นที่ตนเดินทางมาครั้งนี้เป็นการนำ SME ไทยอย่างน้อย 50 บริษัทและนำสินค้าไทยจากบริษัทต่างๆมาอีกรวมเกือบ 200 บูธเฉพาะสินค้าไทยเป็นนโยบายว่าต่อไปนี้การไปเปิดตลาดหรือจัดการแสดงสินค้าในกลุ่มตลาด CLMV ขอให้ SME ได้มีโอกาสเข้ามามากขึ้นและผู้ประกอบการท้องถิ่นรวมทั้งบูธของกัมพูชา 100 กว่าบูธ งาน Top Thai Brand ที่พนมเปญ มีประมาณ 300 บูธ นี่เป็นอีกวิธีหนึ่งที่กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการมาโดยต่อเนื่องและจะขยายวงมากยิ่งขึ้นมีส่วนช่วยให้ SME ไทยได้มาเปิดตลาดที่นี่ได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้นและจะเชิญผู้นำเข้าจากกัมพูชาไปในงานแสดงสินค้าของไทยในวาระต่างๆอย่างน้อยปีละ 4 งาน ที่เราจัดอยู่และเปิดบูธพิเศษให้กับนักลงทุนหรือผู้นำเข้าชาวกัมพูชาได้รับสิทธิพิเศษ 10 บูธช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้นำเข้าของกัมพูชาได้เดินทางเข้าไปซื้อสินค้าในไทยและแลกเปลี่ยนเปิดโอกาสให้เรากัมพูชาได้แสดงสินค้าเป็นการแลกเปลี่ยน


อย่างไรก็ตาม ได้ให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศไปหาลู่ทางในการที่จะขยายข้อมูลที่รับทราบในเรื่องของรสนิยมด้านอาหารของคนกัมพูชาว่าคนกัมพูชา ชอบรสชาติแบบไหนเมื่อสักครู่แลกเปลี่ยนแล้วชอบอาหารออกไปทางรสหวานเป็นเรื่องที่ผู้ส่งออก SME ที่มาร่วมงานแสดงสินค้าของไทยจะได้พอทราบว่ารสนิยมของคนที่นี่เป็นอย่างไร จะได้เตรียมผลิตภัณฑ์ได้ถูกและอาจจัดอบรมผู้สนใจที่จะเปิดตลาดด้านอาหารในกัมพูชาจะช่วยให้ประสบความสำเร็จในง่ายขึ้นและขายของได้มากขึ้นด้วย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิกพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ตาวัย 71 ปี ขับรถพุ่งชนรถพ่วงเสียชีวิต

สมุทรสงคราม 13 ก.ค.-ตาวัย 71 ปี ขับเก๋งพุ่งชนกลางลำรถพ่วงบรรทุกเสาเข็มขณะกำลังกลับรถ เสียชีวิตบนถนนสมุทรสงครามบางแพ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม กล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะรถพ่วงบรรทุกเสาเข็มกำลังกลับรถทำให้ตัวรถขวางถนน จังหวะนั้นรถเก๋ง ขับมาด้วยความเร็ว พุ่งชนเข้ากลางลำรถพ่วง เหตุเกิดบนถนนสมุทรสงครามบางแพ บริเวณจุดกลับรถหน้าโรงบรรจุแก๊สหุงต้ม ฝั่งขาเข้าแม่กลอง ม.9 ต.บางช้าง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ช่วงเวลา 19.18 น.วานนี้ (12 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อัมพวา รับแจ้ง จึงเข้าตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย ที่เกิดเหตุพบนายชาญพินิต ส่งชัย อายุ 71 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร คาดเข็มขัดนิรภัย นั่งหมดสติไม่รู้สึกตัวบนเบาะคนขับ เจ้าหน้าที่ต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างประมาณ 5 นาที กว่าจะนำร่างนายชาญพินิต ออกมาและพยายามปั๊มหัวใจช่วยชีวิต แต่นายชาญพินิต เสียชีวิตแล้ว ใกล้กันพบรถพ่วง 22 ล้อ ลูกพ่วงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดขวางถนนในลักษณะกำลังกลับรถ บริเวณล้อหลังรถพ่วงมี 3 เพลา รวม 12 ล้อ […]

เตรียมขอข้อมูลเส้นทางการเงิน 4 วัดดัง

13 ก.ค. – ตำรวจเตรียมขอข้อมูลเส้นทางการเงิน 4 วัดดัง เข้าข่ายยักยอกเงินวัด โอนให้สีกา ก. หรือไม่ พบเจ้าอาวาสหนึ่งใน 4 วัด โอนกว่า 1 ล้านบาท ความคืบหน้าการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกา ก. จากข้อมูลการสืบสวน ตำรวจเตรียมขอความร่วมมือเข้าตรวจสอบวัดที่พบว่ามีความเกี่ยวข้อง 4 วัด ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ได้แก่ วัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา, วัดใหญ่จอมปราสาท จ.สมุทรสาคร, วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร กรุงเทพมหานคร ขอตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระชั้นผู้ใหญ่และบัญชีวัด เพื่อหาข้อเท็จจริงว่าเงินที่โอนให้สีกา ก. เป็นเงินส่วนตัวหรือเงินวัด หลังพบว่าพระบางรูปที่มีความสัมพันธ์กับสีกา ก. รวบอำนาจการบริหารจัดการเงินของวัดเพื่อให้ทำธุรกรรมได้สะดวก โดยเฉพาะเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท พบเส้นทางการเงินโอนให้สีกา ก. 2 บัญชี เป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท ส่วนพระรูปอื่นๆ ที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ ส่วนสีกา ก. จะมีเจตนาในการข่มขู่รีดไถเงินจากพระหรือไม่ ทางการสอบสวนยังไม่พบหลักฐานชัดเจนเพราะเป็นรสนิยมส่วนตัว โดยพุ่งเป้าเข้าหาพระชั้นผู้ใหญ่ เพื่อมีความสัมพันธ์และนำเงินมาใช้ส่วนตัว […]