สธ.6 ม.ค.-“อนุทิน”ย้ำไทยยังไม่มีผู้ป่วยไวรัสปอดอักเสบจากจีน มีแค่เฝ้าระวังคนเดินทางกลับจากอู่ฮัน 4 คน เป็นเด็กชายชาวจีน 1 คน วัย 3 ขวบ นักศึกษาหญิงชาวไทย 2 คนเรียนที่เมืองอู่ฮัน และนักท่องเที่ยวหญิงวัย 40 ปี 1 คน ขณะนี้ทุกคนอาการดีขึ้น มีป่วยไข้หวัด H3N2 และสายพันธุ์ c
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเยี่ยมชมหอผู้ป่วยแยกโรคติดเชื้อความดันต่ำ หรือเนกาทีฟเพสเชอร์ ที่ใช้ในการเฝ้าระวังดูอาการผู้ป่วยต้องสงสัย โรคไวรัสปอดอักเสบจากประเทศจีน ว่า ขณะนี้ไม่อยากให้ประชาชนวิตกกังวลถึงโรคดังกล่าว เพราะยังสามารถควบคุมได้ และองค์การอนามัยโลกยังไม่ประกาศห้ามการเดินทางระหว่างประเทศ
ส่วนมาตรการของไทยมีการปูพรมเฝ้าระวังตั้งแต่ต้นทางเข้าประเทศ ในสนามบินสุวรรณภูมิที่มี 3 เที่ยวและดอนเมือง 2 เที่ยวบิน และเชียงใหม่ 2 เที่ยวบิน มีการตั้งด่านคัดกรองผู้ป่วยที่มีไข้สูงไว้ และแจกการ์ดคำแนะนำ หากประชาชนที่เดินทางไปเมืองอู่ฮัน ประเทศจีนแล้วกลับมามีไข้ สามารถโทรศัพท์สอบถามได้ที่หมายเลข 1422 และหากมีความจำเป็นต้องเดินทางก็ยังสามารถ
นายอนุทิน กล่าวว่า ตั้งแต่มีการเฝ้าระวังโรคดังกล่าว ขณะนี้ได้รับตัวผู้ที่ต้องสงสัยไว้ 4 คนแต่ยืนยันว่าไม่ได้ป่วยด้วยโรคไวรัสปอดอักเสบที่มาจากประเทศจีน เพียงแต่มีประวัติการเดินทางมาจากเมืองอู่ฮัน 4 คน ทุกคนสบายดี ขณะนี้ผลการตรวจโรคเบื้องต้น พบป่วยไข้หวัดใหญ่ธรรมดา H3N2 และไข้หวัดสายพันธุ์C รอการตรวจยืนยันโรคซ้ำสอง หากพบ ไม่มีอาการป่วย ก็สามารถกลับบ้านได้
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับประวัติผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 คน มี 1 เด็กชายวัย 3 ปี เป็นชาวจีน มาจากอู่ฮั่น ป่วยไข้หวัด H3N2 ตรวจยืนยันโรคครั้งที่ 2 แล้ว รอผลตรวจเท่านั้น ส่วนรายที่ 2-3 เป็นนักศึกษา ที่ไปศึกษาต่อที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เป็น หญิง วัย 24 ปี และ 22 ปี โดยผู้ป่วยรายที่ 2 รอการตรวจโรคเบื้องต้น พบ ป่วยไข้หวัดสายพันธุ์ c ส่วนรายที่ 3 รอผลตรวจรอบที่ 1 ส่วนผู้ต้องสงสัยรายที่4 เป็นนักท่องเที่ยว มีการเดินทางและต้องพักอยู่ที่เมืองอู่ฮันเป็นหญิง วัย 40 ปี ขณะนี้รอผลการตรวจโรคเบื้องต้น และพักรักษาที่รพ.เอกชน ขณะนี้กำลังปรึกษาว่าจะย้ายมารับการรักษาที่สถาบันบำราศนราดูรหรือไม่ เนื่องจาก 3 คนก่อนหน้าที่รักษาที่สถาบันบำราศทั้งหมด
ทั้งนี้ ผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 คน มีอาการดี สามารถตอบโต้ได้ ไม่มีอาการรุนแรง หากตรวจยืนยันจากห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ครบทั้ง 2 แห่งก็สามารถกลับบ้านได้ .-สำนักข่าวไทย