ไทยยังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่

สธ.30 ม.ค.-สธ.แถลงตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา ยังคง 14 คน ขณะที่เข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง 202 คน พบ 2 คน คือคนขับแท็กซี่ อาการยังไม่รุนแรง พร้อมแนะนำการสวมหน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง ลดการแพร่เชื้อ


นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวรายงานสถานการณ์ประจำวัน โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ว่า ล่าสุดยังพบผู้ป่วยติดเชื้อ 14 คน กลับบ้านแล้ว 6 คน อีก 8 คนนอนโรงพยาบาล และไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศไทย 


ส่วนผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3-29 มกราคม 2563 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 202 ราย คัดกรองจากสนามบิน 31 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 171 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 67 ราย ส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 135 ราย โดยในวันที่ 29 มกราคม 2563 พบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรครายใหม่จำนวน 44 ราย

สำหรับสถานการณ์ทั่วโลกใน 17ประเทศ และ 2 เขตปกครองพิเศษ ข้อมูล ตั้งแต่ 5-29 มกราคม 2563 พบผู้ป่วย 6,066 ราย ส่วนประเทศจีน ข้อมูล ณ วันที่ 27 มกราคม 2563 พบผู้ป่วย 5,974 ราย เสียชีวิต 132 ราย

สำหรับผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์ต้องเฝ้าระวัง 202 คน มีทั้งคนไทยและจีน และเป็นคนขับแท็กซี่ จำนวน 2 คน ซึ่งรับผู้โดยสารที่เป็นนักท่องเที่ยวจีนเมื่อสองวันที่ผ่านมา อาการขณะนี้ไม่รุนแรงและไม่น่ากังวล คนทำงานด้านบริการท่องเที่ยว ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ เพื่อป้องกันโรค     ยังไม่มีรายงานยืนยันเรื่องการติดเชื้อจากคนสู่คน


นอกจากนี้ในการแถลงข่าว ยังมีการสาธิต การใช้หน้ากากผ้า ป้องกันโรค เป็นทางเลือกสำหรับประชาชนที่ไม่มีอาการทางระบบทางเดินหายใจ แต่สำหรับผู้ที่มีอาการป่วยให้ใส่หน้ากากอนามัยกรอง 3 ชั้น ด้านในสีขาว เนื้อสัมผัสนุ่มเป็นตัวซับน้ำลาย น้ำมูก นำด้านนอกสีเขียวออกด้านนอก ผิวจะด้าน ป้องกันเชื้อไม่ให้เข้ามาสู่ร่างกาย 

นพ.โสภณ กล่าวด้วยว่า สำหรับกลุ่มนักศึกษาในเมืองอู่ฮั่นขณะนี้มีจำนวน 60 คน กระทรวงการต่างประเทศมีการประชุมติดตามอย่างต่อเนื่อง พร้อมตั้งกลุ่ม WeChat มีแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุขอยู่ในกลุ่ม เพื่อสอบถามอาการทุกวัน ล่าสุดยังไม่พบนักศึกษามีอาการป่วย หากทางการไทยมีมติเดินทางไปรับกลับจะร่วมส่งทีมแพทย์ร่วมด้วย หากพบผู้มีไข้ จะจัดแยกที่นั่งพิเศษ หลังกลับบ้านจะแจกเครื่องวัดไข้กลับและหน้ากากอนามัยติดตามอาการต่อเนื่อง แต่จะไม่กักตัวอยู่โรงพยาบาล 

สำหรับตัวเลขล่าสุด นักท่องเที่ยวจากอู่ฮั่นที่ยังอยู่ในประเทศไทย ไม่เกิน 10,000 คน กระทรวงสาธารณสุขติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง คาดว่าน่าจะสามารถเดินทางกลับประเทศไทย ใน 2-3 วัน หากจีนเปิดสนามบิน

ในส่วนกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดประชุมระดมสมองห้องปฏิบัติการ โรงพยาบาลในเครือข่าย ทั้งมหาวิทยาลัย กรมควบคุมโรคและกรมการแพทย์ ได้แก่ ศิริราชพยาบาล รพ.รามาธิบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศูนย์โรคติดต่ออุบัติใหม่ สภากาชาดไทย รพ.ราชวิถี รพ.เลิดสิน สถาบันบำราศนราดูร ปรับปรุงแนวทางการตรวจทางห้องปฏิบัติการรับมือสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เป็นมาตรฐานเดียวกัน ประชาชนได้รับผลการตรวจที่รวดเร็ว น่าเชื่อถือ และสามารถนำมาใช้ประเมินสถานการณ์ในการควบคุม ป้องกันโรค

โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จัดเตรียมชุดตัวอย่างสำหรับการประเมินความสามารถห้องปฏิบัติการแจกจ่ายไปยังห้องปฏิบัติการเครือข่ายทั้งในและนอกกระทรวงสาธารณสุขและขณะนี้มีตัวอย่างส่งมาตรวจที่กรม วิทยาศาสตร์การแพทย์ประมาณ 30-40 ตัวอย่าง/วัน

ส่วนผลการดำเนินงานที่ด่านควบคุมโรคจากการตรวจคัดกรอง 5สนามบิน ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ ได้ตรวจคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิ สะสมตั้งแต่วันที่ 3-25 มกราคม 2563 จำนวน 137 เที่ยวบิน จำนวน 21,522 คน วันที่ 24-29 มกราคม 2563 ท่าอากาศยานเชียงราย ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยาน ภูเก็ต ท่าอากาศยานกระบี่ ท่าอากาศยานดอนเมือง และ    ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คัดกรองผู้โดยสารสายการบิน จากสาธารณรัฐประชาชนจีน 92 เที่ยวบิน ผู้เดินทางและลูกเรือได้รับการคัดกรอง จำนวน 6,953 ราย กระทรวงสาธารณสุขได้จัดเจ้าหน้าที่หมุนเวียนไปสนับสนุนเจ้าหน้าที่ที่ด่าน เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพตลอด 24 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียพร้อมผู้โดยสาร 242 คน ตกที่สนามบินอาห์เมดาบัด

นิวเดลี 12 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงลอนดอน ของอังกฤษ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 242 คน เกิดอุบัติเหตุตก หลังจากที่เพิ่งออกเดินทางจากสนามบินเมืองอาห์เมดาบัด ทางตะวันตกของอินเดีย เพียงไม่กี่นาที แอร์อินเดีย กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีกำหนดเดินทางไปยังสนามบินแก็ตวิก ในอังกฤษ ขณะที่ตำรวจกล่าวว่า เครื่องบินตกในบริเวณพื้นที่พลเรือนใกล้กับสนามบิน ไฟลท์เรดาร์ 24 ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวทางอากาศ กล่าวว่า เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่ทันสมัยมาก ๆ ที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ โทรทัศน์ของอินเดีย รายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นจากสนามบิน ภาพจากโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แสดงให้เห็นภาพเครื่องบินออกจากสนามบินและบินอยู่เหนือพื้นที่ย่านพักอาศัยของประชาชน จากนั้นเครื่องบินก็หายไปจากจอ ก่อนที่จะเห็นควันไฟขนาดใหญ่ลอยจากบ้านเรือนประชาชนขึ้นไปบนท้องฟ้า นอกจากนั้น ยังมีภาพประชาชนถูกเคลื่อนย้ายด้วยเปลไปยังรถพยาบาลที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ช้อมูลการควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินอาห์เมดาบัด ระบุว่า เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลา 13.39 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 15.09 น. ตามเวลาในประเทศไทย จากทางวิ่งหมายเลข 23 เครื่องบินส่งสัญญาณฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อนักบินไม่ได้อีกเลย.-813.-สำนักข่าวไทย

ปรับมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว

กองทัพบก 12 มิ.ย.- กองกำลังบูรพา ประกาศปรับมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว อำนวยความสะดวกประชาชนตามหลักมนุษยธรรม จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย พ.ท.หญิง ปวีณา ศรีบัวชุม ผู้ช่วยโฆษก ทบ.ค่ะ เปิดเผยว่า กองทัพบกได้ดำเนินมาตรการควบคุมการเปิด–ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ตั้งแต่ 7 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังบูรพา จ.สระแก้ว และพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี จ.อุบลราชธานี บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ โดยให้กองกำลังป้องกันชายแดนพิจารณาให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกประชาชนตามหลักมนุษยธรรม ล่าสุด วานนี้ (11 มิถุนายน 2568) กองกำลังบูรพาได้มีการปรับมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรนเพื่อการค้า ในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว เพื่อมุ่งอำนวยความสะดวกประชาชน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน มีรายละเอียดดังนี้ 1.จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน : เปิด – ปิด เวลา 08.00 – 16.00 น. และผ่อนปรนให้รถบรรทุกหกล้อขึ้นไปผ่านเข้าออกได้ (จากเดิมที่ไม่อนุญาตรถบรรทุก) โดยจำกัดจำนวนคันที่ 70 คัน/ต่อวัน ทั้งขาเข้าและขาออก 2.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]