fbpx

เฝ้าระวังโควิดสายพันธุ์ย่อย JN.1

กรุงเทพฯ 4 ม.ค. – เฝ้าระวังโควิด-19 สายพันธุ์ย่อยตัวใหม่ JN.1 หลังพบในหลายประเทศปะปนในน้ำเสีย อาการไม่แตกต่าง แต่หลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันดีขึ้น


ศ.เกียรติคุณ ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เผยถึงการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ JN.1 (เจเอ็น วัน) ว่า พบผู้ป่วยแล้วในหลายประเทศ ทั้งในประเทศฝั่งยุโรป สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา และมีแนวโน้มในไทยด้วย ทั้งนี้ โควิด-19 สายพันธุ์ JN.1 พัฒนาต่อเนื่องมาจากสายพันธุ์ย่อยโอมิครอน BA.2.86 โดยพบการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตรงโปรตีนหนาม 1 ตำแหน่ง ทำให้หลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ดีขึ้น จากเดิมที่ร่างกายเคยเรียนรู้วิธีป้องกัน อาจจะยากขึ้นต่อการรับมือ แต่อาการที่พบ ไม่ได้แตกต่างกับสายพันธุ์โอมิครอน ที่ผ่านมา

ส่วนการประกาศเรื่องไวรัสขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ที่ประกาศให้สายพันธุ์ JN.1 เป็นแบบ VOI หรือ Variants of interest หมายถึง เป็นสายพันธุุ์ที่น่าสนใจ แต่ไม่ได้น่ากังวลเท่าสายพันธุ์อัลฟา เบตา แกมมา และเดลตา เบื้องต้นพบผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์ JN.1 ในไทยแล้ว 3 คน และอาจต้องเฝ้าระวังจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากช่วงนี้เข้มงวดการตรวจเชื้อโควิดน้อยลง


ขณะที่อาการลักษณะคล้ายโอมิครอน ไม่รุนแรง แต่เป็นที่น่ากังวล เพราะสามารถแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ซึ่งระบบสาธารณสุขต้องเตรียมพร้อมรองรับด้วย อีกทั้งจะมีอาการผิดปกติระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากมีการตรวจพบเชื้อ JN.1 ในน้ำเสียในหลายประเทศ แหล่งอุจจาระและปัสสาวะในชุมชน อาจเป็นไปได้ว่าเชื้อมีการเคลื่อนตัวจากปอด ลงมาสู่ระบบทางเดินอาหารหรือไม่ จึงพบไวรัสในน้ำเสีย หัวหน้าศูนย์จีโนมฯ เปิดเผยว่า WHO จะให้มีการผลิตวัคซีนรุ่นใหม่ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ๆ มากขึ้น ส่วนในไทยคาดว่าที่มีปัจจุบันมีเยอะน่าจะเป็นรุ่นที่ 2 ไบวาเลนท์ ซึ่งยังคงฉีดได้ แม้จะไม่ป้องกันการติดเชื้อ แต่ช่วยลดความอาการรุนแรงของโรคได้

ขณะที่วัฏจักรการระบาดของโควิด-19 ในช่วงเดือนมกราคม เป็นเรื่องปกติของการระบาด เหมือนช่วงเดลตาและโอมิครอน ซึ่งช่วงต้นปี 2024 พบการระบาดสายพันธุ์ JN.1 เป็นหลักแล้วหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ จึงต้องจับตาว่า ในบ้านเราการระบาดของ JN.1 จะมีจำนวนมากกว่าหรือน้อยกว่าเชื้อสายพันธุ์อื่นๆ ในช่วงระยะเวลาเดียวกันอย่างไร และจากนั้นสายพันธุ์นี้ก็จะลดหายไปในช่วงปลายเดือนมกราคม และจะมีสายพันธุ์ใหม่ที่พัฒนาจาก JN.1 มาแทนที่ ซึ่งต้องรอดูอัตราการแพร่ระบาดและความรุนแรงอีกครั้ง ส่วนบ้านเราที่น่ากังกลเป็นช่วงหลังเทศกาลที่มีการพบปะรวมตัวกัน และยังคงแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่อเข้าในพื้นที่แออัด เพราะยังพอช่วยป้องกันได้.-417-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โผ ครม. “เศรษฐา 2” ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้

โผ ครม. เศรษฐา 2 ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้ เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต ขณะที่ พปชร. ยึด ก.เกษตรฯ ด้าน “สุชาติ” นั่ง รมช.พาณิชย์ พร้อมทาบ “พวงเพ็ชร” ที่ปรึกษานายกฯ โค้งสุดท้ายสลับ “สุดาวรรณ” นั่ง ก.วัฒนธรรม “เสริมศักดิ์” ไป ก.ท่องเที่ยวฯ

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ข่าวแนะนำ

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม. “เศรษฐา 1/1”

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ โปรดเกล้าฯ ครม.เศรษฐา 1/1 แล้ว “พิชัย” รองนายกฯ ควบ รมว.คลัง โยก “สมศักดิ์” นั่ง รมว.สธ. แทน “นพ.ชลน่าน”

อาลัย “ดาบต้าร์” ตร.ทางหลวง เสียชีวิตแล้ว

ข่าวเศร้าเช้าวันหยุด ด.ต.ปิยะนันท์ สีเสื้อ หรือ “ดาบต้าร์” เสียชีวิตแล้ว หลังบาดเจ็บสาหัสจากเหตุเก๋งพุ่งชนขณะอำนวยการจราจรช่วงสงกรานต์

ไฟไหม้ “วิน โพรเสส” ยังคงพบไอระเหยสารเคมี 10 ชนิด

กรมควบคุมมลพิษ เผยผลตรวจติดตามผลกระทบทางสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากเหตุเพลิงไหม้โกดังโรงงานเก็บกากของเสียอุตสาหกรรมและสารเคมีอันตราย ล่าสุดยังคงพบไอระเหยสารเคมี 10 ชนิด ในปริมาณเล็กน้อย แต่บางจุดพบสารบางชนิดในระดับจะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ระคายเคืองตาและผิวหนัง พร้อมร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม เตรียมแผนรับมือช่วงฤดูฝน ที่อาจจะมีวัตถุอันตรายหลุดออกมานอกพื้นที่

ราคาไข่ไก่ปรับขึ้นอีก 20 สตางค์ แตะ 3.80 บาท

เครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ ประกาศปรับขึ้นราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มอีก 20 สตางค์ โดยเป็นการขยับราคาห่างจากรอบที่แล้วไม่ถึง 2 สัปดาห์ สาเหตุเพราะช่วงนี้อากาศร้อนยิ่งขึ้นอีก ปริมาณไข่ไก่ลดและขนาดฟองเล็กลง ประกอบกับสงครามในต่างประเทศ ทำให้ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์สูงขึ้น สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ วอนผู้บริโภคเข้าใจและขออย่าตกใจ ปริมาณไข่ไก่แม้น้อยลง 5-10% แต่ยังเพียงพอบริโภค