กรมชลฯ เร่งระบายน้ำควบคุมความเค็มแม่น้ำบางปะกง

กรุงเทพฯ 17 ธ.ค. – อธิบดีกรมชลประทานสั่งการเร่งระบายน้ำจากเขื่อนสียัดและอ่างเก็บน้ำคลองระบมเพื่อควบคุมค่าความเค็มแม่น้ำบางปะกง บรรเทาภาวะน้ำเค็มเริ่มรุก ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปาและการทำเกษตรในเขตจังหวัดฉะเชิงเทราและปราจีนบุรี นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า สั่งการให้สำนักงานชลประทานที่ 9 ดำเนินการตามแผนควบคุมความเค็มในลุ่มน้ำบางปะกงในช่วงฤดูแล้งปี 2564/65 โดยระบายน้ำผ่านฝายท่าลาด จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งรับน้ำที่ระบายจากอ่างเก็บน้ำคลองสียัดในเกณฑ์ 1.7 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วัน และอ่างเก็บน้ำคลองระบม 0.3 ล้าน ลบ.ม./วัน วันนี้ (17 ธ.ค.) วัดค่าความเค็มในแม่น้ำบางปะกงที่จุดเริ่มต้นควบคุมความเค็มที่เขื่อนบางปะกง ระยะทาง 66 กิโลเมตรจากปากแม่น้ำได้  0.22 กรัม/ลิตรซึ่งอยู่ในเกณฑ์ควบคุม โดยดำเนินการควบคุมค่าความเค็มตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค. เป็นต้นมา เพื่อรักษาคุณภาพน้ำในเขตจังหวัดฉะเชิงเทราและปราจีนบุรีให้สามารถใช้ผลิตน้ำประปาและทำการเกษตรได้ตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

ราชบุรีวิเคราะห์ปัญหาปี 58 สกัดน้ำเค็มรุกแม่น้ำลำคลอง

หน.ฝ่ายจัดสรรน้ำฯ ชป.13 รับมือน้ำเค็มหนุนแม่น้ำลำคลองพื้นที่ราชบุรี เชื่อป้องกันได้ นำข้อมูลปัญหาปี 58 มาวิเคราะห์ ตรวจสอบน้ำทุกระยะ หากพบค่าความเค็มสูงเกินผลักดันทันที ส่วนภัยแล้งคาดไม่รุนแรง วางแผนจัดสรรน้ำเป็นระบบ

แล้งหนักกระทบผลิตน้ำประปาส่วนภูมิภาค

สถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงที่มีความรุนแรงสูงสุดในรอบ 50 ปี ประกอบกับปีนี้แล้งจัด น้ำในเขื่อนมีน้อย ไม่พอปล่อยมาผลักดันน้ำเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา นอกจากจะส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตร ยังเดือดร้อนไปถึงการผลิตน้ำประปาส่วนภูมิภาคด้วย

รับมือน้ำเค็มหนุน กระทบพื้นที่เกษตรนนทบุรี

อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำเค็มที่เกิดน้ำทะเลหนุน ขณะที่เมื่อคืนนี้ เกษตรกรตรวจวัดค่าความเค็มสูงเกินมาตรฐานสำหรับการทำเกษตรแล้ว ด้านเกษตรกรในพื้นที่เตรียมรับมือและบอกว่าปีนี้ปัญหาน้ำเค็มรุกมาเร็วกว่าทุกปี

...