เกษตรฯ รุดเจรจาสหรัฐ แจงเหตุขอไม่นำเข้าหมู หวังไม่ถูกตัด GSP

กรุงเทพฯ 31 ม.ค. – กระทรวงเกษตรฯ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งผู้แทนเจรจาสำนักผู้แทนทางการค้าสหรัฐอเมริกาถึงเหตุผลที่ไม่สามารถอนุญาตนำเข้าสุกรได้ เนื่องจากกฎหมายไทยห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดง หวังสหรัฐเข้าใจถึงความห่วงใยในสุขภาพอนามัยประชาชน ไม่ใช่เหตุผลกีดกันทางการค้า จนนำไปสู่การตัด GSP สินค้าไทย ด้านสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติทำหนังสือถึงนายกฯ ขอรัฐบาลไม่เปิดตลาดสินค้าเนื้อและชิ้นส่วนสุกรจากสหรัฐ



นายสัตวแพทย์วิวัฒน์ พงษ์วิวัฒนชัย อุปนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวว่า ได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีขอชี้แจงเหตุผลที่ไม่ควรอนุญาตให้มีการเปิดตลาดสินค้าเนื้อและชิ้นส่วนสุกรจากสหรัฐอเมริกา โดยระบุว่าตามที่สหรัฐอเมริกากดดันรัฐบาลไทย เพื่อเปิดตลาดให้ โดยทั้งภาคเอกชนและสมาชิกรัฐสภาสหรัฐอเมริกาอ้างถึง มติคณะกรรมาธิการโครงการมาตรฐานอาหาร FAO/WHO (Codex Alimentarius Commission – CAC) ที่กำหนดค่าตกค้างขั้นต่ำของ Rectopamine ที่เป็นสารเร่งเนื้อแดงว่า แม้สหรัฐใช้ในการเลี้ยงสุกร แต่ค่าตกค้างไม่เกิน ภาคเอกชนสหรัฐกล่าวหาว่าไทยเลือกปฏิบัติ โดยนำเข้าจากนานาประเทศ เช่น จีน เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี อิตาลี แต่กลับไม่ยอมเปิดตลาดให้สหรัฐ เอกชนผู้เลี้ยงสุกรและสมาชิกรัฐสภาสหรัฐระบุว่าไทยได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) จากสหรัฐ มากเป็นลำดับต้น ๆ แต่ไทยกลับไม่ยอมเปิดตลาดให้สหรัฐ จึงเรียกร้องให้มีการตัดสิทธิ GSP สินค้านำเข้าจากประเทศไทย


นายสัตวแพทย์วิวัฒน์ กล่าวว่า ห่วงโซ่อุตสาหกรรมสุกรของไทยมีลักษณะใกล้เคียงกับสหรัฐ คือ เลี้ยงสุกรเพื่อบริโภคในประเทศ รวมถึงรองรับผลผลิตสินค้าเกษตรที่เป็นอาหารสัตว์ เช่น ข้าวโพด ข้าว มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และอ้อย ซึ่งปัจจุบันกำลังพัฒนาเพื่อช่วยให้ขยายพื้นที่เพาะปลูกมากขึ้น โดย 3 ปีที่ผ่านมา การเลี้ยงสุกรและไก่เนื้อของไทยสร้างหลักประกันให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดอาหารสัตว์ เมื่อเกษตรปศุสัตว์ของไทยเข้มแข็งจะช่วยลดภาระงบประมาณแผ่นดินของประเทศที่ต้องนำมาจัดสรรประกันรายได้สินค้าเกษตร นอกจากนี้ ผลผลิตสุกรภายของไทยยังคงเกินกว่าความต้องการภายในประเทศ จึงแก้ปัญหา โดยการส่งออก แต่ติดข้อจำกัดองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) แต่ทางภาครัฐเพิกเฉย 


สำหรับหนังสือที่ทำถึงนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ได้ชี้แจงเหตุผลที่ไม่ควรอนุญาตให้มีการเปิดตลาดสินค้าเนื้อและชิ้นส่วนสุกรจากสหรัฐอเมริกาว่า สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติยื่นฟ้องร้องคณะผู้ร่วมการประชุม Codex Alimentarius Commission – CAC ครั้งที่ 35 เมื่อวันที่ 2-7 กรกฎาคม 2555 ในการกระทำผิดหน้าที่ราชการต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครองสูงสุด โดยผู้ถูกร้อง ได้แก่ ส่านักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เพื่อขออำนาจศาลปกครองสูงสุดสั่งให้ผู้ถูกร้องยื่นบันทึกความไม่เห็นชอบการรับรองหรือตั้งข้อสงวน หรือคัดค้านข้อมติผลการประชุม คณะกรรมการโคเด็กซ์ (Codex Alimentarius Commission) ครั้งที่ 35 กรุงโรม สาธารณรัฐอิตาลีในช่วงวันดังกล่าวเรื่อง รับรองร่างมาตรฐานค่าปริมาณยาสัตว์ตกค้างสูงสุดสำหรับแรคโตพามีน  ปัจจุบันผ่านมาเกือบ 7 ปี จนไทยมีกฎหมายห้ามใช้และห้ามปนเปื้อนสารเร่งเนื้อแดงทุกชนิดทำให้การเปิดตลาดสินค้าสุกรจากประเทศที่อนุญาตให้ใช้สารต้องห้ามไม่สามารถทำได้ เนื่องจากจะสร้างปัญหาทางสังคมและเกิดข้อกังขาว่า รัฐบาลเอื้อประโยชน์ให้ต่างประเทศ ขณะเดียวกันจับกุมผู้เลี้ยงสุกรที่ฝ่าฝืนใช้สารเร่งเนื้อแดงมาตลอด

ส่วนที่ภาคเอกชนผู้เลี้ยงสุกรและสมาชิกรัฐสภาสหรัฐเรียกร้องให้มีการตัดสิทธิ GSP สินค้านำเข้าจากไทยด้วยเหตุผลการกล่าวหาว่า ไทยกีดกันสินค้าสุกรจากสหรัฐ เนื่องจากไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรไทยมีข้อพิพาทกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเรื่องยังคงอยู่ในกระบวนการยุติธรรมของไทย จากเหตุผลทั้งหมดที่กล่าว จึงขอรัฐบาลไม่ควรอนุญาตให้มีการเปิดตลาดสินค้าเนื้อและชิ้นส่วนสุกรจากสหรัฐอเมริกา อีกทั้งควรยุติการเจรจาการเปิดตลาดให้แก่ประเทศที่มีข้อกฎหมายต่างกับกฎหมายของประเทศในเรื่อง มาตรฐานอาหารอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับเศรษฐกิจการเกษตรทั้งระบบของไทย

ล่าสุดนายพิศาล พงศาพิชณ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางไปยังสหรัฐอเมริการ่วมกับผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อชี้แจงขั้นตอนการอนุญาตนำเข้าสินค้าสุกรจากสหรัฐอเมริกาต่อสำนักผู้แทนทางการค้า (USTR) รวมทั้งชี้แจงข้อกล่าวหาว่าไทยไม่ได้กีดกันทางการค้าต่อสหรัฐ ทั้งนี้ GSP เป็นสิทธิพิเศษทางภาษีที่สหรัฐให้แก่ประเทศต่าง ๆ ที่ส่งสินค้าไปขายในสหรัฐ โดยเป็นการให้ฝ่ายเดียว ที่ผ่านมาสหรัฐยกหลายเหตุผลในการตัดสิทธิ GSP ของไทย จึงไม่มีการรับประกันว่า หากไทยเปิดตลาดรับสินค้าสุกรจากสหรัฐแล้วจะไม่ถูกตัด GSP อีก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]

“ปราสาทตาเมือนธม” วุ่น ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย

กทม. 15 ก.ค.-ทบ.อยู่ระหว่างตรวจสอบปมความวุ่นวาย “ปราสาทตาเมือนธม” หลังมีข่าวทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย ด้าน มทภ.2 ยันสถานการณ์ปกติ อย่าตื่นตระหนก 15 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล หลังเกิดเหตุความไม่เรียบร้อยที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จากกรณีหญิงชาวกัมพูชา ตะโกนใส่ทหารไทยว่าล้ำเส้นเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา และมีการทะเลาะกันเสียงดัง ทำให้ทหารไทยและทหารกัมพูชาที่อยู่ในจุดนั้นต้องเข้ามาห้าม แต่เหตุการณ์ลุกลาม ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย วิ่งเข้ามาในบริเวณฝั่งไทย ตรงบันไดทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม ทางด้านทหารไทยก็ได้เข้าไปอยู่ในจุดดังกล่าวด้วย โดยสถานการณ์มีการผลักอกกัน ตะโกนโวยวาย ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แจงว่า ปราสาทตาเมือนธม เหตุการณ์ปกติ ไม่มีอะไร ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจ.-313.-สำนักข่าวไทย