พรุ่งนี้ กต.เตรียมถกอพยพคนออกจากอู่ฮั่น หรือไม่

กรุงเทพฯ 26 ม.ค.-รมว.ต่างประเทศเผยกำชับสถานเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ติดตามสถานการณ์โรคโคโรนาในอู่ฮั่นอย่างใกล้ชิด ยืนยันคนไทยยังปลอดภัยดี แต่ห่วงความเป็นอยู่หลังปิดเมือง เตรียมประชุมวางมาตรการดูแลต่อพรุ่งนี้ หลังจากเกิดกระแสข่าวเตรียมอพยพเคลื่อนคนไทยในอู่ฮั่นด้วยเครื่องบิน C130  ขณะที่กระทรวงคมนาคม เตรียม เครื่องบินพาณิชย์อพยพนักท่องเที่ยว


นายดอน ปรมัตวินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์  “สำนักข่าวไทย” ถึงการดูแลคนไทยในเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน จากกรณีเชื้อไวรัสโคโรนาระบาดหนักว่า สถานเอกอัครราชทูตไทย และสถานกงสุลใหญ่ที่ประจำอยู่ทุกแห่งในประเทศจีนได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และตรวจสอบคนไทยที่อยู่ในเมืองนี้ทั้งนักศึกษาจำนวน 54 คน และคนที่ทำงาน 10 คน ยังปลอดภัยดี แต่ก็มีความเป็นห่วงว่าเมื่อจีนปิดเมือง และสถานการณ์ยืดเยื้อออกไป จะส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน ดังนั้นในวันพรุ่งนี้ (27 ม.ค.) จะหารือกับผู้แทนของสถานเอกอัครราชทูตไทย และสถานกงสุลใหญ่ที่ประจำอยู่ทุกแห่งในประเทศจีนผ่านระบบการสื่อสารผ่านทางไกลหรือเทเลคอนเฟอร์เรนซ์ เพื่อวางมาตรการในการดูแลต่อไป ทั้งนี้ในเบื้องต้นยังไม่มีรายงานว่าคนไทยต้องการอพยพกลับ เพียงแต่รับทราบว่าทุกคนปลอดภัย ดังนั้นการจะอพยพคนไทยหรือไม่ จะต้องรอดูสถานการณ์อีกระยะหนึ่ง ซึ่งได้ย้ำให้ทางสถานทูตและกงสุลใหญ่ดูแลคคนไทยที่จีนอย่างใกล้ชิด


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายดอน ยังกล่าวย้ำกว่า เข้าใจสภาพความเป็นอยู่ เนื่องจากรับรู้ว่าเวลาเมืองปิด ไม่มีใครเข้า-ออก เป็นสภาวะที่อึดอัด และอาจจะกระทบด้านจิตใจ แต่ข้อสำคัญคือขณะนี้ต้อง ดูแลตัวเอง ป้องกันตัวเอง ไม่เข้าไปในชุมชน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า จากประสบการณ์โดยตรงกับโรคระบาดโรคซาร์ในอดีต เมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ประกอบการสั่งการของรัฐบาลจีนมีประสิทธิภาพ เชื่อว่าจีนจะสามารถควบคุมโรคได้   


ก.คมนาคม เตรียมประสานไทยสมายล์ รับคนไทยตกค้างในจีน   

 

ด้าน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงคมนาคมได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว หาก กระทรวงต่างประเทศ ประสานมายังคมนาคมเพื่อให้นำเครื่องบิน ของบริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) ไปรับคนไทยในประเทศจีนกลับ หนีการระบาดของโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยขั้นตอนก่อนที่จะไปรับคนไทยกลับมา รัฐบาลคงต้องมีการหารือร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น กระทรวงต่างประทศ กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธาณสุข เพื่อเตรียมมาตรการรองรับ โดยเฉพาะต้องมีสถานที่และบุคลกรแพทย์ เพื่อให้คนไทยที่กลับมาพักเพื่อฝ้าระวังและสังเกตอาการ 

นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่หรือ ดีดี. บริษัท การบินไทยจำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่าได้รับแจ้งจากผู้บริหารสายการบินไทยสมายล์ (THAI Smile) ว่าได้รับการประสานงานจากกระทรวงการต่างประเทศให้เตรียมพร้อม อาจจะต้องมีการทำการบินไปรับคนไทยที่ตกค้างที่เมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน จากสถานการณ์ ไวรัสปอดอักเสบโคโรนา เบื้องต้นทราบว่ามีคนไทย ที่ตกค้างอยู่ประมาณ 100 คน ดังนั้นขนาดของเครื่องบินไทยสมายล์ จึงมีความเหมาะสมที่จะทำการบินในภารกิจดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามยังไม่ได้รับคำยืนยันอย่างชัดเจน ว่าไทยสมายล์ หรือการบินไทย จะต้องทำการบินภารกิจ หรือจะเป็นภารกิจของกองทัพอากาศ เนื่องจากการจะทำการบินไปรับผู้โดยสารพิษตกค้างนั้น จะต้องมีการประสานงานทางการจีนเพื่อให้ได้ SLOTการบินที่ชัดเจน ทั้งเที่ยวบินขาไปและขากลับ เพื่อให้เกิดความราบรื่นในการปฏิบัติภารกิจ

นักศึกษาไทยในอู่ฮั่นขอความช่วยเหลือกลับไทย

จากข้อมูลเฟซบุ๊กของนักศึกไทย ในมหาวิทยาลัยอู่ฮั่น  Pasnicha Krutdamrongchai ได้โพสต์เรื่องราวชีวิต ในเมืองอู่ฮั่น ขณะนี้ว่า เราเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยอู่ฮั่น ขอแจ้งสถานการณ์จริงของแท้ ที่นักศึกษาส่วนใหญ่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้ นักศึกษาส่วนใหญ่ไม่มีอาหารเพียงพอเพราะไม่ได้ซื้ออาหารกักตุนไว้ เนื่องจากได้รับแจ้งเรื่องการปิดเมืองกระทันหันมาก และไม่สามารถออกไปหาซื้อที่ไหนได้ เพราะเดินทางไปไหนไม่ได้ ร้านซุปเปอร์ใกล้มหาวิทยาลัยก็ขายหมดเกลี้ยงไม่มีอะไรเหลือ ตอนนี้เพื่อนนักศึกษาต่างชาติ เช่น อเมริกา ญี่ปุ่น อินโด เขาได้รับแจ้งว่าทางสถานทูตของเขาได้เตรียมดำเนินการเพื่อจะรับตัวกลับแล้ว เราก็รอความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทยอยู่ ถ้ายังอยู่ต่อ ไม่รู้ว่าจะอดอาหารตาย หรือติดเชื้อตาย อยากกลับบ้านมาก รอด้วยความหวัง ด้วยความเคารพ #ไวรัสโคโรนา #ไวรัสอู่ฮั่น 

สถานทูตไทยในจีน ขอให้คนไทยติดตามข่าวสารต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน ประกาศสถานเอกอัครราชฑูตไทย ประจำกรุงปักกิ่ง ได้ออกประกาศย้ำว่า ขอให้ชาวไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีนที่อาศัยอยู่ในนครอู่ฮั่นและพื้นที่โกล้เคียง ติดตามและปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงนกางการของจีนอย่างเคร่งครัด และเพิ่มความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือสถานที่ที่มีมลภาวะเป็นพิษ ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น รักษาร่างกายให้อบอุ่นเสมอ หากมีอาการเริ่มป่วย เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจติดขัด ขอให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบอาการโดยทันที  2 ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติตต่ออย่างไกล้ชิด โดยสามารถติตตามข้มูลเพิ่มเติมได้จาก website ของคณะกรรมาธิการด้านสาธารณสุขแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน  3  ขอให้ชาวไทยที่ทำพักอาศัยอยู่ในอู่ฮั่นหรือมณฑลหูเป่ย์ในขณะนี้ ลงทะเบียนแจ้งชื่อและข้อมูลการติดต่อ โดยสแกนQR Code ที่อยู่ด้านล่างของประกาศฉบับนี้ 4. กรณีเหตุฉุกเฉิน สามารถติตต่อสถานเอกอัครราชทูต ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 157-2731-2531 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย