ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศเข้มป้องกันไวรัสโคโรน่า

กรุงเทพฯ 27 ม.ค.บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา
จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลกำหนดมาตรการเฝ้าระวังไวรัสโคโรน่าต่อเนื่อง
เน้นทำความสะอาดฆ่าเชื้อทุกจุดที่มีการสัมผัส เพิ่มมาตรการตรวจวัดและเฝ้าระวัง
ครอบคลุมพนักงาน ร้านค้าผู้เช่าภายในศูนย์ฯ  ตั้งจุดบริการเจลล้างมือและหน้ากากอนามัยผู้ใช้บริการ


นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่
สายงานการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าในขณะนี้
ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศได้ออกมาตรการดูแลและป้องกันโรคให้เข้มงวด
เน้นให้เกิดการปฏิบัติตามมาตรฐานอย่างละเอียดถี่ถ้วน  ซึ่งในศูนย์ฯ ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ได้เข้มงวดการตรวจคัดกรองพนักงานและเจ้าหน้าที่ทั้งในส่วนศูนย์การค้าและร้านค้าผู้เช่าด้วยการวัดไข้และจัดเตรียมหน้ากากอนามัยไว้ให้สวมใส่
เพื่อความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้กับผู้มาใช้บริการ

ทั้งนี้ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ
ดำเนินการเฝ้าระวังและป้องกันไวรัสโคโรน่า สำหรับลูกค้าผู้มาใช้บริการ โดยจัดให้มีแอลกอฮอล์เจลฆ่าเชื้อที่จุดต่างๆ
เช่น เคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ หน้าลิฟท์ ประตูทางเข้า-ออก
และจุดที่มีคนหนาแน่นให้ครบถ้วน ให้ทำความสะอาดพื้นที่ที่มีการสัมผัสบ่อย
โดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อทุกครึ่งชั่วโมง เช่น ปุ่มลิฟท์โดยสาร
, ห้องลิฟท์โดยสาร,
ราวบันไดเลื่อน, ราวประตู, ราวกันตก, เคาท์เตอร์บริการต่างๆ, โทรศัพท์,รถเข็นเด็ก, รถ Wheelchair,
รถกอล์ฟ ทั้งในส่วนของศูนย์การค้า และอาคารสำนักงาน พ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อเพื่อทำความสะอาดในลิฟท์เป็นพิเศษทุกครึ่งชั่วโมง
ติดตั้งป้ายข้อความประชาสัมพันธ์ภายในศูนย์ฯ และบริเวณหน้าร้านค้าต่างๆ
ให้ความรู้เรื่องไวรัสโคโรน่า และแนะนำการปฎิบัติตนเมื่อพบว่ามีไข้ไม่สบาย ตรวจตราสบู่และกระดาษสำหรับล้างมือในทุกห้องน้ำให้มีเพียงพอและเตรียมพร้อมในการส่งลูกค้าไปโรงพยาบาลหากพบผู้มีอาการเสี่ยงต่อโรคดังกล่าว


นอกจากนี้ ทางศูนย์การค้าฯยังได้ขอความร่วมมือร้านค้าและผู้เช่าให้ดำเนินตามมาตรการในเรื่องการทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อในพื้นที่จุดสัมผัส
การตรวจคัดกรอง และดำเนินการตามมาตรการควบคุมและป้องกัน
ทั้งในส่วนของร้านค้าและลูกค้า โดยเน้นย้ำให้ร้านอาหารทำความสะอาดพื้นที่ทุก 1
ชั่วโมง ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ รวมทั้งทำความสะอาดโต๊ะอาหารด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
ให้ร้านค้าสำหรับเด็ก เช่น
Playland หรือร้านเกม ทำความสะอาดเครื่องเล่น
โดยน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 1 ชั่วโมง และให้โรงภาพยนตร์ฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อและทำความสะอาด
โดยน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 2 ชั่วโมง
สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล