นนทบุรี 17 ม.ค. – อธิบดีกรมการค้าภายใน ย้ำราคาหมูแพงเหตุโตช้า แต่เฝ้าระวัง หากเกินกว่านี้คุมส่งออกและเชื่อมโยงตลาด ส่วนน้ำมันปาล์มขวดไม่ขาดตลาดแน่
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาเนื้อหมูที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงนี้ มาจากปัญหาภัยแล้ง ส่งผลให้หมูโตช้า ทำให้ต้นทุนการเลี้ยงเพิ่มขึ้น และไทยมีการส่งออกเนื้อหมูเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 80 หรือวันละประมาณ 6,000-8,000 ตัว มาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากหลายประเทศเกิดการแพร่ระบาดอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ทำให้ราคาหมูหน้าฟาร์ม 70-75 บาทต่อกิโลกรัม และขายปลีก 150-160 บาทต่อกิโล
อย่างไรก็ตาม กรมฯ ยังคงมั่นใจว่าไทยจะมีปริมาณหมูเพียงพอบริโภคภายในประเทศ พร้อมกันนี้เตรียมจำกัดปริมาณส่งออกและแทรกแทรงราคาผ่านกลไกตลาด เช่น การขอความร่วมมือห้างสรรพสินค้าให้ตรึงราคา และจำหน่ายหมูราคาประหยัดผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐทันที หากราคาหมูหน้าฟาร์มปรับเพิ่มเกิน 80 บาทต่อกิโลกรัม และขายปลีกเกิน 160 บาทต่อกิโลกรัม และคาดว่าประมาณเดือนมิถุนายนนี้ราคาหมูจะปรับลดลง เนื่องจากหมดช่วงฤดูฝนหมูจะเติบโตได้เร็วขึ้น ปริมาณให้เนื้อดีกว่าช่วงฤดูร้อน โดยปัจจุบันไทยมียอดผลิตหมูปีละประมาณ 22 ล้านตัว เพียงพอทั้งการส่งออกและบริโภคภายในประเทศแน่นอน
นายวิชัย กล่าวอีกว่า ส่วนโครงการประกันรายได้ชาวสวนปาล์มงวดต่อไปยังคงไม่ต้องจ่ายส่วนต่างให้กับเกษตรกรต่อเนื่อง หลังจากตั้งแต่เริ่มต้นโครงการจ่ายเงินงวดแรกวันที่ 1 ตุลาคม 2562 และจ่ายทุก 45 วัน จ่ายไปแค่ 2 งวดเท่านั้น เนื่องจากราคาผลปาล์มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จนปัจจุบันทะลุ 7 บาทต่อกิโลกรัมแล้ว แต่ถือว่าให้ประโยชน์กับเกษตรกร หลังจากประสบปัญหาราคาตกต่ำมาเป็นปี ส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศสูงถึงกิโลกรัมละ 39 บาท แต่ราคาในตลาดโลกอยู่ที่ 22-23 บาทเท่านั้น จนเกิดกระแสข่าวว่าจะอนุญาตให้มีการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบจากต่างประเทศ ซึ่งยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และตั้งข้อสังเกตว่าคนปล่อยข่าวมีเจตนาจะกดราคาผลปาล์มของเกษตรกร ซึ่งการจะออกมาตรการใด ๆ เกี่ยวกับการดูแลปาล์มน้ำมัน จะต้องพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติเท่านั้น และหากยังพบมีการปล่อยข่าวผ่านสื่อโซเชียลมีเดียจะมีการนำมาตรการทางกฎหมายมาใช้ทันที
ส่วนสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดขณะนี้ยอมรับว่าราคาสูงขึ้นตามต้นทุนวัตถุดิบ แต่เชื่อว่าสถานการณ์จะเป็นเพียงช่วงสั้น ไม่เกิดการขาดแคลนในประเทศอย่างแน่นอน และราคาจำหน่ายเวลานี้เฉลี่ยอยู่ที่ขวดละ 42 บาท ถือว่ายังอยู่ในระดับราคาที่ไม่สูงเกินสมควร เพราะเป็นราคาที่ได้ขอความร่วมมือกับเอกชนไม่ให้จำหน่ายเกินขวดละ 42 บาท และในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์จะเป็นช่วงที่ผลปาล์มออกสู่ตลาดอีกครั้งราคาจะมีการปรับตัวลดลง ส่วนความคืบหน้าการติดมิเตอร์วัดสตอกน้ำมันปาล์มของโรงงานสกัดนั้น หลังจากงบประมาณผ่านการพิจารณาแล้ว จะสามารถเดินหน้าติดตั้งได้ทั้ง 400 แห่งทั่วประเทศทันที คาดว่าจะใช้เวลาในการดำเนินการติดตั้งไม่เกิน 6 เดือน เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย