อสมท เกาะติดสถานการณ์ไวรัสโคโรนา มั่นใจข้อมูลถูกต้องจากแหล่งข่าวจริง

กรุงเทพฯ 31 ม.ค. – อสมท สานต่อนโยบาย National Trusted Source ร่วมกับ CMG สื่อทางการจีน  เกาะติดสถานการณ์ไวรัสโคโรนา มั่นใจข้อมูลถูกต้องจากแหล่งจริง


นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกรณีสถานการณ์ไวรัสโคโรนาและแนวทางป้องกัน Fake News เพื่อให้ข้อมูลประชาชนอย่างเที่ยงตรง ว่า อสมท เริ่มทำแคมเปญรณรงค์ให้ความรู้ และรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับไวรัสโคโรนา มาตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2563 ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน โดย อสมท ร่วมกับ China Media Group (CMG) จัดการถ่ายทอดสดงานเทศกาลตรุษจีนจากกรุงปักกิ่งระหว่างการถ่ายทอดสดทางการจีนได้มีข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ทาง อสมท จึงได้หารือกับนายเลี่ยว ลี่ ผู้อำนวยการ CMG ซึ่งเป็นผู้บริหารที่ดูแลสื่อหลักของรัฐบาลจีน เมื่อเสร็จสิ้นการถ่ายทอดสด อสมท จึงได้สั่งการให้ทุกสื่อในเครือ  ดำเนินการดังนี้

1. ประกาศเป็น Trusted Source โดยร่วมกับ CMG ส่งข้อมูลและรายงานสดจากจีนมาที่ อสมท เพื่อให้อ้างอิงข้อมูลข่าวและภาพที่ถูกต้องและรวดเร็ว


2. ให้สำนักข่าวไทยจัดทำรายการ “เกาะติดไวรัสโคโรนา” ทุกวันในข่าวภาคค่ำและรายการคับข่าวครบประเด็น ตลอดเดือนกุมภาพันธ์จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

3. เน้นรายงานตรวจสอบสถานการณ์จากในประเทศและต่างประเทศในข่าวต้นชั่วโมง จำนวน 10 ช่วง/วัน


4. จัดทำข่าวออนไลน์ ผ่าน 2 platforms คือ TNA Online (Thai News Agency) และ MCOT Digital ซึ่งทาง CCTV ได้ link ข่าวกลับไปยังรัฐบาลจีนได้รับทราบทุกวัน

5. ให้ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ทำ factsheet รายงานความเป็นจริง และสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับไวรัสโคโรนา และการดำเนินงานของภาครัฐ เพื่อป้องกัน Fake News โดยผ่าน Website , LINE @SureAndShare, Facebook และ Twitter ของศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ทุกวัน

6. ประชาสัมพันธ์ผ่านเครือข่ายวิทยุ อสมท ทั่วประเทศ 62 สถานี และFacebook ของทุกสถานีวิทยุ

นายเขมทัตต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า  อสมท มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมดำเนินการเกาะติดสถานการณ์ไวรัสโคโรนาร่วมกับ CMG ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ดีของ อสมท มาโดยตลอด นับได้ว่าขณะนี้ อสมท เป็นสื่อสารมวลชนแห่งเดียวในประเทศไทยที่เป็น Official News Agency ซึ่งมีแหล่งที่มาของข่าวที่น่าเชื่อถือของทางการจีนโดยตรง ทำให้มีข้อมูลที่แท้จริง แม่นยำ มากกว่าสื่อตะวันตก ในการเผยแพร่ให้ประชาชนรับทราบ

โดยก่อนหน้านี้ที่มีสื่อบางส่วนรายงานข่าวเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาผิดไปจากความเป็นจริง ในส่วนของ อสมท ได้วางแนวทางป้องกัน Fake News ในการรายงานข่าวและให้ความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ไวรัสโคโรนา เพื่อให้ข้อมูลประชาชนอย่างถูกต้องและเที่ยงตรง ดังนี้

ประการที่1 อสมท ในฐานะสื่อของรัฐได้รณรงค์ให้ประชาชน ติดตามและตรวจสอบข้อมูลที่แท้จริง จาก สำนักข่าวไทย (Thai News Agency) ทาง MCOT Digital ซึ่งเป็นwebsite ของ อสมท และ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ โดยได้ความร่วมมืออย่างเป็นทางการจาก CMG ซึ่งจะให้ประชาชนหันมารับรู้ข่าวสารที่ถูกต้องมากขึ้น และประการที่ 2 รายงานข่าวความเคลื่อนไหวของรัฐบาลในการรับมือสถานการณ์ และนำนโยบายของรัฐบาล เร่งสื่อสารให้ประชาชน หันมาติดตามสื่อที่มีข้อมูลอ้างอิงถูกต้อง โดยตั้งแต่เกิดสถานการณ์ระบาดของไวรัสโคโรนา อสมท ได้นำเสนอข่าวโดยใช้ข้อมูลอ้างอิงจาก CMG ประมาณวันละ 3-4 ข่าวต่อวัน พร้อมนำประเด็นไปขยายต่อในสื่อวิทยุเครือข่ายของ อสมท และช่องทาง Online รวมทั้ง ทำสรุปเป็น Infographic ที่น่าสนใจและเข้าใจง่ายมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัท เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้าน

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัทชิปปิ้ง เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้านบาท พบก่อเหตุคล้ายกันในบริษัทฯ อีก 2 แห่ง รวมรัฐเสียหายกว่า 430 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำเจ้าหน้าเข้าจับกุม นางสมบุญ อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1051/2568 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์2568 ในความผิดฐาน “ร่วมกันเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มกระทำการใดๆ โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน ที่ลานจอดรถหน้าอพาร์ทเมนต์ พื้นที่ ม.2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พฤติการณ์ ของ น.ส.สมบุญ ผู้ต้องหา ตรวจสอบพบว่า เป็นหนึ่งในกรรมการ บริษัท แห่งหนึ่งประกอบกิจการเป็นตัวแทนนำเข้าสินค้าและดำเนินพิธีการศุลกากรเพื่อนำสินค้าออกจากท่าเรือ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าบริษัทฯดังกล่าวมีพฤติการณ์ปิดบังซ่อนเร้นที่มาของรายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ โดย บริษัทมักจะไม่มีการออกใบกำกับภาษีขายและใบเสร็จรับเงินสำหรับค่าบริการให้แก่ลูกค้าแต่อย่างใด และการจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างของบริษัทฯ มักจะจ่ายเป็นเงินสดให้ลูกจ้างเป็นรายสัปดาห์ […]

สาวใจเด็ด โดดจยย.รับจ้าง วิ่งตามรถตัวเองหลังตามหา 1 ปี

กทม. 18 พ.ค. – สาวใจเด็ด โดดลงจากมอเตอร์ไซค์รับจ้าง วิ่งไล่รถตัวเอง หลังตามหาและผ่อนกุญแจเปล่ามานานกว่า 1 ปี พบเพื่อนสนิทนำรถไปค้ำประกันกับเจ้าหนี้ จากกรณีคลิปที่มีการแชร์ในโซเซียล ขณะผู้หญิงใส่เสื้อลายกำลังวิ่งไล่ตามรถเก๋งสีขาว พร้อมตะโกนให้คนช่วย จนพลเมืองดี ช่วยกันเข้ามารายล้อมรถและคนขับรถเก๋งต้องเลี้ยวเข้าซอย เพื่อลงมาเคลียร์ ก่อนเกิดเหตุชุลมุนขึ้น เมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) ล่าสุดทีมข่าวเปิดใจ สาวที่ปรากฏในคลิป เล่าถึงสาเหตุที่ต้องเข้าไปขวางรถยนต์คันนี้ เพราะว่าเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม ปี 2567 ตนเองได้ซื้อรถเก๋งคันนี้ ทะเบียนขอนแก่น และนำรถไปฝากจอดไว้ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง ซึ่งเป็นห้องของแฟนเพื่อนสนิท แต่หลังจากที่นำรถไปฝาก ก็ไม่เคยได้พบรถตัวเองอีกเลย โดยเพื่อนสนิท อ้างว่าแฟนเอาไปขับ ทุกครั้งที่ทวงถามหารถ จะมีการบ่ายเบี่ยงต่างๆ นานา จนในที่สุด ตนเองก็เข้าแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ห้วยขวาง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามหารถ เวลาผ่านไปประมาณ 1 ปี ก็ยังตามหาไม่ได้ ตนเองจึงต้องผ่อนกุญแจเปล่า มาเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม […]

ข่าวแนะนำ

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

“บิ๊กเต่า” นำทีมตรวจเงินวัดไร่ขิง พบบัญชีวัดเพิ่มอีกรวม 49 บัญชี

นครปฐม 19 พ.ค. – “บิ๊กเต่า” นำทีมตรวจเงินวัดไร่ขิง พบตู้บริจาค 185 ตู้ บัญชีวัดรวม 49 บัญชี รอตรวจสอบเส้นเงินที่ชัดเจน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้นำกำลังตำรวจ เจ้าหน้าที่ สตง. และเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนา เข้าตรวจสอบข้อมูลการเงินเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ภายในห้องการเงิน วัดไร่ขิง ก่อนที่ในช่วงบ่ายพระครูปฐมธีรวัฒน์ (บัญชา ฐิตธมฺโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ได้เป็นตัวแทนนำ จนท.ออกมาชี้จุดตั้งตู้บริจาคปัจจัยที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัด พบว่ามีตู้บริจาคทั้งหมด 185 ตู้ ซึ่งหลังจากใช้เวลาตรวจสอบบัญชีเพิ่มเติมกว่า 8 ชั่วโมง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่าการตรวจสอบในวันนี้ ไม่ได้ เป็นการสอบปากคำ แต่เป็นเพียงการเรียกทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีการเงินของวัดประมาณ 10 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่ธนาคารจาก 4 ธนาคาร เข้ามาให้ข้อมูล เพื่อหาข้อสรุปว่า บัญชีของวัดมีกี่บัญชี ซึ่งทำให้พบบัญชีวัดเพิ่มขึ้นจากที่พบก่อนหน้านี้ 20 กว่าบัญชี (ใน 20 กว่า มีบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาส […]

เร่งช่วยคนพลัดตกหลุมก่อสร้างรถไฟฟ้า ลึกกว่า 10 ม.

กทม. 19 พ.ค. – เร่งช่วยคนพลัดตกหลุมลึกกว่า 10 ม. โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม เกิดเหตุคนพลัดตกลงไปในหลุมซึ่งกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า ใกล้เคียงซอยหลานหลวง 8 ขนาดความลึกประมาณ 15-19 เมตร ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างช่วยเหลือ โดยโรยตัวลงไปช่วยผู้ติดอยู่ภายในหลุม สำหรับโครงการดังกล่าว เป็นโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เบื้องต้นคาดว่าอุบัติเหตุน่าจะเกิดระหว่างขั้นตอนก่อสร้าง ซึ่งเป็นช่วงที่ดันปลอกเหล็กขึ้นลงเพื่อขุดดินก่อสร้างสถานีหลานหลวง ส่วนสาเหตุที่แน่ชัดต้องตรวจสอบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

คุมตัวกรรมการบริษัท ว. และสหายฯ ส่งศาลฝากขัง

บางซื่อ 19 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวกรรมการบริษัท ว. และสหายฯ ไปฝากขังศาลอาญาแล้ว พร้อมคัดค้านประกันตัว ส่วนนิติบุคคลบริษัท ตำรวจปล่อยตัวชั่วคราว ช่วงบ่ายวันนี้ (19 พ.ค.68) พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ควบคุมตัวนายพลเดช กรรมการบริษัท ว. และสหาย คอนซัลแตนส์ จำกัด ขึ้นรถตู้ตำรวจไปฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก บรรยากาศระหว่างเจ้าหน้าที่คุมตัวนายพลเดช ออกมาจากห้องสอบสวน บริเวณชั้น 1 ของโรงพัก เจ้าหน้าที่ได้พานายพลเดช เดินขึ้นไปยังชั้น 2 ก่อนจะพาเดินอ้อมไปอีกฝั่งหนึ่งของโรงพัก แล้วพาเดินลงมาขึ้นรถตู้ของ สน.บางซื่อ โดยระหว่างการควบคุมตัวขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า กังวลหรือไม่เรื่องการยื่นขอประกันตัว และสอบถามอีกว่า ปฏิเสธข้อกล่าวหาหรือไม่ แต่นายพลเดช ไม่ได้ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด มีสีหน้าค่อนข้างกังวล ก่อนจะขึ้นรถตู้ของ สน.บางซื่อ ขณะที่นายพฤหัส มหาวรรณ ทนายความ เดินตามมาทีหลัง ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามว่า นายพลเดช ให้การว่าอย่างไรบ้าง ปฏิเสธหรือยอมรับข้อกล่าวหา […]