ภูมิภาค 31 ม.ค. – ซาฟารีเวิลด์ ยอมรับยีราฟหลุดกรงเกิดจากเหตุสุดวิสัยระหว่างขนย้าย ผลพิสูจน์ซากชี้ยีราฟจมน้ำตาย ไม่ใช่ฤทธิ์ยาสลบ
เหตุยีราฟ 2 ตัว หลุดจากกรง บริเวณสี่แยกไฟแดงบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ระหว่างขนย้าย ค่ำวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ต้องยิงยาสลบ 3 ดอก จนสามารถจับยีราฟได้ 1 ตัว ส่วนอีก 1 ตัว ยาสลบโดนที่ขาซ้าย 1 ดอก แต่ยีราฟวิ่งหนีเข้าป่า เจ้าหน้าที่นับร้อยปูพรมค้นหาทั้งภาคพื้นและอากาศ เกือบ 2 วันเต็ม ก่อนจะพบซากยีราฟลอยอืดกลางคลองบัว หน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ริมถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-พนมสารคาม เมื่อวานนี้ (30 ม.ค.)
กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซาฟารีเวิลด์ เผยยีราฟที่ตาย เป็นเพศผู้ อายุ 3-4 ปี น้ำหนัก 400 กิโลกรัม สูง 3 เมตร และเป็นคนละตัวกับที่ถูกรถชน โดยทีมสัตวแพทย์ผ่าพิสูจน์พบมีน้ำเต็มปอด ขณะที่สภาพร่างกายไม่พบร่องรอยบาดเจ็บ จึงสรุปว่าจมน้ำตาย และคาดว่าตายตั้งแต่เช้าวันที่ 29 มกราคม ยืนยันยีราฟไม่ได้ตายจากฤทธิ์ของยาสลบ เนื่องจากยาสลบมีฤทธิ์เพียงแค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้น ส่วนสาเหตุที่ทำให้ยีราฟหลุดจากกรงระหว่างขนส่ง เป็นเพราะนอตที่ยึดประตูกรงไม้หลวม ทำให้ประตูเปิดออก ยีราฟจึงออกจากกรง ยืนยันการขนส่งสัตว์ของบริษัทเป็นไปตามมาตรฐาน และมีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย
การขนย้ายสัตว์ในครั้งนี้ ถือเป็นลอตใหญ่ บริษัท ซาฟารีเวิลด์ เช่าเครื่องบินแบบเหมาลำ นำเข้ายีราฟจากแอฟริกา 78 ตัว ม้าลาย 60 ตัว โดยนำใส่กรงไม้ กรงละ 2 ตัว และวางยาซึมที่ใช้ในการลำเลียงสัตว์ เมื่อถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ได้ลำเลียงกรงยีราฟขึ้นรถบรรทุก 23 คัน ปลายทางศูนย์เพาะพันธุ์สัตว์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
ด้านผู้ช่วย ผอ.สวนสัตว์ดุสิต ปฏิบัติงานสวนสัตว์เปิดเขาเขียว เผยว่า การขนส่งยีราฟ มีขั้นตอนที่ค่อนข้างซับซ้อน ก่อนขนย้ายต้องฝึกให้ยีราฟเดินเข้าออกกรง เพื่อให้เกิดความคุ้นชิน จากนั้นก็จะวัดขนาดตัวยีราฟให้พอดีกับกรง และต้องวางแผนการเคลื่อนย้ายอย่างรัดกุม เพื่อความปลอดภัย
เหตุการณ์ยีราฟหลุดระหว่างขนย้ายครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในไทย สะท้อนให้เห็นว่า บริษัทที่ทำการขนย้ายสัตว์จะต้องไม่ประมาท และต้องเพิ่มมาตรการที่รัดกุมมากขึ้น เพื่อความปลอดภัยของสัตว์. – สำนักข่าวไทย