หอศิลปวัฒนธรรมฯ 4 ก.พ.-โครงการปั้นดินให้เป็นบุญ นำพระพุทธรูปจากฝีมือนักโทษจากเรือนจำกลางบางขวางมาจัดแสดงสู่โลกภายนอก ซึ่งปัจจุ บันพระพุทธรูปจากเรือนจำมอบให้วัด-รพ.ทั่วประเทศแล้ว 55 จังหวัด รวมไปถึงวัดในเนปาล-อินเดีย รวม 650 องค์
โครงการปั้นดินให้เป็นบุญ ซึ่งสอนให้ผู้ต้องขังโทษสูงในเรือนจำกลางบางขวางปั้นพระพุทธรูปบนพื้นฐานของความเชื่อที่ว่างานพุทธศิลป์จะช่วยเยียวยาจิตใจให้ผู้ต้องขังให้มีสมาธิความสงบเพื่อสามารถใช้ชีวิตในเรือนจำอย่างมีอิสระทางใจ ซึ่งจัดโครงการมาแล้ว 4 รุ่น ในวันนี้ (4ก.พ.) ได้นำพระพุทธรูปจากฝีมือของผู้ต้องขังทั้ง 4 รุ่น มาจัดแสดงในรูปแบบนิทรรศการ “จากมือเปื้อนบาป สู่มือที่เปื้อนบุญ” ระหว่างวันที่ 4-9 ก.พ.63 ที่หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพ เพื่อให้บุคคลทั่วไป รวมทั้งนักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความงดงามของพระพุทธรูปตามหลักพุทธศิลป์และเห็นความ สามารถและศักยภาพของผู้ต้องขัง ซึ่งหลายคนสามารถนำความรู้วิชาหล่อ พระไปประกอบอาชีพหลังพ้นโทษแล้ว
นิทรรศการครั้งนี้ จัดแสดงทั้งพระพุทธรูปองค์ใหญ่และพระพุทธรูปองค์เล็กที่ปกติจะให้นักโทษปั้นเพื่อมอบให้กับพ่อแม่หรือผู้มีพระคุณ รวมทั้งพระพุทธรูปผลงานของผู้ต้องขังเรือนจำบางขวางรุ่นที่4 ซึ่งหล่อเป็นเรซิน สีขาวงาช้างขนาดหน้าตักราว 17 นิ้วมีทั้งหมด 4 แบบ คือพระพุทธสันติธรรมากร พระพุทธธรรมวิชัยศาสดา พระพุทธโพชฌงคศาสดา และพระพุทธธรรมนฤนาถวิชัย และพระพุทธรูปองค์เล็กหล่อเป็นเรซินสีขาวงาช้าง ขนาดหน้าตัก 5 นิ้วมีทั้งหมดสองแบบ คือพระธรรมิกนรากร และพระพุทธอภัยนาถา
ปัจจุบันผลงานพระพุทธรูปจากเรือนจำกลางบางขวาง ได้นำไปมอบยังวัดและโรงพยาบาลในประเทศแล้ว 55 จังหวัดและนำไปถวายวัดที่ประเทศเนปาลและประเทศอินเดียรวมแล้วราว 650 องค์
นอกจากนี้โครงการยังมีกองทุนปั้นดินให้เป็นบุญเพื่อมอบให้ผู้ต้องขังที่พ้นโทษไปตั้งต้นชีวิตใหม่ซึ่งปัจจุบันมี20 รายได้รับทุนกู้ยืมแบบปลอดดอกเบี้ยเพื่อไปประกอบอาชีพ รวมถึงนายสาธิต หลิ่มจ่าง อดีตผู้ต้องขังคดียาเสพติดโทษ 33 ปี ที่เป็นนักเรียนในโครงการปั้นดินให้เป็นบุญรุ่นที่ 1 และเมื่อพ้นโทษเมื่อปี2561ได้รับทุนจากโครงการนำไปสร้างโรงหล่อพระที่บ้านเกิดในจังหวัดสิงห์บุรี นำวิชาชีพที่ได้เรียนรู้ไปรับหล่อพระพุทธรูป จากฝีมือที่ประณีตทำให้มีการว่าจ้างให้หล่อพระพุทธรูปเข้ามาอย่างต่อเนื่อง สร้างรายได้เลี้ยงตัวเองและพ่อแม่ที่แก่ชราแล้ว ให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างไม่ลำบาก ที่สำคัญยังเป็นโอกาสในการพิสูจน์ตัวเองในการกลับตัวเป็นคนดีของสังคมอีกครั้ง
เช่นเดียวกับนายชาญวิทย์ เล่าวิริยะธนชัย นักเรียนโครงการปั้นดินให้เป็นบุญรุ่นที่ 3 อดีตนักโทษคดียาเสพติดที่มีโทษสูงถึงประหารชีวิตแต่ได้พ้นโทษออกมาสู่โลกภายนอกแล้วเมื่อเดือนตุลาคม2562 พร้อมฝีมือการหล่อและปั้นรูปพระเยซู ศาสดาของศาสนาคริสต์ และรูปปั้นเปโตร เขาบอกว่า การได้ทำงานศิลปะ ทำให้มีสมาธิมีกำลังใจในการทำความดี มีสติ เป็นนักโทษชั้นดี ได้รับการลดหย่อนโทษตามเกณฑ์และจำคุกเพียง 22 ปี และ ไม่เพียงแต่ฝีมือในการปั้นงานศิลปะเท่านั้น ยังได้วิชาชีพการทำโรตีติดตัวมาด้วยและตั้งใจว่าจะเปิดร้านขายโรตีเล็กๆเพื่อเป็นรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัวที่บ้านเกิดในจังหวัดเชียงราย .-สำนักข่าวไทย