พรุ่งนี้ กต.เตรียมถกอพยพคนออกจากอู่ฮั่น หรือไม่

กรุงเทพฯ 26 ม.ค.-รมว.ต่างประเทศเผยกำชับสถานเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ติดตามสถานการณ์โรคโคโรนาในอู่ฮั่นอย่างใกล้ชิด ยืนยันคนไทยยังปลอดภัยดี แต่ห่วงความเป็นอยู่หลังปิดเมือง เตรียมประชุมวางมาตรการดูแลต่อพรุ่งนี้ หลังจากเกิดกระแสข่าวเตรียมอพยพเคลื่อนคนไทยในอู่ฮั่นด้วยเครื่องบิน C130  ขณะที่กระทรวงคมนาคม เตรียม เครื่องบินพาณิชย์อพยพนักท่องเที่ยว


นายดอน ปรมัตวินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์  “สำนักข่าวไทย” ถึงการดูแลคนไทยในเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน จากกรณีเชื้อไวรัสโคโรนาระบาดหนักว่า สถานเอกอัครราชทูตไทย และสถานกงสุลใหญ่ที่ประจำอยู่ทุกแห่งในประเทศจีนได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และตรวจสอบคนไทยที่อยู่ในเมืองนี้ทั้งนักศึกษาจำนวน 54 คน และคนที่ทำงาน 10 คน ยังปลอดภัยดี แต่ก็มีความเป็นห่วงว่าเมื่อจีนปิดเมือง และสถานการณ์ยืดเยื้อออกไป จะส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน ดังนั้นในวันพรุ่งนี้ (27 ม.ค.) จะหารือกับผู้แทนของสถานเอกอัครราชทูตไทย และสถานกงสุลใหญ่ที่ประจำอยู่ทุกแห่งในประเทศจีนผ่านระบบการสื่อสารผ่านทางไกลหรือเทเลคอนเฟอร์เรนซ์ เพื่อวางมาตรการในการดูแลต่อไป ทั้งนี้ในเบื้องต้นยังไม่มีรายงานว่าคนไทยต้องการอพยพกลับ เพียงแต่รับทราบว่าทุกคนปลอดภัย ดังนั้นการจะอพยพคนไทยหรือไม่ จะต้องรอดูสถานการณ์อีกระยะหนึ่ง ซึ่งได้ย้ำให้ทางสถานทูตและกงสุลใหญ่ดูแลคคนไทยที่จีนอย่างใกล้ชิด


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายดอน ยังกล่าวย้ำกว่า เข้าใจสภาพความเป็นอยู่ เนื่องจากรับรู้ว่าเวลาเมืองปิด ไม่มีใครเข้า-ออก เป็นสภาวะที่อึดอัด และอาจจะกระทบด้านจิตใจ แต่ข้อสำคัญคือขณะนี้ต้อง ดูแลตัวเอง ป้องกันตัวเอง ไม่เข้าไปในชุมชน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า จากประสบการณ์โดยตรงกับโรคระบาดโรคซาร์ในอดีต เมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ประกอบการสั่งการของรัฐบาลจีนมีประสิทธิภาพ เชื่อว่าจีนจะสามารถควบคุมโรคได้   


ก.คมนาคม เตรียมประสานไทยสมายล์ รับคนไทยตกค้างในจีน   

 

ด้าน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงคมนาคมได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว หาก กระทรวงต่างประเทศ ประสานมายังคมนาคมเพื่อให้นำเครื่องบิน ของบริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) ไปรับคนไทยในประเทศจีนกลับ หนีการระบาดของโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยขั้นตอนก่อนที่จะไปรับคนไทยกลับมา รัฐบาลคงต้องมีการหารือร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น กระทรวงต่างประทศ กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธาณสุข เพื่อเตรียมมาตรการรองรับ โดยเฉพาะต้องมีสถานที่และบุคลกรแพทย์ เพื่อให้คนไทยที่กลับมาพักเพื่อฝ้าระวังและสังเกตอาการ 

นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่หรือ ดีดี. บริษัท การบินไทยจำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่าได้รับแจ้งจากผู้บริหารสายการบินไทยสมายล์ (THAI Smile) ว่าได้รับการประสานงานจากกระทรวงการต่างประเทศให้เตรียมพร้อม อาจจะต้องมีการทำการบินไปรับคนไทยที่ตกค้างที่เมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน จากสถานการณ์ ไวรัสปอดอักเสบโคโรนา เบื้องต้นทราบว่ามีคนไทย ที่ตกค้างอยู่ประมาณ 100 คน ดังนั้นขนาดของเครื่องบินไทยสมายล์ จึงมีความเหมาะสมที่จะทำการบินในภารกิจดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามยังไม่ได้รับคำยืนยันอย่างชัดเจน ว่าไทยสมายล์ หรือการบินไทย จะต้องทำการบินภารกิจ หรือจะเป็นภารกิจของกองทัพอากาศ เนื่องจากการจะทำการบินไปรับผู้โดยสารพิษตกค้างนั้น จะต้องมีการประสานงานทางการจีนเพื่อให้ได้ SLOTการบินที่ชัดเจน ทั้งเที่ยวบินขาไปและขากลับ เพื่อให้เกิดความราบรื่นในการปฏิบัติภารกิจ

นักศึกษาไทยในอู่ฮั่นขอความช่วยเหลือกลับไทย

จากข้อมูลเฟซบุ๊กของนักศึกไทย ในมหาวิทยาลัยอู่ฮั่น  Pasnicha Krutdamrongchai ได้โพสต์เรื่องราวชีวิต ในเมืองอู่ฮั่น ขณะนี้ว่า เราเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยอู่ฮั่น ขอแจ้งสถานการณ์จริงของแท้ ที่นักศึกษาส่วนใหญ่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้ นักศึกษาส่วนใหญ่ไม่มีอาหารเพียงพอเพราะไม่ได้ซื้ออาหารกักตุนไว้ เนื่องจากได้รับแจ้งเรื่องการปิดเมืองกระทันหันมาก และไม่สามารถออกไปหาซื้อที่ไหนได้ เพราะเดินทางไปไหนไม่ได้ ร้านซุปเปอร์ใกล้มหาวิทยาลัยก็ขายหมดเกลี้ยงไม่มีอะไรเหลือ ตอนนี้เพื่อนนักศึกษาต่างชาติ เช่น อเมริกา ญี่ปุ่น อินโด เขาได้รับแจ้งว่าทางสถานทูตของเขาได้เตรียมดำเนินการเพื่อจะรับตัวกลับแล้ว เราก็รอความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทยอยู่ ถ้ายังอยู่ต่อ ไม่รู้ว่าจะอดอาหารตาย หรือติดเชื้อตาย อยากกลับบ้านมาก รอด้วยความหวัง ด้วยความเคารพ #ไวรัสโคโรนา #ไวรัสอู่ฮั่น 

สถานทูตไทยในจีน ขอให้คนไทยติดตามข่าวสารต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน ประกาศสถานเอกอัครราชฑูตไทย ประจำกรุงปักกิ่ง ได้ออกประกาศย้ำว่า ขอให้ชาวไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีนที่อาศัยอยู่ในนครอู่ฮั่นและพื้นที่โกล้เคียง ติดตามและปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงนกางการของจีนอย่างเคร่งครัด และเพิ่มความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือสถานที่ที่มีมลภาวะเป็นพิษ ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น รักษาร่างกายให้อบอุ่นเสมอ หากมีอาการเริ่มป่วย เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจติดขัด ขอให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบอาการโดยทันที  2 ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติตต่ออย่างไกล้ชิด โดยสามารถติตตามข้มูลเพิ่มเติมได้จาก website ของคณะกรรมาธิการด้านสาธารณสุขแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน  3  ขอให้ชาวไทยที่ทำพักอาศัยอยู่ในอู่ฮั่นหรือมณฑลหูเป่ย์ในขณะนี้ ลงทะเบียนแจ้งชื่อและข้อมูลการติดต่อ โดยสแกนQR Code ที่อยู่ด้านล่างของประกาศฉบับนี้ 4. กรณีเหตุฉุกเฉิน สามารถติตต่อสถานเอกอัครราชทูต ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 157-2731-2531 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]