จัดใหญ่ “เทศกาลอาหารฟู้ดทรัค” ครั้งแรกในไทย มี.ค.นี้

ททท.6 ก.พ.-กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผนึกกำลัง ททท. และองค์กรเครือข่ายธุรกิจฟู้ดทรัค จัดเทศกาลอาหาร ฟู้ดทรัค สุดยิ่งใหญ่ ครั้งแรกในไทย 7-8 มี.ค.นี้ ริมทะเลสาบเมืองทองธานี ประสานกรมอนามัย สธ.คุมเข้มเรื่องสุขอนามัย ความสะอาด 


นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และองค์กรเครือข่ายธุรกิจฟู้ดทรัค หรือ Food Truck Club (Thailand) นายชนินทร์ วัฒนพฤกษา ประธานและผู้ก่อตั้งฟู้ดทรัคคลับ ประเทศไทย ร่วมแถลงข่าวการจัดงาน ‘World’s Largest Parade of Food Trucks’ งานสตรีทฟู้ดระดับเวิลด์คลาสและขบวนพาเหรดฟู้ดทรัคใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีกำหนดจัดงานในวันที่ 7-8 มีนาคม 2563 บริเวณริมทะเลสาบ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตอกย้ำความเป็นเมืองแห่งสตรีทฟู้ดที่ดีที่สุดในโลก 


นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และททท.ร่วมมือกับองค์กรเครือข่ายธุรกิจฟู้ดทรัค  ส่งเสริมภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหารให้กับประเทศไทย มุ่งยกระดับมาตรฐานอาหารไทย ส่งเสริมนโยบายการท่องเที่ยวเชิงอาหารไทย (Gastronomy Tourism) พร้อมสร้างเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารอย่างเป็นรูปธรรม สร้างความน่าสนใจดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้าสู่พื้นที่และกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับชุมชนอย่างยั่งยืน เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน โดยภาครัฐให้ความสำคัญกับการสนับสนุน

สตรีทฟู้ดไทย (Thai Street Food) หรือร้านอาหารริมทางให้เป็นรูปแบบฟู้ดทรัคมากขึ้น เริ่มจากโครงการ “หนูณิชย์ฟู้ดทรัคของกระทรวงพาณิชย์” การสร้างเครือข่ายธุรกิจฟู้ดทรัคของกระทรวงอุตสาหกรรมที่เดินหน้าอย่างจริงจังครบห่วงโซ่อุปทาน ทั้งเครือข่ายผู้ประกอบการฟู้ดทรัคและเครือข่ายสนับสนุน ซึ่งคาดว่าจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง พร้อมประสานกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบด้านสุขอนามัย เน้นเรื่องความสะอาดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ โดยผู้ประกอบการขายอาหารต้องสวมหมวก สวมถุงมือ ตามมาตรฐานเพื่อป้องกันเชื้อ คาดการณ์ว่ารายได้จากอาหารในปี64 จะสร้างมูลค่ากว่า 3.7แสนล้านบาท คิดเป็นร้อยละ10 ของมูลค่าการท่องเที่ยว 

“อยากเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติมาร่วมกิจกรรมดังกล่าวเชื่อว่านักท่องเที่ยวต่างชาติมั่นใจในระบบสาธารณสุขของไทย ที่ติดอันดับ6 ของโลก ในการดูแลและป้องกันไวรัสโคโรนา ในขณะนี้” นายพิพัฒน์ กล่าว  


ด้าน น.ส.ฐาปนีย์ กล่าวว่า สตรีทฟู้ดของประเทศไทยนั้นมีชื่อเสียงในระดับนานาชาติและเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต้องมาลิ้มลอง เพราะมีชื่อเสียงในเรื่องคุณภาพ รสชาติ ราคาสมเหตุสมผล และถูกหลักอนามัย กระแสความนิยมสตรีทฟู้ดไทยส่งผลให้กรุงเทพฯ เคยได้รับการจัดอันดับจากสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ให้เป็นสตรีทฟู้ดดีที่สุด อันดับ 1 ของโลก อย่างไรก็ตาม ททท. ดำเนินงานส่งเสริมภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหารมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้ประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับ “มิชลิน ไกด์” จัดทำคู่มือมิชลิน ไกด์ ฉบับประเทศไทย นับว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ 2 ในอาเซียนต่อจากสาธารณรัฐสิงคโปร์ที่มีการสำรวจและจัดทำคู่มือโดยมิชลิน ซึ่งจะช่วยสร้างภาพลักษณ์อาหารไทยสู่ระดับสากลมากขึ้น ปัจจุบัน ททท. จัดทำคู่มือ “มิชลิน ไกด์” เป็นปีที่ 3 โดยกระจายสู่เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมต่าง ๆ ประกอบด้วย กรุงเทพฯ ปริมณฑล ภูเก็ต พังงา และเชียงใหม่

ขณะที่ นายชนินทร์ กล่าวว่า องค์กรเครือข่ายธุรกิจฟู้ดทรัค เตรียมจัดงาน “World’s Largest Parade of Food Trucks” ในวันที่ 7-8 มีนาคม 2563 ณ ริมทะเลสาบ อิมแพ็ค เมืองธานี เพื่อตอกย้ำความเป็นอันดับหนึ่งของโลกเรื่องสตรีทฟู้ด ปัจจุบันฟู้ดทรัคคลับ ประเทศไทยมีสมาชิก ผู้ประกอบ การในเครือข่ายมากกว่า 700 แบรนด์ทั่วประเทศ สำหรับการจัดงานครั้งนี้มีรถฟู้ดทรัคเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ จำนวนกว่า 200 คัน ภายในงานประกอบด้วยเทศกาลอาหารฟู้ดทรัค การออกบูธแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับฟู้ดทรัค การแสดงมินิคอนเสิร์ต การจับรางวัลชิงโชค ขบวนพาเหรดฟู้ดทรัค การประกวดรถฟู้ดทรัค การแข่งขันการกินจุ พิธีมอบใบประกาศนียบัตร โล่รางวัล และมีพื้นที่สำหรับให้คำปรึกษาและคำแนะนำแก่ผู้ที่กำลังมองหาธุรกิจฟู้ดทรัคเป็นของตนเองอีกด้วย

การจัดงาน World’s Largest Parade of Food Trucks นี้ ทั้ง 3 หน่วยงาน มุ่งหวังสร้างภาพลักษณ์ที่ดี พร้อมสร้างชื่อเสียงและเพิ่มศักยภาพในด้านการท่องเที่ยวให้แก่ประเทศไทย เพื่อให้ได้รับการยอมรับและมีชื่อเสียงในฐานะเมืองที่มีวัฒนธรรมทางอาหารที่หลากหลาย และตอกย้ำความเป็นเมืองแห่งสตรีทฟู้ดที่ดีที่สุดในโลกต่อไป .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย