ราชบุรี 7 ม.ค.- หน.ฝ่ายจัดสรรน้ำฯ ชป.13 รับมือน้ำเค็มหนุนแม่น้ำลำคลองพื้นที่ราชบุรี เชื่อป้องกันได้ นำข้อมูลปัญหาปี 58 มาวิเคราะห์ ตรวจสอบน้ำทุกระยะ หากพบค่าความเค็มสูงเกินผลักดันทันที ส่วนภัยแล้งคาดไม่รุนแรง วางแผนจัดสรรน้ำเป็นระบบ
นายเฉลิมวรรษ อินทชัยศรี หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาดำเนินสะดวก สำนักชลประทานที่ 13 กรมชลประทาน เปิดเผยถึงภาวะน้ำทะเลหนุนสูงส่งผลให้แม่น้ำลำคลองมีภาวะค่าความเค็มว่า อ.ดำเนินสะดวก และ อ.บางแพ ของจังหวัดราชบุรีมีพื้นที่ติดกับจังหวัดสมุทรสาครและสมุทรสงคราม ซึ่งทั้งสองจังหวัดนั้นเป็นพื้นที่ติดกับทะเล ดังนั้น ราชบุรีจึงมีโอกาสที่จะเกิดน้ำเค็มเข้ามาได้เหมือนปี 2558 ทางสำนักชลประทานที่ 13 ได้นำข้อมูลปัญหาในครั้งนั้นมาวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางป้องกัน และเชื่อมั่นว่าน้ำเค็มไม่สามารถเข้ามาได้ในพื้นที่ เพราะมีการสร้างประตูระบายน้ำในคลองสายหลักหลายแห่งที่ติดกับสมุทรสงครามและสมุทรสาคร เพื่อปิดกั้นน้ำเค็ม นอกจากนี้ ได้ตรวจวัดค่าความเค็มในน้ำทุกวัน หากน้ำเค็มเข้ามามากเกินไป ทางชลประทานสามารถประสานปล่อยน้ำจืดจากเขื่อนในจังหวัดกาญจนบุรีผลักดันน้ำเค็มออกทันที
นายเฉลิมวรรษ กล่าวถึงภัยแล้งว่า กรมชลประทานได้วางแผนบริหารจัดการน้ำไว้เป็นช่วงระยะเวลา พร้อมประเมินสถานการณ์น้ำต้นทุนของเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณในช่วงฤดูแล้งมีปริมาณน้ำใช้การได้ ประมาณ 9,200 ล้าน ลบ.ม. โดยได้วางแผนจัดสรรน้ำไว้ทั้งหมด 5,700 ล้าน ลบ.ม. แยกเป็นการเกษตร 3,180 ล้าน ลบ.ม. เพื่ออุปโภคบริโภค 460 ล้านลบ.ม. และรักษาระบบนิเวศน์ รวมทั้งระบบอื่น ๆ 2,060 ล้าน ลบ.ม. สนับสนุนการเพาะปลูกประมาณ 2.07 ล้านไร่ คาดว่าตามแผนดังกล่าว จะทำให้ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ราชบุรีไม่ส่งผลกระทบมากนัก.-สำนักข่าวไทย