ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.ค.อยู่ที่ 67.3 ต่ำสุดรอบ 69 เดือน

กรุงเทพฯ 5 ก.พ. – ม.หอการค้าไทยเผยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมกราคมอยู่ที่
67.3 ต่ำสุดรอบ 69 เดือน กังวลไวรัสโคโรนาและงบประมาณล่าช้า  


นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมกราคม
2563 อยู่ที่ 67.3 จากเดือนธันวาคม 2562 ที่อยู่ในระดับ 68.3 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่
11 ต่ำสุดในรอบ 69 เดือน นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2557 สาเหตุมาจากความกังวลการระบาดไวรัสโคโรนาและงบประมาณปี
2563  ล่าช้า และปัญหาภัยแล้ง ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่
54.9 ลดลงจากเดือนธันวาคม 2562 ที่อยู่ในระดับ 56.0
ขณะที่ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำเท่ากับ 63.8 จาก 64.8
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตเท่ากับ 83.0 จาก 84.2

ปัจจัยลบสำคัญ ได้แก่ ความวิตกกังวลต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ปรับลดการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยปี
2563 เหลือ 2.8%
จากที่คาดว่าจะเติบโต 3.3% การส่งออกเดือนธันวาคม
2562 ลดลงร้อยละ 1.28% ค่าเงินบาทปรับตัวลดลงจาก
30.223 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในเดือนธันวาคม เป็น 30.440
บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นเดือนมกราคม 2563 ความกังวลต่องบประมาณรายจ่ายประจำปี
2563 อาจล่าช้าต้องรอการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญความกังวลต่อสถานการณ์ฝุ่นขนาดเล็ก
PM 2.5 ราคาพืชผลทางการเกษตรยังคงทรงตัวระดับต่ำ SET
Index ในเดือนมกราคม 2563 ปรับตัวลดลง 65.70
จุด และผู้บริโภคมีความรู้สึกว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวช้าและยังกระจุกตัว ขณะที่ปัจจัยบวกมีเพียงราคาน้ำมันปรับลดลง


ส่วนพฤติกรรมการใช้จ่ายวันวาเลนไทน์ 2563 นั้น ทางศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ
มองว่าจะมีความคึกคักน้อยกว่าปีที่แล้วถึงร้อยละ 41.2 ส่วนร้อยละ 31.4
มองว่าไม่เปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้ว โดย 57.1% ระบุว่าจะไม่ฉลองวันวาเลนไทน์ และ
29.1% มองว่าความรัก คือ การร่วมทุกข์ร่วมสุข ขณะที่กลุ่มนักศึกษาถึง 42.0%
ตอบแบบสอบถามว่ามีแนวโน้มจะฉลองวันวาเลนไทน์ด้วยการมีเพศสัมพันธ์
ส่วนค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเฉพาะซื้อของขวัญให้กับคู่รักจะอยู่ที่ 1,013.29 บาท

ขณะที่พฤติกรรมการใช้จ่ายช่วงมาฆบูชา 2563 นั้น
ทางศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ระบุว่า 65.5% จะไปทำบุญไหว้พระ และมีความเห็น
41.0% ว่าวันมาฆบูชาปี 2563 จะมีความคึกคักน้อยกว่าปี 2562
ส่วนสถานที่ที่คาดว่าจะไปเวียนเทียนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มากที่สุด คือ
วัดสระเกศ วัดบวรนิเวศวิหารและพุทธมณฑล ภาคเหนือ วัดพระธาตุดอยสุเทพ
วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร และวัดพระธาตุจอมทอง ภาคใต้
วัดมหาธาตุวรมหาวิหารและวัดคอหงษ์ ภาคกลาง วัดใหญ่ชัยมงคล วัดอัมพวัน และวัดพระนอน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วัดคำชะโนด วัดศาลาลอย และวัดธาตุ ทั้งนี้
เมื่อเปรียบเทียบความคึกคักระหว่างวันวาเลนไทน์ กับวันมาฆบูชา
วันวาเลนไทน์จะคึกคักมากกว่า  38.7%
แต่วันวาเลนไทน์มีความกังวลเรื่องเด็กและเยาวชนมากกว่า.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน