นครศรีธรรมราช 19 ม.ค. –เทพไท ชี้ขาดลือล็อบบี้ไม่อภิปรายพลเอกประวิตร เป็นการดิสเครดิตทำประชาชนขาดความเชื่อมั่นระบบการเมืองไทย วอนทุกฝ่ายร่วมมือทำงานสร้างสรรค์ ฝ่ายค้าน-รัฐบาลต่างทำหน้าที่ตีแผ่และชี้แจง
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ของพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า เป็นมาตรการการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลตามกลไกของรัฐธรรมนูญ แต่จากกระแสข่าวที่ปรากฎออกมาในขณะนี้ มีการเปิดสงครามด้านข้อมูลข่าวสารอย่างเข้มข้น ก่อนจะมีการยื่นญัตติ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อพรรคร่วมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล เริ่มตั้งแต่มีกระแสข่าว ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย ออกมาคัดค้านการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หรือกระแสข่าวแกนนำพรรคเพื่อไทยแอบนัดจิบไวน์กับแกนนำของรัฐบาล รวมถึงกระแสข่าวการขอเงินงบประมาณ900ล้านบาทเพื่อแลกกับการไม่ใส่รายชื่อในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีบางคน ซึ่งกระแสข่าวทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นข่าวจริง ข่าวเท็จ ข่าวปล่อย เพื่อดิสเครดิตทำลายความน่าเชื่อถือการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ ย่อมมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ทางการเมืองทั้งสิ้น เพราะจะทำให้ประชาชนขาดความไว้วางใจ และขาดความเชื่อมั่นศรัทธาต่อระบบการเมืองไทย จึงอยากจะเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันทำงานการเมืองแบบสร้างสรรค์ เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรี และภาพพจน์ของฝ่ายการเมืองทั้งหมดให้เป็นที่ไว้วางใจของคนไทยทั่วทั้งประเทศ
นายเทพไท กล่าวว่า อยากให้พรรคร่วมฝ่ายค้านมีอิสระในการทำหน้าที่อภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างเต็มความสามารถ ตีแผ่เรื่องความไม่ชอบมาพากล เรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น การบกพร่องในการปฎิบัติหน้าที่ และประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาลโดยมีพยานหลักฐาน หรือใบเสร็จมาโชว์ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างชัดเจน ส่วนฝ่ายรัฐบาลซึ่งมีหน้าที่ตอบข้อซักถาม ข้อสงสัยของพรรคฝ่ายค้าน โดยใช้ผลงานออกมาหักล้าง ยืนยันความบริสุทธิ์ในการทำงาน ชี้แจงและตอบคำถามในลักษณะสร้างสรรค์ ไม่ควรจัดตั้งองครักษ์เพื่อตีรวน หรือขัดขวางการตรวจสอบ เพราะจะเป็นการทำลายบรรยากาศการอภิปรายไม่ไว้วางใจและไม่อยากเห็นการเมืองไทยเดินถอยหลังไปสู่ยุครัฐธรรมนูญ ปี 2521 หรือย้อนยุคการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยรัฐบาลของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ที่มีการเล่นเกม ล็อบบี้ ให้มีการถอนชื่อจนญัตติตกไป หรือทำทุกวิถีทางเพื่อสกัดกั้นไม่ให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการทำลายกลไกการตรวจสอบของฝ่ายค้านต่อฝ่ายรัฐบาลตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ.-สำนักข่าวไทย