“สนธิรัตน์” ย้ำใจซื่อ มือสะอาด

กรุงเทพฯ 5 ก.พ. – “สนธิรัตน์” ยืนยันใจซื่อ มือสะอาด ไม่ชงเองกินเอง ทั้งโรงไฟฟ้าชุมชน-กองทุนอนุรักษ์ฯ สั่ง กกพ.แก้ไข ESB  ปลดล็อคโซลาร์รูฟท็อปเอกชนซื้อขายไฟฟ้าระหว่างกันเองได้

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานส่งเสริมพลังงานทดแทนตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง และต้นทุนที่ลดต่ำลง เช่น โซลาร์เซลล์ พลังงานลม โดยกำลังปรับปรุงแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาว หรือพีดีพี 2018 เพื่อให้มีสัดส่วนพลังงานทดแทนเพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) แก้ไขอุปสรรคให้สอดคล้องเปิดให้ผู้ผลิตไฟฟ้าโซลาร์ฯ สามารถซื้อขายไฟฟ้าระหว่างกันในพื้นที่เฉพาะ หรือ Sandbox  ได้ โดยจะต้องแก้ไขกฎหมายเรื่องโครงสร้างกิจการไฟฟ้าแบบ Enhanced Single-Buyer Model (ESB) ที่ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้รับซื้อไฟฟ้ารายเดียว เพื่อให้รายอื่นเข้ามาซื้อขายระหว่างกันได้ และยังเป็นพื้นฐานเชื่อมโยงไปถึงการซื้อขายไฟฟ้าในอาเซียน

นายสนธิรัตน์ ยังยืนยันว่าการทำงานพิจารณาโครงการกองทุนอนุรักษ์พลังงานวงเงินปีละ 10,000 ล้านบาท จะเป็นไปอย่างโปร่งใส เป็นธรรม มี 4 อนุกรรมการขึ้นมาดูแล เช่น กลั่นกรอง, ติดตามประเมินผล โดยแม้จะมีตัวแทนภาคการเมืองเข้ามาเป็นอนุกรรรมการ ก็ไม่สามารถอนุมัติได้ด้วยตัวเอง เพราะมีหลักเกณฑ์ การกลั่นกรองที่เข้มงวด ซึ่งได้สั่งการให้ปฏิรูปการทำงาน โดยเปิดเผยข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตตั้งแต่เสนอยื่นโครงการจนถึงการอนุมัติ ซึ่งจะเปิดยื่นโครงการภายในเดือนกุมภาพันธ์ และคาดว่าใช้เวลา 1 เดือนในการพิจารณา ส่วนการดึงสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ หรือ สช.มาร่วมเป็นอนุกรรมการฯ ก็เพราะมีความใกล้ชิดชุมชน ทำให้ขับเคลื่อนงานกองทุนฯ ตอบสนองชุมชนได้เป็นอย่างดี 

“ยืนยันว่าไม่มีการชงเองกินเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโรงไฟฟ้าชุมชนและกองทุนอนุรักษ์ฯ ขอความเป็นธรรมด้วย หลังจากมีข่าว ทำให้กรรมการเริ่มถอดใจ แม้ยังไม่เริ่มงาน โดยการอนุมัติโครงการไม่เน้นพื้นที่ของพรรคพลังประชารัฐ แต่จะดูถึงผลประโยชน์ชุมชน เช่น โซลาร์สูบน้ำ แก้ภัยแล้ง การขยายผลกาญจนบุรีโมเดล” รมว.พลังงาน กล่าว

ทั้งนี้ รมว.พลังงานได้ร่วมงานเปิดตัวโครงการยูโซลาร์ ซึ่งธนาคารยูโอบีร่วมกับ บมจ.บ้านปู, บางกอกโซลาร์, เคจี โซล่า ออกแพคเกจ ติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ครบวงจร โดยยูโอบี สนับสนุนเงินทุนสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจวงเงินสูงสุด 45 ล้านบาท และสำหรับประชาชนทั่วไปสามารถผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิตร้อยละ 0 นานสูงสุด 24 เดือน.-สำนักข่าวไทย