แบงก์กรุงเทพตั้งเป้าสินเชื่อปีนี้โตร้อยละ 3 – 5

กรุงเทพฯ 15 ม.ค. – แบงก์กรุงเทพตั้งเป้าสินเชื่อปีนี้โตร้อยละ 3 – 5 หวังการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรัฐกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศฟื้น พร้อมจับมือเคอรี่เปิดบริการทางการเงินครบวงจร หนุนธุรกิจอี-คอมเมิร์ซไทย


นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า สินเชื่อปีนี้เติบโตร้อยละ 3 – 5 ซึ่งเป็นไปตามการขยายตัวของจีดีพี และเชื่อว่าการที่ภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาเสถียรภาพ ทำให้ความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้เกิดการใช้จ่ายและเศรษฐกิจในประเทศเกิดการหมุนเวียนและสร้างรายได้เพิ่ม โดยภาพรวมสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อปีนี้ใกล้เคียงกันทั้งรายใหญ่ รายกลาง รายย่อย และเอสเอ็มอี ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ธนาคารพยายามควบคุมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยธนาคารเน้นบริหารจัดการเองไม่ได้มีการขายเอ็นพีแอลออกแต่อย่างใด


ทั้งนี้ ปัจจุบันธุรกิจอี-คอมเมิร์ซไทยมีมูลค่าการซื้อขายสินค้าสูงกว่า 3.05 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ยร้อยละ 8 – 10 ต่อปี ขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) กลุ่มอุตสาหกรรมค้าปลีกและค้าส่งมีมูลค่าสินเชื่อสูงถึง 1.34 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของมูลค่าสินเชื่อเอสเอ็มอีทั้งหมด การเข้าถึงลูกค้ากลุ่มนี้เพิ่มขึ้น จึงช่วยเพิ่มโอกาสการขยายสินเชื่อ ตลอดจนบริการทางการเงินอื่นในอนาคต ธนาคารกรุงเทพจึงลงนามความร่วมมือกับบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) ในฐานะ Exclusive Finanncial Partner เพื่อพัฒนาบริการทางการเงินแบบครบวงจร โดยเริ่มนำระบบชำระเงินผ่าน PromptPay QR Code เข้ามาสนับสนุนการทำธุรกรรมด้านการชำระเงินรูปแบบต่าง ๆ เช่น การชำระค่าส่งพัสดุด่วนที่เคอรี่ เอ็กเพรส พาร์เซลชอป และบริการสั่งซื้อสินค้าแบบชำระเงินปลายทาง (Cash on Delivery – COD) เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจอี-คอมเมิร์ซไทย พร้อมกันนี้ได้จัดแคมเปญพิเศษให้ลูกค้าสมาชิกผู้ส่งสินค้าผ่านเคอรี่สามารถใช้บริการ “สินเชื่อ SMEs small loan” ด้วยวงเงินอนุมัติสูงสุดถึง 2 ล้านบาท พร้อมอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดร้อยละ 8 ต่อปี โดยไม่ต้องมีหลักประกัน ซึ่งความร่วมมือนี้ได้เริ่มให้บริการแล้วในเขตกรุงเทพมหานครและจะขยายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ต่อไป

นายคอเล็กซ์ อึ้ง กรรมการผู้อานวยการใหญ่ เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) กล่าวว่า เคอรี่ เอ็กซ์เพรส มียอดการจัดส่งพัสดุวันละ 1 ล้านชิ้น ผ่านจุดให้บริการกว่าหมื่นจุดทั่วประเทศ ซึ่งเชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้ จะช่วยยกระดับขีดความสามารถด้านการจัดส่งพัสดุด่วนของเคอรี่เอ็กซ์เพรสเพิ่มขึ้น ลูกค้าก็สะดวกขึ้น มีโอกาสขายของมากขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทลดภาระต้นทุนการจัดการเงินสดลงไปด้วย โดยเฉพาะการบริการจัดส่งพัสดุแบบเก็บเงินปลายทางที่เริ่มทดลองบริการในช่วงปลายปีก่อน และหลังความร่วมมือมียอดให้บริการเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 40 พร้อมช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้กับผู้ประกอบธุรกิจอี-คอมเมิร์ซเติบโตอย่างแข็งแรง . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง