หนุ่มเมาลงรถมาป่วน โดนสวนกลับฟุบพื้นถนน

นครสวรรค์ 22 ม.ค.-ชายเมาสุราหัวร้อนโดนบีบแตรขับรถปาดหน้า ลงรถไปหาเรื่องคู่กรณี-บุคคลในละแวกเกิดเหตุ โดนพลเมืองดีสวนกลับหมอบกลางถนน


ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Russarin Niyomchon ได้โพสต์ข้อความ”ช่วยนุ่นด้วยค่ะ” พร้อมกับมีการลงคลิปภาพเหตุการณ์ทะเลาะวิวาท โดยเกิดขึ้นในช่วงยามค่ำคืน บนถนนสายดาวดึงส์ อ.เมืองนครสวรรค์ ซึ่งคลิปวิดีโอความยาว  2.24 นาที  ได้เผยให้เห็นภาพชายรูปร่างท้วม ขับรถยนต์ มาจอดอยู่กลางถนนก่อนจะเปิดประตูรถเดินลงมาในสภาพคล้ายคนเมา ปรี่ตรงเข้าไปหาเรื่องหญิงที่กำลังใช้โทรศัพท์ถ่ายบันทึกภาพเห็นการณ์  โดยมีเสียงหญิงคนดังกล่าวได้พยายามร้องห้าม พร้อมกับระบุว่า “น้าขับรถไม่ดี และเป็นคนผิด”แล้วทันใดนั้น ชายร่างท้วมก็เกิดการกระทบกระทั่ง กับชายเสื้อแดงที่เดินเข้ามาช่วยเหลือหญิงสาว ก่อนที่จะพยายามทำร้ายชายเสื้อแดง แต่สุดท้ายชายเสื้อแดงทำร้ายกลับจนล้มไม่เป็นท่า ซึ่งในจังหวะนี้ มีผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เห็นท่าไม่ดี ต้องรีบมาห้ามปราม


อย่างไรก็ตามชายร่างท้วมยังคงมีอารมณ์ฉุนเฉียว เดินไปผลักรถจักรยานยนต์ของพนักงานส่งอาหารบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งจอดริมถนนในจุดเกิดเหตุจนล้มคว่ำ จึงทำให้เจ้าของรถที่เห็นเหตุการณ์เกิดความไม่พอใจอย่างรุนแรง เดินตรงเข้าไปต่อว่าชายร่างท้วมจนเกือบเกิดการวิวาทกันขึ้นอีกครั้ง  ก่อนที่ชายร่างท้วมจะรีบขึ้นรถแล้วขับออกไปทันที 

ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบทราบว่า เจ้าของคลิป คือ น.ส.รสรินทร์ หรือนุ่น นิยมชน เจ้าของกิจการรับออกแบบงานสิ่งพิมพ์ ได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ และเล่าว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 20.00 น. ของวันที่ 21 มกราคม ขณะกำลังขับรถยนต์เดินทางกลับบ้านหลังเลิกงาน แล้วปรากฏว่า ถูกชายร่างท้วมที่ขับรถ จากซอยข้างทางมาปาดหน้ารถตนอย่างกระชั้นชิด จนทำให้ต้องบีบแตรเตือนไป 1 ครั้ง แล้วกลายเป็นเรื่อง เมื่อชายร่างท้วมคนนั้น ได้เบรกจอดรถกะทันหัน พร้อมกับเดินลงรถมาต่อว่าตนด้วยคำหยาบคลาย ตนกลัวจะถูกทำร้าย เลยตัดสินใจวิ่งลงรถเข้าไปหาคนที่เห็นเหตุการณ์ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งชายร่างท้วมก็ยังเดินเข้ามาหาเรื่องไม่หยุด แล้วก็ไปชกต่อยกับคนที่เขาเข้ามาช่วยห้ามปรามถึง 2 คน จนกลายเป็นเหตุทะเลาะวิวาทชุลมุนตามที่ปรากฏในคลิป ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ ตนได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐานแล้ว แต่ไม่เอาเรื่อง เพราะตนไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกาย และรถยนต์ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด

น.ส.รสรินทร์ กล่าวว่าวันนี้ได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจ เพื่อมาเป็นพยานให้กับนายสามารถ ลีลา ซึ่งเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ถูกชายร่างท้วมผลักจนรถล้มได้รับความเสียหาย พร้อมกับเป็นพยานให้กับนายบรรดิษฐ์ วธิรวงค์ ชายเสื้อแดงที่ถูกชายร่างท้วมทำร้ายร่างกายก่อนด้วย ซึ่งทั้งหมดได้มาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน แต่ไม่ประสงค์จะเอาเรื่องคู่กรณี.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน

ทร.จับเรือประมงเมียนมารุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือระนอง จับกุมเรือประมงสัญชาติเมียนมา พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือ 6 คน ขณะรุกล้ำน่านน้ำไทย บริเวณน่านน้ำเกาะช้าง จ.ระนอง ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าวมาตรวจสอบที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง

แจ้งความเอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ลุยเอง ยื่นหลักฐานให้ตำรวจ ปปป. เอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ระบุทำกันมานานเกือบ 10 ปี พบทั้งข้าราชการ-อดีตข้าราชการ เอี่ยวประมาณ 20 คน

รู้เบาะแสคนร้ายชิงทอง 102 บาท คาดเป็นคนในพื้นที่

ตำรวจรู้เบาะแสคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง 102 บาท ภายในห้างดังกลางเมืองแม่สอด คาดยังหลบอยู่ในพื้นที่ สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ป้องกันคนร้ายหลบหนี พร้อมยกระดับมาตรการดูแลร้านทอง-ห้างสรรพสินค้า ป้องกันเหตุซ้ำรอย