กองทุนบัวหลวงประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้ ขยายตัว 2.8%

กรุงเทพฯ 10 ม.ค. –  กองทุนบัวหลวง ประเมินทิศทางเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวได้ 2.8% ส่วนค่าเงินบาทคาดการณ์เคลื่อนไหวในกรอบ 29-31 บาท โดยนักลงทุนต้องพร้อมเผชิญความท้าทายรอบด้าน ขณะที่ เศรษฐกิจโลกปีนี้ คาดว่าจะขยายตัวได้น้อยลงที่ 3-3.3% จากความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น ทั้งความตึงเครียดทางการค้าและปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ส่วนความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน น่าจะเริ่มผ่อนคลาย เป็นผลดีต่อทิศทางตลาด 


นางสาวมิ่งขวัญ ทองพฤกษา Chief Economist บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือกองทุนบัวหลวง เปิดเผยว่า กองทุนบัวหลวง คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยทั้งปี 2563 จะขยายตัวได้ 2.8% โดยเศรษฐกิจจะต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน ทั้งจากการบริโภคในประเทศที่คงจะขยายตัวได้ไม่มาก เพราะได้รับผลกระทบปัญหาภัยแล้ง รายได้เกษตรที่ลดลง รวมถึงภาระหนี้ที่สูง ทำให้กำลังซื้อลดลงต่อเนื่อง ส่วนการส่งออก อาจจะดีกว่าปีที่ผ่านมาจากฐานต่ำ แต่คงไม่ได้ขยายตัวมากนัก ดังนั้น การลงทุนภาครัฐจึงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจในปีนี้

ส่วนประเด็นสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านที่เกิดขึ้นนั้น จะมีผลกระทบต่อราคาน้ำมัน แต่เนื่องจากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ดังนั้น ราคาน้ำมันเบรนท์ก็น่าจะวิ่งอยู่ในระดับไม่เกิน 70 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อของไทยน่าจะยืนอยู่ในระดับต่ำกว่า 1.0% ได้ ขณะที่การส่งออกสุทธิของไทยอาจได้รับผลกระทบบ้างจากราคาน้ำมันแต่อยู่ในระดับจำกัด ยกเว้นความตึงเครียดจะยกระดับขึ้นมาอีกครั้ง  


สำหรับทิศทางค่าเงินบาทปีนี้ กองทุนบัวหลวง ประเมินว่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 29-31 บาท โดยปัจจัยที่อาจส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงกว่าในปัจจุบันที่อยู่เหนือ 30 บาทเล็กน้อย จะมาจาก 1.ดุลการค้าที่คงไม่ดีเท่ากับปีก่อน 2.ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่จะเพิ่มความต้องการของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มากขึ้น และ 3.อัตราเงินเฟ้ออาจจะปรับตัวสูงขึ้น ภายใต้สมมติฐานราคาน้ำมันที่จะปรับตัวขึ้น หากสถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านยืดเยื้อ 

เศรษฐกิจโลกในปีนี้คงจะขยายตัวได้ 3.0%-3.3% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ชะลอลง เป็นผลมาจากภาคอุตสาหกรรมทั่วโลกกำลังหดตัว ส่วนความตึงเครียดด้านการค้าและภูมิรัฐศาสตร์ก็เป็นตัวแปรที่ทำให้เกิดความไม่แน่นอนมากขึ้นในระบบการค้าโลก หากต้องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกให้เติบโตต่อไปได้ในปีนี้ก็คงต้องพึ่งพาการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย เพื่อลดผลกระทบความตึงเครียดในตลาดเงินและเศรษฐกิจ 

ส่วนการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ที่จะจัดขึ้นในเดือน พ.ย. นี้ คาดการณ์โดยอิงจากข้อมูลการเลือกตั้งในอดีตว่าตลาดตราสารหนี้และตลาดทุนน่าจะผันผวนต่อเนื่องไปจนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง โดยการลงทุนและความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในปีเลือกตั้งมักจะชะลอตัวลง แต่ไม่มีผลกระทบต่อการเติบโตของค่าจ้างแรงงาน ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค รวมถึงพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอย ดังนั้น ถึงแม้การลงทุนภาคเอกชนในสหรัฐฯ จะลดลง แต่น่าจะได้รับแรงหนุนจากการบริโภคที่เติบโตมาทดแทนได้ ทำให้ภาพรวมการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ครั้งนี้ อาจไม่ได้มีผลกระทบกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร

เชิญชวนร่วมงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025”

“กำภู-รัชนีย์” พาทัวร์งาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025” ณ ลานจอดรถ บมจ.อสมท พบปะผู้ประกาศ ดีเจ และอินฟลูเอนเซอร์ รวมไปถึงศิลปินที่จะมาร่วมสนุกในงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟู ปาร์ตี้ 2025”