เพื่อไทย 27 ม.ค.- ผู้นำฝ่ายค้านฯ เชื่อ วันนี้ ได้ข้อยุติถ้อยคำในญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมยื่นญัตติ 29 ม.ค. หรือช้ากว่านั้นไม่เกิน 2 วัน ขณะที่ “ธนาธร” ขอทุกฝ่ายเปิดใจร่วมตรวจสอบรัฐบาล ไม่มีอคติ มั่นใจ จะเห็นด้วยกัยฝ่ายค้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมนัดพิเศษของ 7 หัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้าน วันนี้ (27 ม.ค.) เพื่อหารือการเตรียมความพร้อมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ย้ำ จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ และวางตัวบุคคลที่จะอภิปรายให้เป็นไปอย่างมีคุณภาพ ข้อมูลแน่น ชัดเจน และเห็นว่า สนามซักฟอกนี้ ไม่ใช่สนามการฝึกพูด มั่นใจ ฝ่ายค้านพร้อมจะยื่นญัตติในวันที่ 29 มกราคม นี้ เป็นต้นไป แต่หากจะเลื่อนไป 1-2 วัน ก็ไม่กระทบกับกรอบเวลา เชื่อว่า วันนี้ จะได้ข้อยุติเรื่องถ้อยคำในร่างญัตติดังกล่าวที่จะยื่น
ด้าน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า กรอบใหญ่ที่ฝ่ายค้านได้หารือ คือ กรอบเศรษฐกิจ กรอบปัญหาทางด้านสังคมอื่นๆ ทิศทางการทำงานของประเทศ และกรอบการคอร์รัปชั่น ซึ่งพรรคอนาคตใหม่จะอธิบายไปในทิศทางดังกล่าว เชื่อมั่นว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจของ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านจะทำให้ประชาชน เห็นถึงความไม่มีประสิทธิภาพ และความล้มเหลวในการทำงานของรัฐบาลชุดนี้
“ขอให้ประชาชนและ ส.ส. ไม่ว่าฝ่ายใด ร่วมกันตรวจสอบ และพิจารณาสิ่งที่ฝ่ายค้านจะนำเสนอ หากฟังอย่างเปิดใจ และไม่ใช้อคติ เชื่อว่า สังคมจะเห็นคล้อยไปในทิศทางเดียวกันว่า ไม่สามารถไว้วางใจให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บริหารประเทศต่อไปได้” นายธนาธร กล่าว
นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า พรรคฝ่ายค้านจำเป็นต้องอภิปรายเรื่องจริยธรรมของรัฐมนตรี และยืนยันว่ามีหลักฐานที่สามารถจับต้องได้ เพราะมีประชาชนส่งเข้ามาให้จำนวนมาก รวมถึง เรื่องการปฏิรูปที่มีแต่เพียงตัวหนังสือ แต่ในเชิงปฏิบัติกลับไม่มีความคืบหน้า โดยเฉพาะเรื่องการปฏิรูปการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ แต่กลับล้มเหลว
ด้าน นพ.เรวัต วิศรุตเวช รองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรค จะพุ่งเป้าไปที่ปมปัญหาการถวายสัตย์ปฏิญาณตนของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี และะนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ ยังมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรณีที่คณะกรรมการสรรหา ส.ว.ได้เลือกตัวเองเข้ามาดำรงตำแหน่ง ส.ว. รวมถึง ประเด็นที่รัฐบาลเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุน โดยเฉพาะโครงการอีอีซี ที่มีการใช้อำนาจตามมาตรา 44
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมวันนี้ ไม่มีตัวแทนจากพรรคเศรษฐกิจใหม่มาร่วมประชุมแต่อย่างใด .- สำนักข่าวไทย